ผู้ว่าการ กฟผ.ยืนยัน ค่าเอฟทีงวดใหม่เดือน ต.ค.-ม.ค.ปรับขึ้นแน่นอน อ้างราคาก๊าซธรรมชาติปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ขณะที่ราคาจริงในตลาดโลกยังปรับลงต่อเนื่อง คาดอาจปรับขึ้นถึง 30-45 ส.ต./หน่วย
วันนี้ (10 ก.ย.) นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวยอมรับว่า ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติผันแปร หรือเอฟทีงวดใหม่ระหว่างเดือน ต.ค.ปี 2551 ถึงเดือน ม.ค.ปี 2552 จะปรับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าได้ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน
นายสมบัติ ระบุว่า คณะกรรมการกำกับนโยบายพลังงาน (บอร์ดเรกกูเลเตอร์) จะดูแลไม่ให้ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชน โดยจะไม่เรียกเก็บในงวดเดียว แต่จะมีการใช้วิธีการเกลี่ยค่าไฟ เนื่องจากคาดว่าแนวโน้มค่าไฟนับจากนี้จะเข้าสู่ช่วงขาลง หลังราคาน้ำมันในปัจจุบันได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 103 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากช่วงต้นปีที่ขึ้นไประดับ 140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ กฟผ.และ ปตท.จะเป็นผู้แบกรับภาระไปก่อนส่วนตัวเลขจะเป็นเท่าไรนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการเรกกูเลเตอร์ โดยในส่วนของ กฟผ.พร้อมที่จะแบกรับภาระเพื่อช่วยเหลือแก่ประชาชนเนื่องจากสภาพคล่องยังดีอยู่
นอกจากนี้ กฟผ.ยังเตรียมออกพันธบัตร หรือ บอนด์ จำนวน 2 พันล้านบาท ในเดือน ต.ค.นี้เพื่อนำมาใช้จ่ายในโครงการต่างๆ เพื่อเสริมสภาพคล่องในการบริหารงานของ กฟผ.
ก่อนหน้านี้ นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเลเตอร์) เปิดเผยถึงการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) รอบเดือน ต.ค.2551-ม.ค. 2552 โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาตัวเลขต้นทุนเชื้อเพลิง ซึ่งยอมรับว่า ราคาก๊าซธรรมชาติ ปรับสูงขึ้นมากตามราคาน้ำมัน และอาจส่งผลต่อค่าเอฟที งวดนี้ ต้องปรับขึ้นกว่า 10 ส.ต./หน่วย แต่จะพยายามดูแลไม่ให้กระทบกับประชาชน
ทั้งนี้ ได้เตรียมแนวทางในการ บริหารค่าเอฟทีไว้หลายวิธี เนื่องจากราคาก๊าซได้ปรับสูงขึ้นมาก โดยขอให้ ปตท.ไปจัดทำแนวโน้มราคาก๊าซในระยะยาว เพื่อนำมาคำนวณหาค่าเฉลี่ย ซึ่งอาจใช้วิธีการเฉลี่ยค่าเอฟทีที่จะปรับ ขึ้นไปอยู่ในรอบถัดๆ ไป เพราะไม่ต้องการให้ต้องมาแบกรับค่าเอฟทีในรอบเดียว
“คงต้องพิจารณาให้รอบคอบในเรื่องนี้ เพราะหากค่าเอฟทีปรับขึ้นมาก ก็อาจกระทบกับประชาชนได้ ซึ่งหาวิธีการลดผลกระทบไว้หลายแนวทาง ส่วนที่จะขอให้ทาง ปตท.และ กฟผ.ช่วยรับภาระต้นทุนเชื้อเพลิง ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง โดยจะสรุปปลายเดือนนี้อีกครั้ง” นายดิเรก กล่าว
แหล่งข่าววงการพลังงาน กล่าวว่า จากการประเมินเบื้องต้น ค่าเอฟทีงวดนี้ อาจปรับขึ้นถึง 30-45 ส.ต./หน่วย จากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ ที่สูงระดับ 220-230 บาท/ล้านบีทียู จากก่อนหน้านี้ 200 บาท/ล้านบีทียู
ด้าน นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน พลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ตนเองได้ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปศึกษาการบริการไฟฟ้าให้ประชาชนได้ดีขึ้น