เก็คโค่-วัน ลั่นเดินหน้าจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ พ.ย.2554 ตามแผนเดิม หวังรัฐบาลจะเข้าใจ แนะนำเจรจากับไอพีพีรายอื่นที่พร้อมจะเลื่อนการจ่ายไฟฟ้าแทน เหตุบริษัทเริ่มก่อสร้างแล้วแถมมั่นใจถ่านหินจะช่วยพยุงค่าไฟให้ลดได้ในอนาคต
นายอนุตร จาติกวณิช ผู้บริหารกลุ่มบริษัท โกลว์ ผู้ร่วมถือหุ้นในบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้าภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนอิสระรายใหญ่ หรือ ไอพีพี ว่า กรณีที่กระทรวงพลังงานจะหารือกับไอพีพี 4 รายเพื่อเลื่อนรับซื้อไฟฟ้าออกไปอีก 1 ปี หลังจากความต้องการใช้ไฟต่ำกว่าการคาดการณ์ไว้ เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำนั้นบริษัท เก็คโค่-วัน ยังยืนยันที่จะเดินหน้าตามแผนเนื่องจากขณะนี้ได้มีการกู้เงิน และเริ่มการก่อสร้างโรงไฟฟ้าไปแล้วจึงไม่สามารถหยุดการก่อสร้างได้
“ผมคิดว่ารัฐคงจะดูว่ารายใดพร้อมที่จะเลื่อนการจ่ายไฟออกไปมากกว่าเพราะบางรายอาจจะเป็นโอกาสที่หลายๆ อย่างไม่พร้อม แต่ของบริษัทขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.น่าจะเข้าใจดี” นายอนุตร กล่าว
นอกจากนี้ การผลิตไฟฟ้าของบริษัทยังใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เชื้อเพลิงดังกล่าวจะส่งผลต่อค่าไฟฟ้าให้ต่ำลงได้เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงอื่นๆ โดยเฉพาะน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ดังนั้น ในช่วงที่จะมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตามแผนที่บริษัททำสัญญาไว้คือเดือน พ.ย.2554 จะส่งผลต่อค่าไฟฟ้ารวมให้ต่ำลงได้เพื่อที่จะช่วยดูแลเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ถือหุ้นโดยกลุ่มบริษัทโกลว์ 65% ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้สำหรับโครงการไอพีพี เป็นเงินกู้ต่างประเทศ 460 ล้านเหรียญสหรัฐ และเงินบาท 9,960 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2551 โดยโครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2551 และได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะเวลา 25 ปี กับกฟผซเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2551 โดยมีกำลังผลิต 660 เมกะวัตต์ ใช้เม็ดเงินลงทุน 1,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้ก่อสร้างคือบริษัทดูซานจากเกาหลีใต้
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) กล่าวว่า การเจรจาเลื่อนรับซื้อไฟฟ้าตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพีที่ปรับใหม่ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจนั้นได้มอบให้คณะทำงานไปพิจารณารายละเอียดเพื่อเจรจากับไอพีพี รวมไปถึงโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือเอสพีพี ด้วยโดยจะคำนึงถึงความเป็นไปได้ในการเลื่อนรับซื้อไฟฟ้าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย
นายอนุตร จาติกวณิช ผู้บริหารกลุ่มบริษัท โกลว์ ผู้ร่วมถือหุ้นในบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้าภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนอิสระรายใหญ่ หรือ ไอพีพี ว่า กรณีที่กระทรวงพลังงานจะหารือกับไอพีพี 4 รายเพื่อเลื่อนรับซื้อไฟฟ้าออกไปอีก 1 ปี หลังจากความต้องการใช้ไฟต่ำกว่าการคาดการณ์ไว้ เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำนั้นบริษัท เก็คโค่-วัน ยังยืนยันที่จะเดินหน้าตามแผนเนื่องจากขณะนี้ได้มีการกู้เงิน และเริ่มการก่อสร้างโรงไฟฟ้าไปแล้วจึงไม่สามารถหยุดการก่อสร้างได้
“ผมคิดว่ารัฐคงจะดูว่ารายใดพร้อมที่จะเลื่อนการจ่ายไฟออกไปมากกว่าเพราะบางรายอาจจะเป็นโอกาสที่หลายๆ อย่างไม่พร้อม แต่ของบริษัทขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.น่าจะเข้าใจดี” นายอนุตร กล่าว
นอกจากนี้ การผลิตไฟฟ้าของบริษัทยังใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เชื้อเพลิงดังกล่าวจะส่งผลต่อค่าไฟฟ้าให้ต่ำลงได้เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงอื่นๆ โดยเฉพาะน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ดังนั้น ในช่วงที่จะมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตามแผนที่บริษัททำสัญญาไว้คือเดือน พ.ย.2554 จะส่งผลต่อค่าไฟฟ้ารวมให้ต่ำลงได้เพื่อที่จะช่วยดูแลเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ถือหุ้นโดยกลุ่มบริษัทโกลว์ 65% ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้สำหรับโครงการไอพีพี เป็นเงินกู้ต่างประเทศ 460 ล้านเหรียญสหรัฐ และเงินบาท 9,960 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2551 โดยโครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2551 และได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะเวลา 25 ปี กับกฟผซเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2551 โดยมีกำลังผลิต 660 เมกะวัตต์ ใช้เม็ดเงินลงทุน 1,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้ก่อสร้างคือบริษัทดูซานจากเกาหลีใต้
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) กล่าวว่า การเจรจาเลื่อนรับซื้อไฟฟ้าตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพีที่ปรับใหม่ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจนั้นได้มอบให้คณะทำงานไปพิจารณารายละเอียดเพื่อเจรจากับไอพีพี รวมไปถึงโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือเอสพีพี ด้วยโดยจะคำนึงถึงความเป็นไปได้ในการเลื่อนรับซื้อไฟฟ้าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย