xs
xsm
sm
md
lg

คลังสรุปภาษี NGV 3 มิ.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เลี้ยบห่วงน้ำมันถึง 150 เหรียญกระทบเฟ้อขึ้นถึงเลข 2 หลัก เร่งผลักดันมาตรการภาษีหนุนใช้ก๊าซเอ็นจีวีและ E85 เข้าครม.หลังพิจารณาผลกระทบการจัดเก็บภาษี เชื่อฐานะการคลังยังดีมีช่องใช้มาตรการกระตุ้นภาษีได้อีก

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 3 มิถุนายนนี้ คาดว่าจะสามารถสรุปมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี)และการใช้รถที่ใช้น้ำมัน E85 เสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบผลกระทบที่เกิดจากมาตรการส่งเสริมดังกล่าวว่าจะกระทบกับโครงสร้างภาษีรถยนต์มากน้อยอย่างไร

รวมถึงการประมาศใช้มาตรการดังกล่าวออกมาจะกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในจำนวนมากน้อยเพียงใด ซึ่งในการพิจารณามาตรการภาษีครั้งนี้จะนำข้อเสนอของกระทรวงพลังงานที่ให้ลดภาษีสำหรับรถบรรทุก รถหัวลากที่ใช้เอ็นจีวีร่วมพิจารณาด้วย ทั้งนี้จากฐานะการคลังในปัจจุบันพบว่ายังมีช่องทางให้ใช้แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้

"รัฐบาลจะต้องเร่งเสนอมาตรการเพื่อให้ประชาชนมีการประหยัดพลังงาน เนื่องจากปัญหาราคาน้ำมันแพงมาเร็วกว่าที่เราคาด ตอนนี้ราคาน้ำมันขึ้นมาที่ 130-140 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งเราไม่คิดว่าจะปรับตัวขึ้นมาเร็วอย่างนี้ มาตรการที่จะทยอยนำมาใช้ก็ต้องเร่งมาใช้ตอนนี้ ขณะนี้ที่กังวลคือราคาน้ำมันที่ราคา 150 เหรียญต่อบาร์เรล หากมาถึงในเดือนหน้าจะมีผลอย่างมาก โดยเฉพาะกับอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นสูงมาก และไม่แน่ใจว่าจะขึ้นถึงตัวเลข 2 หลักหรือไม่ ต้องเปรียบเทียบกับตัวเลขปีต่อปี จึงต้องหาทางรับมืออย่างเร็วที่สุด" นพ.สุรพงษ์ กล่าว

สำหรับปัญหาบมจ.ปตท. PTT ได้รับยกเว้นจากกฎหมายการแข่งขันทางการค้า ปี 42 จนนำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่เป็นธรรมกับผู้แข่งขันรายอื่นๆ โดยเฉพาะจากการขายก๊าซธรรมชาติให้บริษัทในเครือในราคาที่ถูกกว่าการขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนซื้อไฟฟ้าราคาแพง น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ปตท.ขายก๊าซธรรมชาติให้บริษัทในเครือถูก เพื่อให้การขายก๊าซธรรมชาติต่อกับประชาชนถูก ซึ่งเรื่องนี้รัฐได้เข้าไปแทรกแซงราคา ทั้งที่ไม่ควรเข้าไปแทรกแซง แต่ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด จึงส่งผลให้ไม่มีนักลงทุนรายใหม่เข้ามาแข่งขันในธุรกิจนี้ ฉะนั้นสิ่งที่เราจะต้องทำคือต้องส่งเสริมการแข่งขันเพื่อให้เกิดผู้ค้ามากรายขึ้น

น.พ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการหารือถึงการจัดมหกรรมสินค้าราคาถูก โดยกรมธนารักษ์จะเสนอที่ราชพัสดุ 4 มุมเมืองเพื่อจัดเป็นพื้นที่ขายสินค้าจากภาคเกษตรและลูกค้าของสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งเป้าหมายจากโครงการนี้เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบและสร้างรายได้ให้กับประชาชนบางกลุ่ม คาดหลายโครงการที่รัฐบาลเร่งทำจะสร้างความรู้สึกเชื่อมั่นให้กลับมาสู่ภาวะปกติได้
กำลังโหลดความคิดเห็น