สตูล - หลังรับตำแหน่งใหม่เพียง 3 วัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พบเผือกร้อน ปัญหาการก่อสร้างบนเกาะอาดัง ห่วงการบริหารจัดการรีสอร์ทบนเกาะอาดัง หลังกรณีพบเป็นพื้นที่ทับซ้อนอุทยานแห่งชาติทางทะเล
วันนี้ (23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีการก่อสร้างรีสอร์ตบนอาดังหลังบริษัท อาดังรีสอร์ท ได้รับสัมปทานในการก่อสร้างบนพื้นที่ 5 ไร่ ว่า การก่อสร้างรีสอร์ตบนพื้นที่เกาะอาดัง เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล ว่า พื้นที่ทับซ้อนบนเกาะอาดังนี้ เดิมทีเป็นของกรมธนารักษ์เป็นที่ราชพัสดุมาตั้งแต่ต้น แต่ภายหลังมีการประกาศเขตของอุทยานครอบคลุมพื้นที่ด้วยทำให้ 2 หน่วยงานหารือถึงกฤษฎีกา ว่า แท้จริงพื้นที่ต้องเป็นของใครสุดท้ายได้ทราบว่าทางสำนักงานกฤษฎีกาได้วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย ประกอบกับข้อเท็จจริงได้ข้อยุติว่า พื้นที่เกาะอาดังเป็นของธนารักษ์ เนื่องจากว่าเป็นพื้นที่ที่ทางธนารักษ์ครอบครองอยู่ก่อนแล้ว
ในการดำเนินการใดๆ ในระดับจังหวัด โดยปกติจะต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือก่อนดำเนินการทุกขั้นตอน ในการนำพื้นที่เกาะอาดังของธนารักษ์ไปใช้ประโยชน์เพื่อให้เอกชนเช่าหารายได้เข้าแผ่นดิน ทางสำนักงานธนารักษ์จังหวัดสตูลเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากเป็นเจ้าของพื้นที่ แต่ในทางปฏิบัติได้มีตัวแทนของกรมอุทยาน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมด้วยทุกขั้นตอน ซึ่งโดยหลักแล้วเป็นเรื่องของเจ้าของพื้นที่ที่จะดำเนินการและมีการประสานส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
ทั้งการดำเนินการของธนารักษ์ที่เปิดพื้นที่ให้เช่านั้นเป็นนโยบายของรัฐบาล เพราะว่านโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลังให้นำพื้นที่ไปใช้ประโยชน์ เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งเป็นของแผ่นดิน ในเชิงนโยบายก็ถือว่าดำเนินตามนโยบายของรับบาล เพียงแต่ในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งอุทยาน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ก็มีสิทธิที่จะให้ข้อแนะนำความเห็นในส่วนที่ดูแล ซึ่งในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเสนอความเห็นได้เพื่อประกอบการดำเนินการของธนารักษ์ได้ ก็ถือว่าทุกหน่วยก็ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่
ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าวผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวอีกว่า ปัญหาอยู่ที่การจัดการไม่ได้อยู่ที่หลักการ โดยเรื่องของหลักการนั้นคิดว่าถูกต้อง เพราะการนำทรัพยากรที่อยู่ไปใช้ประโยชน์ ทำให้เกิดประโยชน์ต่อแผ่นและในกรณีนี้ทางธนารักษ์จะได้รับประโยชน์ด้านค่าธรรมเนียมจากการประมูลและจะได้ค่าเช่าจากการเช่าพื้นที่ตลอดอายุสัญญาเช่า 25 ปี
รวมทั้งสิ่งก่อสร้างทั้งหมดจะตกเป็นของแผ่นดินตั้งแต่สร้างเสร็จทันที ถือว่าภาคราชการได้ประโยชน์ ทั้งประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว เพราะว่าจังหวัดสตูลเป็นจังหวัดที่น่าเที่ยว เพียงแต่ขาดที่พักในระดับ 4-5 ดาว ที่มีคุณภาพ ซึ่งเมื่อคนอยากมาเที่ยวจังหวัดสตูลติดขัดเรื่องที่พักก็เกิดเป็นข้อจำกัด ก็ต้องไปพักที่อื่นแล้วค่อยเดินทางเข้ามา แต่หากมีที่พักปลายทางก็จะเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา พี่น้องประชาชนก็จะมีรายได้จากการบริการและการจำหน่ายสิ่งของ
แต่ปัญหาอยู่ที่จะบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบตามมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องกำกับดูแล ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม จะต้องทำอย่างไรไม่ให้ปล่อยน้ำเสียลงไป อย่าให้มีการรุกล้ำพื้นที่ชายหาดมากไปกว่าที่ได้รับในสัญญาเช่า เหล่านี้เป็นเรื่องการบริหารจัดการ
ปัญหาการบริหารจัดการ คือ จะทำอย่างไรเพื่อจะนำพื้นที่นี้ไปใช้ประโยชน์โดยไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งอยู่ที่การบริหารจัดการและจังหวัดต้องเข้าร่วมดูแลในฐานะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ประสาน ดูแล โดยเฉพาะการทำงานนั้นไปเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน และหลังจากนี้จะต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบข้อมูลโดยละเอียด รวมถึงมีปัญหาอะไรในทางปฏิบัติเกิดขึ้นบ้าง และต้องเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหา
สำหรับปัญหาดังกล่าว นายสำราญ รักชาติ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยในกรณีทางกรมธนารักษ์อนุญาตให้มีการก่อสร้างรีสอร์ทบนเกาะอาดัง เนื่องจากพื้นที่โดยรอบของเกาะดังกล่าวจะมีปะการังน้ำตื้นอยู่รายรอบเกาะ จะได้รับความเสียหายจากการขนย้ายวัสดุก่อสร้างขึ้นไปทำรีสอร์ทบนเกาะ
พร้อมกันนี้ ยังเห็นว่า เกาะนี้เป็นแหล่งต้นน้ำในการใช้หล่อเลี้ยงชาวบ้านบนเกาะรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เกาะหลีเป๊ะ และหากการบริหารจัดการของทางรีสอร์ทของเอกชนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งทำทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย เกิดความเสียหายมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ
