ASTVผู้จัดการรายวัน - ไพลอน อ่อยผลงานไตรมาส 3 ทรุดกว่า 2 ไตรมาสแรก เหตุนักลงทุนตระหนกการเมืองในประเทศช่วงเมษายน ส่งผลต่อการรับรู้รายได้ช่วงนี้ ฟุ้งไตรมาส 4 ออกมาดีเพราะงานเข้าหลังการเมืองสงบ ประเมินภาพรวมทั้งปีต่ำกว่าปี 51 หรือไม่เกิน 700 ล้านบาท เชื่อปี หน้าสดใสหลังโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ เดินหน้าก่อสร้าง
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ที่กำลังจะประกาศออกมาว่าจะต่ำกว่าสองไตรมาสแรก เนื่องจากเป็นการรับรู้รายได้จากงานในช่วงที่เกิดการจราจลเมื่้อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพราะเกิดการตระหนกส่งผลต่อต่อการลงทุนในประเทศ ทำให้ส่งผลกระทบต่อรายได้ที่จะรับรู้เข้ามาช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ เนื่องจากการลงทุนต่าง ๆ ชะลอ ประกอบกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อผู้ประกอบการทุกธุรกิจ รวมทั้งการใช้จ่ายลงทุนเพื่อก่อสร้างต่าง ๆ ล้วนพับแผนกันไปถ้วนหน้า
โดยผู้บริหาร แจงว่างบการเงินของ PYLON ออกมาดีในไตรมาสแรกปีนี้ เพราะรับรู้รายได้จากงานเก่าในมือกว่า 200 ล้านบาทและยังรับรู้รายได้จากบริษัทลูกหนุน แม้ไตรมาส 2 จะชะลอลงบ้าง แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่กำลังจะประกาศออกมานั้น ถือว่าทั้งสองไตรมาสแรกดีกว่า อย่างไรก็ดี บริษัทเชื่อว่าผลงานไตรมาส 4 ปีนี้จะดีขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะการทะยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (backlog) ที่ทะยอยรับงานเข้ามาหลังการเมืองสงบ ส่งผลให้โดยรวมปี 52 ที่บริษัทประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าผลงานจะทรุดต่ำแต่จนถึงปัจจุบันถือว่าดีกว่าที่ประเมิน แต่เมื่อรวมกับปี 51 ถือว่าต่ำกว่า
นอกจากนี้ หลังจากบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นใน บริษัท เอ็กซิลอน จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เพื่อเป็นการเดินตามแผนการทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างให้หลากหลายและครบวงจรมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทแม่อย่างเต็มที่ และปีนี้ เอ็กซิลอน จะรับรู้รายได้เข้ามาสู่บริษัทแม่เต็มปี แม้กระนั้นภาพรวมปีนี้ทั้งปีผลงานของ PYLON จะต่ำกว่าปี 51 โดยเป้าหมายรายได้ PYLON ปีนี้อยู่ที่ 500-700 ล้านบาท และถึงสิ้นไตรมาส 3 เชื่อว่าผลงานเข้าเป้าแผนที่วางไว้ แต่ถือว่าลดลงจากก่อนหน้าเพราะราคาเหล็กและน้ำมันที่ลดลง ทำให้มูลค่าโครงการต่ำ
" รายได้จากเอ็กซิลอน เราได้กำไรไตรมาสละ 4 ล้านบาท ถือว่าพอใจแล้วและปีหน้าหลังจากที่โครงการรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ เริ่มดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลที่เร่งผลักดันโครงการเมกะโปรเจ็กต์ออกสู่ตลาด ก็จะส่งผลดีต่อเราด้วย เพราะขณะนี้มีความชัดเจนในการสัญญาการก่อสร้างแล้ว คาดว่าการลงสัญญาต่าง ๆ ระหว่างผู้ชนะการประมูลและภาครัฐ จะลงเป็นลายลักษณ์อักษรได้เสร็จสิ้นปีนี้และจะเริ่มเปิดดำเนินการตามแผนได้ต้นปี 53 ซึ่งผมเชื่อว่าไตรมาส 4 ปีนี้ไปจนถึง ปี 53 จะเป็นปีที่สดใสของเราด้วย เพราะแนวโน้มต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น " นายบดินทร์กล่าว
สำหรับงานในมือนั้น ปัจจุบัน PYLON มีอยู่ 130-150 ล้านบาท ซึ่งจะทะยอยรับรู้ไตรมาส 4 และไตรมาสแรกปี 52 ส่วนงานในมือของ เอ็กซิลอนมีอยู่ 170 ล้านบาท ทะยอยรับรู้ไตรมาส 4 และตลอดปี 53 นอกจากนี้บริษัทต้องเร่งหางานใหม่เพื่อเพิ่มงานในมือป้องกันควาามเสี่ยง ประกอบกับงานฐานรากที่บริษัทถนัดนั้น มีระยะเวลาก่อสร้างสั้น ๆ ประมาณ 2-3 เดือนในการรับรู้รายได้ ทำให้เวลาในการบริหารเสร็จเร็ว ดังนั้นการหางานในมือเพิ่มต่อเนื่องเป็นสิ่งที่บริษัทถือปฎิบัติต่อเนื่องมา
สำหรับราคาหุ้น PYLON เมื่อ 22 ต.ค. เปิดตลาดที่ 2.42 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของวันก่อนปรับมาต่ำสุดที่ 2.34 บาท และปิดตลาดที่ราคา 2.34 บาท เปลี่ยนแปลงลดลง 10 สตางค์คิดเป็น 4.10% มูลค่าซื้อขาย 7.11 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ขยับจากเดิมนัก เพราะราคาหุ้นเมื่อเดือนกันยายนยังเทรดที่ราคาต่ำกว่า 2 บาท และเพิ่งจะปรับขึ้นมาเมื่อปลายเดือนและยืนเทรดเหนือ 2 บาท
