เศรษฐกิจทรุดจัดสรรเจอปัญหาขาดสภาพคล่องเร่ขายโครงการเพียบ พฤกษาฯแจงครึ่งปีซื้อที่ดินเข้าพร็อตแล้วเกือบ 10 โครงการมูลค่า 1,500ล้านบาท ล่าสุดซื้อที่ร้านค้าวัสดุข้างเมเจอร์ รัชโยธิน เปิด เดอะซี้ด เตร์เร่ ฟุ้งยอดขายไปแล้ว 80% ยอมรับยอดขายบ้านระดับกลาง-ล่างชะลอ เล็งจับนิชมาร์เก็ตระบุกำไรดีกว่า ด้านอนันดาฯไม่หวั่นปัญหาการเมือง ลุยเปิด 2 โครงการคอนโดฯ IDEO Verve Sukhumvit อยู่ฝั่งตรงข้ามเทสโก้ โลตัส อ่อนนุช และ IDEO Verve ราชปรารภ ใกล้แอร์พอร์ตลิงค์ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอทเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า ภาวะปัจจัยลบ ทั้งจากราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ การเมือง ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ ทำให้ยอดขายของผู้ประกอบไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายขาดสภาพคล่อง จนกระทั้งต้องนำที่ดินหรือโครงการ มาเสนอขายให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่หรือนักลงทุนที่มีศักยภาพ
“นับจากต้นปีเป็นต้นมา พฤกษาฯได้เทคโอเวอร์โครงการเก่าหรือกิจการมาแล้ว 8-10 โครงการมูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท และได้ทยอยเปิดไปบ้างแล้วทั้งแนวราบและแนวสูง บางโครงการที่มีที่ดินขนาดใหญ่ ใช้วิธีแบ่งการพัฒนาเป็นหลายเฟส แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเมื่อรู้ว่ากิจการไปไม่รอดแล้วก็ปล่อยขาย ดีกว่าในอดีตที่รอจนกว่าธนาคารมายึดทรัพย์” นายประเสริฐกล่าว
ล่าสุด ได้ซื้อที่ดินของร้านขายวัสดุก่อสร้างย่านรัชโยธิน ติดถนนใหญ่ข้างเมเจอร์ รัชโยธิน เนื้อที่กว่า 2 ไร่ ในราคา 157 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ เดอะซี้ด เตร์เร่ รัชโยธิน จำนวน 2 อาคาร สูง 8 ชั้น 236 ยูนิต โดยใช้เงินลงทุนก่อสร้าง 300 ล้านบาท เสนอขายในราคา 75,000 บาท/ตร.ม. หรือเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 585 ล้านบาท
ปัจจุบัน โครงการดังกล่าวมียอดจองแล้วกว่า 80% และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 กันยายนนี้
ส่วนสาเหตุที่โครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ มาจากการปรับแผนธุรกิจใหม่ โดยหันมาเน้นจับกลุ่มลูกค้าตลาดเฉพาะหรือนีชมาร์เก็ต อีกทั้งยังเป็นโครงการขนาดเล็กทำให้สามารถปิดการขายได้เร็ว อย่างไรก็ตาม การเข้ามาจับตลาดนีชมาร์เก็ต เนื่องมาจากกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทเป็นกลุ่มตลาดระดับกลาง-ล่าง ซึ่งกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากราคาน้ำมัน และอัตราเงินเฟ้อ ทำให้กำลังซื้อลดลง และมีการชะลอการตัดสินใจ ดังนั้นบริษัทจึงหันมาจับตลาดเฉพาะ ซึ่งสามารถสร้างรายได้และกำไรได้มากกว่า โดยในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับ 35.3% ส่วนรายได้ในช่วง 2 เดือนของไตรมาส 3 สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 3800 ล้านบาท
“ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร บริษัทยังคงแผนการดำเนินงานคงเดิม โดยตั้งเป้าทั้งปีเปิด 46 โครงการ ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 30 โครงการ และจะทยอยเปิดอีก 16 โครงการที่เหลือ มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท ให้ครบภายในสิ้นปีนี้” นายประเสริฐ กล่าว
ด้านนายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้จะร้อนแรง แต่บริษัทฯยังคงเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ โดยได้เปิด 2 โครงการคอนโดฯ ใน 2 ทำเล คือ โครงการ IDEO Verve Sukhumvit เนื้อที่ 3 ไร่ อาคารสูง 30 ชั้น จำนวน 490 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โครงการดังกล่าวอยู่ฝั่งตรงข้ามเทสโก้ โลตัส อ่อนนุช โดยเปิดให้จองในวันที่ 13-14 ก.ย.นี้ นอกจากนี้ ภายในเดือนก.ย.จะเปิดตัวโครงการใหม่ IDEO Verve ราชปรารภ มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่มีทำเลที่ตั้งติด Airport Link
