RATCH ชะลอโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศเกือบหมด เว้นโครงการน้ำงึม 2 ที่สปป.ลาว เหตุรอเจรจาขอปรับขึ้นค่าไฟฟ้า หลังต้นทุนค่าก่อสร้างขึ้นพรวด 25-30% ส่วนโรงไฟฟ้าที่เกาะกง รอจังหวะความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ดีขึ้นก่อนค่อยเดินหน้า
นายณรงค์ สีตสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการลงทุนในต่างประเทศว่า ขณะนี้บริษัทได้ชะลอโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศเกือบทั้งหมด เว้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 2 ที่จะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2556 โดยโครงการโรงไฟฟ้าในสปปซโรงไฟฟ้าในลาวจำนวน 3 โครงการ คือโรงไฟฟ้าหงสา โรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 3 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำบาก โครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินที่เกาะกง ในกัมพูชาอีก 1โครงการ ทำให้งบการลงทุน 5ปีนี้ (2551-2555) ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ต้องปรับลดลง ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงตัวเลขการลงทุนใหม่
สำหรับสาเหตุที่ต้องเลื่อนโครงการโรงไฟฟ้าที่สปป.ลาวนั้น เนื่องจากต้องเจรจาขอปรับขึ้นค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ก่อน เพราะต้นทุนการก่อสร้างได้ปรับเพิ่มสูงขึ้น 25-30% โดยโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 3 ขนาด 440 เมกะวัตต์จะเลื่อนการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไทยออกไป 1ปีเป็นปี 2557เป็นที่แน่นอนแล้ว ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าหงสาขนาดกำลังผลิต 1653 เมกะวัตต์ ทางผู้รับเหมาก่อสร้างขอปรับขึ้นค่าโครงการ ทำให้ต้องหยุดชะงักไป โดยบริษัทฯได้ทำหนังสือ ปรับขึ้นค่าไฟ หากกระทรวงพลังงานพิจารณาอนุมัติได้รวดเร็ว ก็อาจจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ทันตามกำหนดในปี 2556
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าน้ำบากขนาด 130-140 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ซึ่งถือเป็นโครงการขยายโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 เนื่องจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นเป็นกลุ่มเดียวกัน สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน เซน้ำน้อยอยู่ระหว่างการเสนอราคาขายไฟฟ้าให้กฟผ. และโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเกาะกงขนาดกำลังการผลิต 3,660 เมกะวัตต์ คงต้องรอความชัดเจนจากไทยว่าจะรับซื้อไฟฟ้าจากเกาะกงจำนวนเท่าใด เนื่องจากขณะนี้มีผู้สนใจหลายรายต้องการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าที่เกาะกงเพื่อจำหน่ายให้กฟผ. และการลงทุนด้านสายส่งจะสูงมาก รวมทั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกัมพูชาและไทยในช่วงนี้ไม่ค่อยดี ทำให้บรรยากาศการลงทุนเป็นไปได้ยาก ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ทำให้โครงการดังกล่าวต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดจากเดิมที่คาดว่าจะลงนามเอ็มโอยได้ปลายปี 2551
นายณรงค์ กล่าวต่อไปว่า จากการชะลอโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศดังกล่าวข้างต้น ทำให้เป้าหมายในปี 2556 บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 5,364.50 เมกะวัตต์จากปัจจุบันที่มีอยู่ 4,347 เมกะวัตต์ เป็นไปไม่ได้ และจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯในปี 2557 เนื่องจากเดิมคาดว่าจะมีรายได้รับเข้ามาจากโครงการดังกล่าว
ดังนั้น บริษัทฯได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานใหม่เมื่อต้นส.ค.นี้ โดยเพิ่มสายงานต่างๆเพื่อรองรับการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีทีมงานดูแลเพิ่มประสิทธิภาพโดยเฉพาะแบ่งเป็น การลงทุนในไทย ลาว และประเทศเพื่อนบ้านๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการหาลู่ทางการลงทุนใหม่เข้ามาเสริมโครงการที่เลื่อนออกไป ขณะนี้มีโครงการในลาวอีกหลายโครงการที่สนใจอยู่
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้วประมาณ 10 %จากปี 2550 ที่มีรายได้รวม 4.6 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 5.8 พันล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์เข้ามาในปีนี้ประมาณ 400-500 ล้านบาท รวมทั้งการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าน้อยกว่าปีก่อน
ทั้งนี้บ อร์ดบริษัทฯเตรียมพิจารณาการจ่ายเงินปันระหว่างกาลในวันที่ 18 ส.ค.นี้ จากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกนี้ที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.97 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40%ของกำไรสุทธิ คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ภายใน ก.ย.
