xs
xsm
sm
md
lg

ธอส.หันจับลูกค้าสินเชื่อบ้านเช่า ปล่อยกู้ซื้อคอนโดยกชั้นลดต้นทุนก่อสร้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธอส.หาทางออกหนีภาวะเศรษฐกิจขาลงตอบสนองความต้องการลูกค้าสินเชื่อเพื่อธุรกิจบ้านเช่าเตรียมเปิดตัวเต็มรูปแบบต้นปีหน้า หวังกวาดยอดสินเชื่อ 5 พันล้านบาทหรือ 5% ของพอร์ตรวม ระบุตลาดมีความต้องการสูงผู้ประกอบการเลี่ยงก่อสร้างอพาร์ตเม้นต์เองหันซื้อคอนโดยกฟลอร์ให้เช่าประหยัดต้นทุนมากกว่า

นางจามรี เศวตจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลกระทบต่อการขยายสินเชื่อให้กับประชาชนที่มีรายได้ระดับปานกลางและรานได้น้อย ส่งผลให้สายงานสินเชื่อได้ประเมินทิศทางความต้องการของตลาดใหม่ซึ่งในระยะหลังมีลูกค้าบางส่วนได้สนใจยื่นขอสินเชื่อเพื่อทำธุรกิจบ้านเช่ามากขึ้น

ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อประเภทนี้ส่วนใหญ่มีที่ดินที่อยู่ในทำเลดีและต้องการสร้างบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์และอพาร์ทเม้นต์ให้เช่า โดยในระยะยาวแล้วจะถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดีและมั่นคงสำหรับลูกค้ามากกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีที่ธอส.ได้ทดลองตลาดกับลูกค้ากลุ่มนี้น่าจะได้รับความสนใจที่ดีในระดับหนึ่ง

“ช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้เรายังไม่ได้หวังตัวเลขสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นในจำนวนที่มากนักเพราะต้องเสนอเรื่องให้บอร์ดพิจารณาก่อน แต่จากการสำรวจตลาดแล้วพบว่ามีลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างดีและส่วนหนึ่งเป็ฯการติดต่อขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจบ้านเช่ามาที่สาขาของธนาคารเอง ซึ่งธอส.เตรียมที่จะเปิดตัวสินเชื่อเพื่อธุรกิจบ้านเช่าอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้าและคาดว่าจะสามารถขยายสินเชื่อได้ประมาณ 5% ของพอร์ตสินเชื่อรวมหรืออยู่ที่ประมาณ 5 พันล้านบาท” นางจามรีกล่าว

นางจามรีกล่าวว่า สำหรับสินเชื่อเพื่อธุรกิจบ้านเช่านี้ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยผู้ประกอบการทั่วไปและผู้กู้สร้างแฟลตที่ 8.0% โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะมีที่ดินในทำเลที่มีดีมีลูกค้าแน่นอน เช่น บริเวณที่มีการคมนาคมสะดวก เดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างรวดเร็ว หรืออยู่ใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัย สถานศึกษา ย่านโรงงานอุตสาหกรรมที่มีประชากรอยาศัยอยู่มากพอสมควร

แต่ในระยะหลังที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นได้ผลักดันให้ค่าวัสดุก่อสร้างและค่าแรงคนงานเพิ่มขึ้นทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนชะลอการสร้างบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ หรือแฟลตให้เช่าออกไป และหันมาซื้อคอนโดมิเนียมแบบยกชั้น เนื่องจากได้ห้องเช้าที่เพียงแค่ตกแต่งก็สามารถเข้าอยู่ได้ทันที เพราะหากกู้เงินจากธนาคารเพื่อไปก่อสร้างบ้านต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะเสร็จ การซื้อคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่จะให้ผลตอบแทนที่เร็วกว่าและกำลังได้รับความนิยมในขณะนี้

“แนวโน้มของตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามภาวะของเศรษฐกิจ เช่นในปัจจุบันที่ค่าวัสดุก่อสร้างพุ่งตามราคาน้ำมันและค่าแรงก็สูงขึ้นทำให้การก่อสร้างแฟลตใหม่ไม่คุ้มและใช้เวลานาน สู้เอาเงินไปซื้อคอนโดที่สร้างเสร็จในทำเลที่ดีเพื่อปล่อยเช่าจะทำให้ได้ผลตอบแทนเร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคตว่าทิศทางของตลาดจะเป็นอย่างไรยังไม่สามารถคาดเดาภาวะเศรษฐกิจในระยะยาวได้” นางจามรีกล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2551 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 5.82 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.74% โดยครึ่งแรกของปี 2551 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 3.45 หมื่นล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 49,002 ราย ด้านเงินฝากธนาคารมียอดเงินฝากรวม 4.94 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.88% สินทรัพย์รวม 6.37 แสน ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.67% โดยมีหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) จำนวน 6.89 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 11.84% ของยอดสินเชื่อรวม และทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPA) คงเหลือ 7.4 พันล้านบาท นับเป็นความสำเร็จจากการบริหารหนี้เสียของธนาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ธนาคารยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อคุณภาพตามนโยบายรัฐบาลให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยยังคงมุ่งเน้นการจัดหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องและเพียงพอกับปริมาณสินเชื่อที่ปล่อยให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง นอกจากนี้ ธนาคารยังได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่หลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าแต่ละกลุ่ม เช่น โครงการบ้านมิตรภาพ สปส.- ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประกันตนที่มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 30,000 บาท โครงการบ้าน ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก สำหรับผู้มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 15,000 บาท และโครงการบ้าน ธอส. - กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ รุ่นที่ 5 นอกจากนี้ ธนาคารได้สร้างสรรค์พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ออกแคมเปญเงินฝากประจำ 5 เดือน รับดอกเบี้ยสูง 3.80% ต่อปีโดยมีเงินฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการภายในวันที่ 31 สิงหาคม ศกนี้ เท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น