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอทเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า ภาวะปัจจัยลบ ทั้งจากราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ การเมือง ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ ทำให้ยอดขายของผู้ประกอบไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายขาดสภาพคล่อง จนกระทั้งต้องนำที่ดินหรือโครงการ มาเสนอขายให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่หรือนักลงทุนที่มีศักยภาพ
“นับจากต้นปีเป็นต้นมา พฤกษาฯได้เทคโอเวอร์โครงการเก่าหรือกิจการมาแล้ว 8-10 โครงการมูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท และได้ทยอยเปิดไปบ้างแล้วทั้งแนวราบและแนวสูง บางโครงการที่มีที่ดินขนาดใหญ่ ใช้วิธีแบ่งการพัฒนาเป็นหลายเฟส แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเมื่อรู้ว่ากิจการไปไม่รอดแล้วก็ปล่อยขาย ดีกว่าในอดีตที่รอจนกว่าธนาคารมายึดทรัพย์” นายประเสริฐกล่าว
ล่าสุด ได้ซื้อที่ดินของร้านขายวัสดุก่อสร้างย่านรัชโยธิน ติดถนนใหญ่ข้างเมเจอร์ รัชโยธิน เนื้อที่กว่า 2 ไร่ ในราคา 157 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ เดอะซี้ด เตร์เร่ รัชโยธิน จำนวน 2 อาคาร สูง 8 ชั้น 236 ยูนิต โดยใช้เงินลงทุนก่อสร้าง 300 ล้านบาท เสนอขายในราคา 75,000 บาท/ตร.ม. หรือเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 585 ล้านบาท
ปัจจุบัน โครงการดังกล่าวมียอดจองแล้วกว่า 80% และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 กันยายนนี้
ส่วนสาเหตุที่โครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ มาจากการปรับแผนธุรกิจใหม่ โดยหันมาเน้นจับกลุ่มลูกค้าตลาดเฉพาะหรือนีชมาร์เก็ต อีกทั้งยังเป็นโครงการขนาดเล็กทำให้สามารถปิดการขายได้เร็ว อย่างไรก็ตาม การเข้ามาจับตลาดนีชมาร์เก็ต เนื่องมาจากกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทเป็นกลุ่มตลาดระดับกลาง-ล่าง ซึ่งกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากราคาน้ำมัน และอัตราเงินเฟ้อ ทำให้กำลังซื้อลดลง และมีการชะลอการตัดสินใจ ดังนั้นบริษัทจึงหันมาจับตลาดเฉพาะ ซึ่งสามารถสร้างรายได้และกำไรได้มากกว่า โดยในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับ 35.3% ส่วนรายได้ในช่วง 2 เดือนของไตรมาส 3 สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 3800 ล้านบาท
“ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร บริษัทยังคงแผนการดำเนินงานคงเดิม โดยตั้งเป้าทั้งปีเปิด 46 โครงการ ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 30 โครงการ และจะทยอยเปิดอีก 16 โครงการที่เหลือ มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท ให้ครบภายในสิ้นปีนี้” นายประเสริฐ กล่าว
ด้านนายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้จะร้อนแรง แต่บริษัทฯยังคงเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ โดยได้เปิด 2 โครงการคอนโดฯ ใน 2 ทำเล คือ โครงการ IDEO Verve Sukhumvit เนื้อที่ 3 ไร่ อาคารสูง 30 ชั้น จำนวน 490 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โครงการดังกล่าวอยู่ฝั่งตรงข้ามเทสโก้ โลตัส อ่อนนุช โดยเปิดให้จองในวันที่ 13-14 ก.ย.นี้ นอกจากนี้ ภายในเดือนก.ย.จะเปิดตัวโครงการใหม่ IDEO Verve ราชปรารภ มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่มีทำเลที่ตั้งติด Airport Link