นายณรงค์ สีตสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการลงทุนในต่างประเทศว่า ขณะนี้บริษัทได้ชะลอโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศเกือบทั้งหมด เว้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 2 ที่จะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2556 โดยโครงการโรงไฟฟ้าในสปปซโรงไฟฟ้าในลาวจำนวน 3 โครงการ คือโรงไฟฟ้าหงสา โรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 3 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำบาก โครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินที่เกาะกง ในกัมพูชาอีก 1โครงการ ทำให้งบการลงทุน 5ปีนี้ (2551-2555) ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ต้องปรับลดลง ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงตัวเลขการลงทุนใหม่
สำหรับสาเหตุที่ต้องเลื่อนโครงการโรงไฟฟ้าที่สปป.ลาวนั้น เนื่องจากต้องเจรจาขอปรับขึ้นค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ก่อน เพราะต้นทุนการก่อสร้างได้ปรับเพิ่มสูงขึ้น 25-30% โดยโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 3 ขนาด 440 เมกะวัตต์จะเลื่อนการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไทยออกไป 1ปีเป็นปี 2557เป็นที่แน่นอนแล้ว ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าหงสาขนาดกำลังผลิต 1653 เมกะวัตต์ ทางผู้รับเหมาก่อสร้างขอปรับขึ้นค่าโครงการ ทำให้ต้องหยุดชะงักไป โดยบริษัทฯได้ทำหนังสือ ปรับขึ้นค่าไฟ หากกระทรวงพลังงานพิจารณาอนุมัติได้รวดเร็ว ก็อาจจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ทันตามกำหนดในปี 2556
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าน้ำบากขนาด 130-140 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ซึ่งถือเป็นโครงการขยายโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 เนื่องจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นเป็นกลุ่มเดียวกัน สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน เซน้ำน้อยอยู่ระหว่างการเสนอราคาขายไฟฟ้าให้กฟผ. และโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเกาะกงขนาดกำลังการผลิต 3,660 เมกะวัตต์ คงต้องรอความชัดเจนจากไทยว่าจะรับซื้อไฟฟ้าจากเกาะกงจำนวนเท่าใด เนื่องจากขณะนี้มีผู้สนใจหลายรายต้องการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าที่เกาะกงเพื่อจำหน่ายให้กฟผ. และการลงทุนด้านสายส่งจะสูงมาก รวมทั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกัมพูชาและไทยในช่วงนี้ไม่ค่อยดี ทำให้บรรยากาศการลงทุนเป็นไปได้ยาก ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ทำให้โครงการดังกล่าวต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดจากเดิมที่คาดว่าจะลงนามเอ็มโอยได้ปลายปี 2551
นายณรงค์ กล่าวต่อไปว่า จากการชะลอโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศดังกล่าวข้างต้น ทำให้เป้าหมายในปี 2556 บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 5,364.50 เมกะวัตต์จากปัจจุบันที่มีอยู่ 4,347 เมกะวัตต์ เป็นไปไม่ได้ และจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯในปี 2557 เนื่องจากเดิมคาดว่าจะมีรายได้รับเข้ามาจากโครงการดังกล่าว
ดังนั้น บริษัทฯได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานใหม่เมื่อต้นส.ค.นี้ โดยเพิ่มสายงานต่างๆเพื่อรองรับการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีทีมงานดูแลเพิ่มประสิทธิภาพโดยเฉพาะแบ่งเป็น การลงทุนในไทย ลาว และประเทศเพื่อนบ้านๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการหาลู่ทางการลงทุนใหม่เข้ามาเสริมโครงการที่เลื่อนออกไป ขณะนี้มีโครงการในลาวอีกหลายโครงการที่สนใจอยู่
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้วประมาณ 10 %จากปี 2550 ที่มีรายได้รวม 4.6 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 5.8 พันล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์เข้ามาในปีนี้ประมาณ 400-500 ล้านบาท รวมทั้งการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าน้อยกว่าปีก่อน
ทั้งนี้บ อร์ดบริษัทฯเตรียมพิจารณาการจ่ายเงินปันระหว่างกาลในวันที่ 18 ส.ค.นี้ จากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกนี้ที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.97 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40%ของกำไรสุทธิ คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ภายใน ก.ย.