PYLON ลั่นครึ่งปีหลังพร้อมลุยงานรับเหมาฐานรากควบคู่กันทั้งรัฐ-เอกชน เชื่อราคาน้ำมันลดแถมโครงการรถไฟฟ้าเริ่มเดินหน้า ทำธุรกิจก่อสร้างกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง เชื่อหนุนรายได้ปีนี้มั่นใจทะลุ 550 ล้านบาท หลังไตรมาส 2 กำไรกระฉูด 324.43 % ดันงวดครึ่งปีแรกกำไรทะยาน "บดินทร์ " เผยปรับแผนธุรกิจเน้นงานต้นน้ำภาคเอกชน ส่งผลรายได้เพิ่มหนุนกำไรพุ่งในทิศทางเดียวกัน
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) PYLON กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า มีโอกาสจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกได้ เนื่องจาก ภาพรวมของธุรกิจก่อสร้างในครึ่งปีหลังน่าจะได้รับผลดีจากการที่ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลง แม้สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการเมืองที่มีความไม่แน่นอนสูง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขยับสูงขึ้นอาจ จะทำให้ประชาชนระมัดระวังในการใช้จ่าย และอาจทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงบ้าง แต่จากผลการประมูลการก่อสร้างรถไฟฟ้าในบางสายเช่น สายสีม่วงที่อาจจะได้ผู้รับเหมาในปลายปีนี้ จะทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจก่อสร้างกลับมาคึกคักได้ ส่งผลให้ธุรกิจฐานรากจะได้รับอานิสงส์จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าก่อนงานก่อสร้างในส่วนอื่นๆ ซึ่งการที่บริษัทฯ ยังคงเน้นงานประเภทฐานรากซึ่งเป็นงานต้นน้ำที่มีความเสี่ยงต่ำ และมุ่งขยายธุรกิจควบคู่กันทั้งงานภาครัฐและเอกชน จะทำให้มีงานในมือเพิ่มขึ้น และสามารถรับรู้รายได้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น สะท้อนให้รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกได้
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท เมื่อรวมกับในครึ่งหลังของปีที่ เชื่อว่างานภาครัฐจะทยอยไหลลงสู่ตลาดชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะงานรถไฟฟ้าสายต่างๆ เมื่อรัฐบาลสามารถคัดเลือกผู้รับเหมางานรถไฟฟ้าได้สำเร็จ จะทำให้ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังน่าจะยังดีต่อเนื่อง โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตมาอยู่ที่ 550 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้แบบไม่มีปัญหา และจาก Backlog ที่สูงขึ้นจากปีก่อน และการแข่งขันเริ่มจะลดลง ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าจะทำให้ผลกำไรในปีนี้สูงกว่าที่ประมาณการไว้ด้วย
นายบดินทร์กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีรายได้ 181.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.99 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2550 ที่มีรายได้ 82.09 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 13.03 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9.96 ล้านบาท หรือ 324.43 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.07 ล้านบาท ในขณะที่งวด 6 เดือนมีรายได้ 335.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 180.14ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.09 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 137.80 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.71 ล้านบาทโดยรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้เป็นผลมาจากบริษัทเข้ารับงานต่างๆ มากขึ้นโดยเฉพาะงานภาคเอกชน ประเภทคอนโดมิเนียม ส่งผลให้รายได้และกำไรเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน
" กำไรที่เพิ่มขึ้นชัดเจนในไตรมาส 2 เป็นไปตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการเข้ารับงานฐานรากในภาคเอกชน ในช่วงที่งานภาครัฐยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ทำให้รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกได้ชัดเจนกว่า 300% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 50 บวกกับพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อให้รับมือกับการแข่งขันที่ยังมีอยู่ในตลาดได้อย่างคล่องตัว รวมถึงควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง " นายบดินทร์กล่าวในที่สุด
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) PYLON กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า มีโอกาสจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกได้ เนื่องจาก ภาพรวมของธุรกิจก่อสร้างในครึ่งปีหลังน่าจะได้รับผลดีจากการที่ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลง แม้สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการเมืองที่มีความไม่แน่นอนสูง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขยับสูงขึ้นอาจ จะทำให้ประชาชนระมัดระวังในการใช้จ่าย และอาจทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงบ้าง แต่จากผลการประมูลการก่อสร้างรถไฟฟ้าในบางสายเช่น สายสีม่วงที่อาจจะได้ผู้รับเหมาในปลายปีนี้ จะทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจก่อสร้างกลับมาคึกคักได้ ส่งผลให้ธุรกิจฐานรากจะได้รับอานิสงส์จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าก่อนงานก่อสร้างในส่วนอื่นๆ ซึ่งการที่บริษัทฯ ยังคงเน้นงานประเภทฐานรากซึ่งเป็นงานต้นน้ำที่มีความเสี่ยงต่ำ และมุ่งขยายธุรกิจควบคู่กันทั้งงานภาครัฐและเอกชน จะทำให้มีงานในมือเพิ่มขึ้น และสามารถรับรู้รายได้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น สะท้อนให้รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกได้
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท เมื่อรวมกับในครึ่งหลังของปีที่ เชื่อว่างานภาครัฐจะทยอยไหลลงสู่ตลาดชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะงานรถไฟฟ้าสายต่างๆ เมื่อรัฐบาลสามารถคัดเลือกผู้รับเหมางานรถไฟฟ้าได้สำเร็จ จะทำให้ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังน่าจะยังดีต่อเนื่อง โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตมาอยู่ที่ 550 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้แบบไม่มีปัญหา และจาก Backlog ที่สูงขึ้นจากปีก่อน และการแข่งขันเริ่มจะลดลง ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าจะทำให้ผลกำไรในปีนี้สูงกว่าที่ประมาณการไว้ด้วย
นายบดินทร์กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีรายได้ 181.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.99 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2550 ที่มีรายได้ 82.09 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 13.03 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9.96 ล้านบาท หรือ 324.43 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.07 ล้านบาท ในขณะที่งวด 6 เดือนมีรายได้ 335.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 180.14ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.09 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 137.80 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.71 ล้านบาทโดยรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้เป็นผลมาจากบริษัทเข้ารับงานต่างๆ มากขึ้นโดยเฉพาะงานภาคเอกชน ประเภทคอนโดมิเนียม ส่งผลให้รายได้และกำไรเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน
" กำไรที่เพิ่มขึ้นชัดเจนในไตรมาส 2 เป็นไปตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการเข้ารับงานฐานรากในภาคเอกชน ในช่วงที่งานภาครัฐยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ทำให้รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกได้ชัดเจนกว่า 300% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 50 บวกกับพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อให้รับมือกับการแข่งขันที่ยังมีอยู่ในตลาดได้อย่างคล่องตัว รวมถึงควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง " นายบดินทร์กล่าวในที่สุด