มิตซูบิชิ เปิดเกมรุกตลาดปีหนู เน้นสินค้าที่ชำนาญ พร้อมรุกกลุ่มใหม่ เอวีเชิงพาณิชย์ไม่ใช่บันเทิง ลั่นรักษาส่วนแบ่งตลาดมากกว่าเพิ่มส่วนแบ่ง คาดปีนี้เติบโต 7%
นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2551 ว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งความต้องการของตลาดลดลงเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นอกจากนี้ปีที่ผ่านมา สภาพการตัดราคาสินค้าแข่งขันมีน้อยลง เนื่องจากภาวะต้นทุนเพิ่มขึ้น ดังนั้นแผนบริษัทฯปี 2551 จะเน้นที่การรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดที่มีอยู่มากกว่าจะเร่งเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด และเน้นสินค้าที่เรามีความชำนาญ
“ความต้องการของตลาดสำหรับเครื่องปรับอากาศ และอัตราการเติบโตในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 550,000 เครื่อง เติบโต 5-6% และปี 2551 คาดว่าตลาดรวมจะอยู่ที่ 590,000 เครื่อง หรือเติบโต 6-7 %”
สำหรับสินค้าที่ทำรายได้ให้กับบริษัทฯมากที่สุดในปีที่แล้วคือ เครื่องปรับอากาศ มีสัดส่วน 56% ของยอดขายสินค้าทั้งหมด รองลงมาคือ ตู้เย็น สัดส่วน 21% พัดลม สัดส่วน 7% พัดลมระบายอากาศ มีสัดส่วน 2% และปั๊มน้ำ สัดส่วน 10% นอกจากนั้นเป็นสินค้าให้หมวดอื่นๆ เช่น โปรเจคเตอร์ มีสัดส่วนการขาย 4% สำหรับเป้ารายได้ปี 2551 น่าจะเติบโตขึ้นจากปีก่อน 7 – 8% หรืออยู่ที่ 7,650 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 7,100 ล้านบาท ในปี 2550 โดยสินค้าหลักยังคงเป็นเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น”
“ในสินค้าเครื่องปรับอากาศ บริษัทฯตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากเดิม 27.2% เป็น 28% และคาดว่ายอดขายเพิ่ม 7% ส่วนสินค้าตู้เย็น บริษัทฯคาดว่าจะเติบโต 7% โดยมีเป้าหมายรักษาสัดส่วนตลาด 23% เท่ากับปี 2550 สินค้าพัดลม คาดว่ายอดขายเติบโตขึ้นเป็น 4% โดยมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 25% ในส่วนสินค้าพัดลมระบายอากาศ คาดว่ายอดขายเติบโต 3% และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 46% และปั๊มน้ำ คาดว่ายอดขายเติบโต 13% และครองส่วนแบ่งตลาดได้ 50% ส่วนสินค้าโปรเจ็คเตอร์ ซึ่งมิตซูบิชิอีเล็คทริคเพิ่งจะรุกตลาดนี้ไม่นาน ทำยอดขายเติบโตได้น่าพอใจ ที่ 20%” นายประพนธ์ กล่าว
นอกจากนั้นยังมีแผนรุกกลุ่มสินค้าใหม่ เอวีแบบเชิงพาณิชย์ไม่ใช่บันเทิง เช่น กล้องวงจรปิดซีซีทีวี มอนิเตอร์แอลซีดี เป็นต้น
ปีนี้จัดงบประมาณการตลาดไว้ที่ 700 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะใช้ในมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดใหม่ที่เราจะใช้บุกตลาดในปีนี้ พร้อมกับแผนเจาะเข้าไปยังกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่
ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังมีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 400 รายทั่วประเทศ และยังมี MEQ Shop อีก 30 ร้าน ซึ่งเป็นร้านที่เน้นจำหน่ายสินค้าของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศอย่างทั่วถึง มีแผนจะเพิ่มอีก 5-6 รายปีนี้
นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2551 ว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งความต้องการของตลาดลดลงเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นอกจากนี้ปีที่ผ่านมา สภาพการตัดราคาสินค้าแข่งขันมีน้อยลง เนื่องจากภาวะต้นทุนเพิ่มขึ้น ดังนั้นแผนบริษัทฯปี 2551 จะเน้นที่การรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดที่มีอยู่มากกว่าจะเร่งเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด และเน้นสินค้าที่เรามีความชำนาญ
“ความต้องการของตลาดสำหรับเครื่องปรับอากาศ และอัตราการเติบโตในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 550,000 เครื่อง เติบโต 5-6% และปี 2551 คาดว่าตลาดรวมจะอยู่ที่ 590,000 เครื่อง หรือเติบโต 6-7 %”
สำหรับสินค้าที่ทำรายได้ให้กับบริษัทฯมากที่สุดในปีที่แล้วคือ เครื่องปรับอากาศ มีสัดส่วน 56% ของยอดขายสินค้าทั้งหมด รองลงมาคือ ตู้เย็น สัดส่วน 21% พัดลม สัดส่วน 7% พัดลมระบายอากาศ มีสัดส่วน 2% และปั๊มน้ำ สัดส่วน 10% นอกจากนั้นเป็นสินค้าให้หมวดอื่นๆ เช่น โปรเจคเตอร์ มีสัดส่วนการขาย 4% สำหรับเป้ารายได้ปี 2551 น่าจะเติบโตขึ้นจากปีก่อน 7 – 8% หรืออยู่ที่ 7,650 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 7,100 ล้านบาท ในปี 2550 โดยสินค้าหลักยังคงเป็นเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น”
“ในสินค้าเครื่องปรับอากาศ บริษัทฯตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากเดิม 27.2% เป็น 28% และคาดว่ายอดขายเพิ่ม 7% ส่วนสินค้าตู้เย็น บริษัทฯคาดว่าจะเติบโต 7% โดยมีเป้าหมายรักษาสัดส่วนตลาด 23% เท่ากับปี 2550 สินค้าพัดลม คาดว่ายอดขายเติบโตขึ้นเป็น 4% โดยมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 25% ในส่วนสินค้าพัดลมระบายอากาศ คาดว่ายอดขายเติบโต 3% และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 46% และปั๊มน้ำ คาดว่ายอดขายเติบโต 13% และครองส่วนแบ่งตลาดได้ 50% ส่วนสินค้าโปรเจ็คเตอร์ ซึ่งมิตซูบิชิอีเล็คทริคเพิ่งจะรุกตลาดนี้ไม่นาน ทำยอดขายเติบโตได้น่าพอใจ ที่ 20%” นายประพนธ์ กล่าว
นอกจากนั้นยังมีแผนรุกกลุ่มสินค้าใหม่ เอวีแบบเชิงพาณิชย์ไม่ใช่บันเทิง เช่น กล้องวงจรปิดซีซีทีวี มอนิเตอร์แอลซีดี เป็นต้น
ปีนี้จัดงบประมาณการตลาดไว้ที่ 700 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะใช้ในมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดใหม่ที่เราจะใช้บุกตลาดในปีนี้ พร้อมกับแผนเจาะเข้าไปยังกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่
ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังมีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 400 รายทั่วประเทศ และยังมี MEQ Shop อีก 30 ร้าน ซึ่งเป็นร้านที่เน้นจำหน่ายสินค้าของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศอย่างทั่วถึง มีแผนจะเพิ่มอีก 5-6 รายปีนี้