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ที่กำลังจะประกาศออกมาว่าจะต่ำกว่าสองไตรมาสแรก เนื่องจากเป็นการรับรู้รายได้จากงานในช่วงที่เกิดการจราจลเมื่้อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพราะเกิดการตระหนกส่งผลต่อต่อการลงทุนในประเทศ ทำให้ส่งผลกระทบต่อรายได้ที่จะรับรู้เข้ามาช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ เนื่องจากการลงทุนต่าง ๆ ชะลอ ประกอบกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อผู้ประกอบการทุกธุรกิจ รวมทั้งการใช้จ่ายลงทุนเพื่อก่อสร้างต่าง ๆ ล้วนพับแผนกันไปถ้วนหน้า
โดยผู้บริหาร แจงว่างบการเงินของ PYLON ออกมาดีในไตรมาสแรกปีนี้ เพราะรับรู้รายได้จากงานเก่าในมือกว่า 200 ล้านบาทและยังรับรู้รายได้จากบริษัทลูกหนุน แม้ไตรมาส 2 จะชะลอลงบ้าง แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่กำลังจะประกาศออกมานั้น ถือว่าทั้งสองไตรมาสแรกดีกว่า อย่างไรก็ดี บริษัทเชื่อว่าผลงานไตรมาส 4 ปีนี้จะดีขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะการทะยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (backlog) ที่ทะยอยรับงานเข้ามาหลังการเมืองสงบ ส่งผลให้โดยรวมปี 52 ที่บริษัทประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าผลงานจะทรุดต่ำแต่จนถึงปัจจุบันถือว่าดีกว่าที่ประเมิน แต่เมื่อรวมกับปี 51 ถือว่าต่ำกว่า
นอกจากนี้ หลังจากบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นใน บริษัท เอ็กซิลอน จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เพื่อเป็นการเดินตามแผนการทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างให้หลากหลายและครบวงจรมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทแม่อย่างเต็มที่ และปีนี้ เอ็กซิลอน จะรับรู้รายได้เข้ามาสู่บริษัทแม่เต็มปี แม้กระนั้นภาพรวมปีนี้ทั้งปีผลงานของ PYLON จะต่ำกว่าปี 51 โดยเป้าหมายรายได้ PYLON ปีนี้อยู่ที่ 500-700 ล้านบาท และถึงสิ้นไตรมาส 3 เชื่อว่าผลงานเข้าเป้าแผนที่วางไว้ แต่ถือว่าลดลงจากก่อนหน้าเพราะราคาเหล็กและน้ำมันที่ลดลง ทำให้มูลค่าโครงการต่ำ
" รายได้จากเอ็กซิลอน เราได้กำไรไตรมาสละ 4 ล้านบาท ถือว่าพอใจแล้วและปีหน้าหลังจากที่โครงการรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ เริ่มดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลที่เร่งผลักดันโครงการเมกะโปรเจ็กต์ออกสู่ตลาด ก็จะส่งผลดีต่อเราด้วย เพราะขณะนี้มีความชัดเจนในการสัญญาการก่อสร้างแล้ว คาดว่าการลงสัญญาต่าง ๆ ระหว่างผู้ชนะการประมูลและภาครัฐ จะลงเป็นลายลักษณ์อักษรได้เสร็จสิ้นปีนี้และจะเริ่มเปิดดำเนินการตามแผนได้ต้นปี 53 ซึ่งผมเชื่อว่าไตรมาส 4 ปีนี้ไปจนถึง ปี 53 จะเป็นปีที่สดใสของเราด้วย เพราะแนวโน้มต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น " นายบดินทร์กล่าว
สำหรับงานในมือนั้น ปัจจุบัน PYLON มีอยู่ 130-150 ล้านบาท ซึ่งจะทะยอยรับรู้ไตรมาส 4 และไตรมาสแรกปี 52 ส่วนงานในมือของ เอ็กซิลอนมีอยู่ 170 ล้านบาท ทะยอยรับรู้ไตรมาส 4 และตลอดปี 53 นอกจากนี้บริษัทต้องเร่งหางานใหม่เพื่อเพิ่มงานในมือป้องกันควาามเสี่ยง ประกอบกับงานฐานรากที่บริษัทถนัดนั้น มีระยะเวลาก่อสร้างสั้น ๆ ประมาณ 2-3 เดือนในการรับรู้รายได้ ทำให้เวลาในการบริหารเสร็จเร็ว ดังนั้นการหางานในมือเพิ่มต่อเนื่องเป็นสิ่งที่บริษัทถือปฎิบัติต่อเนื่องมา
สำหรับราคาหุ้น PYLON เมื่อ 22 ต.ค. เปิดตลาดที่ 2.42 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของวันก่อนปรับมาต่ำสุดที่ 2.34 บาท และปิดตลาดที่ราคา 2.34 บาท เปลี่ยนแปลงลดลง 10 สตางค์คิดเป็น 4.10% มูลค่าซื้อขาย 7.11 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ขยับจากเดิมนัก เพราะราคาหุ้นเมื่อเดือนกันยายนยังเทรดที่ราคาต่ำกว่า 2 บาท และเพิ่งจะปรับขึ้นมาเมื่อปลายเดือนและยืนเทรดเหนือ 2 บาท
