xs
xsm
sm
md
lg

ตัวเลข GDP สหรัฐโตแค่ 1.9% ทุบดาวโจนส์ร่วง-น้ำมันดิบลง 3 ดอลลาร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รัฐบาลสหรัฐยอมรับ GDP ไตรมาส 2 ขยายตัว 1.9% ต่ำกว่าคาด บ่งชี้ภาวะศก.อาจถดถอยเร็วเกินคาด ส่งผลดัชนีดาวโจนส์รูดหนักกว่า 200 จุด และราคาน้ำมันวูบลงเกือบ 3 ดอลลาร์/บาเรล

วันนี้ ( 1 ส.ค.) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 2 ขยายตัวเพียง 1.9% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะขยายตัว 2.3% และสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มถดถอยเร็วกว่าที่ประมาณการไว้ในเบื้องต้น

ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด เป็นหนึ่งในปัจจัยลบที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดร่วงลง 205.67 จุด หรือ 1.78% แตะระดับ 11,378.02 จุด เมื่อคืนนี้ และกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง

โดยบรรยากาศซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลงอย่างรุนแรง และดิ่งลงปิดที่ระดับ 124.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,378.02 จุด ลดลง 205.67 จุด หรือ 1.78% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 2,325.55 จุด ลดลง 4.17 จุด หรือ 0.18% และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,267.38 จุด ลดลง 16.88 จุด หรือ 1.31%

ขณะที่ ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก เมื่อคืนนี้ ปิดที่ 913.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 11 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตลาดลอนดอน ปิดที่ 917.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 13.20 ดอลลาร์สหรัฐ

แม้ก่อนหน้านี้ นายเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ออกมาแสดงความเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวปานกลางในปีนี้และเชื่อว่าปัญหาในตลาดที่อยู่อาศัยจะเริ่มคลี่คลายลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็ตาม

นายอัลเลน ซีนาย หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Decision Economics Inc. แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในระยะถดถอยแล้วในขณะนี้ เราคาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอีก ภาพรวมเศรษฐกิจในขณะนี้อ่อนแอมาก และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ก็ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ในระยะกลางนี้ ตนเองไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น

ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 2.69 ดอลลาร์/บาเรล เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบ หลังรัฐบาลเปิดเผยตัวเลขจีดีพี ต่ำกว่าคาด โดยนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงกำลังส่งผลให้ความต้องการพลังงานทรุดตัวลงด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 2.69 ดอลลาร์ หรือ 2.12% ปิดที่ 124.08 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 122.71-127.89 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออลย์ส่งมอบเดือนส.ค.ดิ่งลง 8.16 เซนต์ หรือ 2.32% ปิดที่ 3.4387 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 8.71 เซนต์ หรือ 2.78% ปิดที่ 3.0480 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอน ร่วงลง 3.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 123.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

นายเจมส์ คอร์ดิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเทมปาในรัฐฟลอริดา ยอมรับว่า ตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 2 ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนอย่างมาก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขว่างงานของชาวอเมริกันที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจถดถอยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น และอาจฉุดรั้งความต้องการพลังงานให้ทรุดตัวตามไปด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอเข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงานพุ่งขึ้น 44,000 ราย แตะระดับ 448,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ค.จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 404,000 ราย ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี

โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนทุ่มซื้อสัญญาน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินอย่างหนาแน่น หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 25 ก.ค. ร่วงลง 3.5 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 213.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบลดลง 100,000 บาร์เรล แตะระดับ 295.2 ล้านบาร์เรล แต่ยังลดลงไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะร่วงลง 1.6 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 130.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล

นักลงทุนจับตาดูปัญหาในโรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเมื่อวันก่อน โดยบริษัทบีพีประกาศลดอัตราการผลิตที่โรงกลั่นในเมืองเท็กซัส ซิตี้ รัฐเท็กซัส เนื่องจากปัญหาด้านเครื่องจักร ขณะที่บริษัทวาเลโร เอ็นเนอร์จี คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันอันดับหนึ่งของสหรัฐ ประกาศว่าบริษัทเตรียมลดอัตราการผลิตน้ำมันเบนซินที่โรงกลั่นน้ำมัน 16 แห่งของบริษัท ในอัตราเฉลี่ย 330,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่ากำลังการผลิตในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมครั้งต่อไปของกลุ่มโอเปกซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.ย.นี้ โดยเมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มโอเปกซึ่งผลิตน้ำมันได้กว่า 40 % ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลกส่งสัญญาณว่าโอเปกจะไม่ลดการผลิตเพื่อให้มั่นใจว่าอุปทานน้ำมันมีเพียงพอต่อความต้องการ
กำลังโหลดความคิดเห็น