"ลีสซิ่งสินเอเซีย"จัดทัพพร้อมรุกตลาดเช่าซื้อเต็มกำลัง ตั้งเป้าขยายสินทรัพย์เป็น 2 หมื่นล้านในปี 2552 เตรียมพร้อมขยายสาขาสู่ภูมิภาคครอบคลุมพื้นที่ธุรกิจ 10 จังหวัด
นายองอาจ วรฉัตรธาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งสินเอเซีย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อีกจำนวน 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างสิ้นปีนี้อยู่ที่ 9,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเกือบ 3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับยอดสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2550 ที่จำนวน 3,600 ล้านบาท
โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการที่บริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อเตรียมที่จะรุกตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเสนออัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการให้สินเชื่อเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาด อีกทั้งบริษัทมีทีมงานการตลาดที่พร้อมด้วยศักยภาพและประสบการณ์สูงในการรุกตลาดเช่าซื้อมาเสริมทัพ ได้มีการขยายทีมการตลาด และปรับระบบงานใหม่เพื่อการให้บริการที่กระชับ รวดเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและดีลเลอร์รถยนต์ โดยบริษัทไม่เน้นการทำตลาดด้วยการแข่งขันด้านราคา ส่วนปัจจัยลบประกอบด้วยราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ แต่ปัจจัยลบเหล่านี้เป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นกับทุกบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะทำการปรับสัดส่วนสินเชื่อใหม่ระหว่างสินเชื่อเช่าซื้อรายย่อย (รถยนต์) และสินเชื่อเช่าซื้อผู้ประกอบการเป็น 80:20 จากเดิมประมาณ 35:65 โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ จะมีการปรับสัดส่วนระหว่างสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วเป็น 50:50 จากเดิมที่เน้นการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้วเกือบทั้งหมด ส่วนสาเหตุที่บริษัทหันมาเพิ่มสัดส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่เนื่องจากต้องการขยายกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้วควบคู่ไปด้วย
"ปัจจุบันส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (สเปรด) ที่เราได้ก็อยู่ที่ประมาณ 3% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเราปล่อยสินเชื่อรถเก่าที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่ารถยนต์ใหม่ ซึ่งปัจจุบันเราคิดอัตราดอกเบี้ยรถยนต์ใหม่ดาวน์ 25% ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 งวด อยู่ที่ 3.25% ส่วนรถยนต์เก่าดอกเบี้ยจะเริ่มต้นที่ 3.9% และเมื่อมีการปรับสัดส่วนสินเชื่อแล้วก็คงพยายามรักษาสเปรดให้อยู่ไม่ต่ำกว่า 3% ส่วนกำไรในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 18 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ากำไรทั้งปีของปีก่อนที่ทำได้ 14 ล้านบาท"
นายองอาจ กล่าวว่า นับตั้งแต่บริษัทเปิดดำเนินการในปี 2548 จนถึงปี 2550 บริษัทมีการขยายสินทรัพย์เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว จากสินทรัพย์ขนาด 1,700 ล้านบาท เป็น 3,700 ล้านบาท และในปี 2551 บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะขยายสินทรัพย์เป็น 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 170%จากปี 2550 และตั้งเป้าเติบโตเป็น 20,000 ล้านบาท ในปี 2552 ในขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน มีเพียง 1% ของยอดสินเชื่อรวม หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 50 ล้านบาท และได้มีการตั้งสำรองไปแล้ว 50% นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะติดตามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมยอดหนี้ NPL ให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงไปกว่านี้
ด้านนายทรงวุฒิ สังวรวุฒิคุณ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานการตลาด บริษัทลีสซิ่งสินเอเซีย จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังเตรียมที่จะขยายพื้นที่ทำการตลาดจากส่วนกลางกระจายออกสู่ภูมิภาค โดยเลือกเฉพาะพื้นที่ที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจ โดยในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มีการขยายการทำตลาดไปยังจังหวัดนครปฐม ราชบุรีและกาญจนบุรี และในปี2552 จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 แห่ง ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะครอบคลุมการทำธุรกิจกว่า 10 จังหวัด ในพื้นที่ใกล้เคียงจากเดิมที่บริษัทยังไม่มีการทำธุรกิจในภูมิภาคมาก่อน
นายองอาจ วรฉัตรธาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งสินเอเซีย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อีกจำนวน 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างสิ้นปีนี้อยู่ที่ 9,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเกือบ 3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับยอดสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2550 ที่จำนวน 3,600 ล้านบาท
โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการที่บริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อเตรียมที่จะรุกตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเสนออัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการให้สินเชื่อเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาด อีกทั้งบริษัทมีทีมงานการตลาดที่พร้อมด้วยศักยภาพและประสบการณ์สูงในการรุกตลาดเช่าซื้อมาเสริมทัพ ได้มีการขยายทีมการตลาด และปรับระบบงานใหม่เพื่อการให้บริการที่กระชับ รวดเร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและดีลเลอร์รถยนต์ โดยบริษัทไม่เน้นการทำตลาดด้วยการแข่งขันด้านราคา ส่วนปัจจัยลบประกอบด้วยราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ แต่ปัจจัยลบเหล่านี้เป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นกับทุกบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะทำการปรับสัดส่วนสินเชื่อใหม่ระหว่างสินเชื่อเช่าซื้อรายย่อย (รถยนต์) และสินเชื่อเช่าซื้อผู้ประกอบการเป็น 80:20 จากเดิมประมาณ 35:65 โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ จะมีการปรับสัดส่วนระหว่างสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วเป็น 50:50 จากเดิมที่เน้นการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้วเกือบทั้งหมด ส่วนสาเหตุที่บริษัทหันมาเพิ่มสัดส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่เนื่องจากต้องการขยายกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้วควบคู่ไปด้วย
"ปัจจุบันส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (สเปรด) ที่เราได้ก็อยู่ที่ประมาณ 3% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเราปล่อยสินเชื่อรถเก่าที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่ารถยนต์ใหม่ ซึ่งปัจจุบันเราคิดอัตราดอกเบี้ยรถยนต์ใหม่ดาวน์ 25% ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 งวด อยู่ที่ 3.25% ส่วนรถยนต์เก่าดอกเบี้ยจะเริ่มต้นที่ 3.9% และเมื่อมีการปรับสัดส่วนสินเชื่อแล้วก็คงพยายามรักษาสเปรดให้อยู่ไม่ต่ำกว่า 3% ส่วนกำไรในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 18 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ากำไรทั้งปีของปีก่อนที่ทำได้ 14 ล้านบาท"
นายองอาจ กล่าวว่า นับตั้งแต่บริษัทเปิดดำเนินการในปี 2548 จนถึงปี 2550 บริษัทมีการขยายสินทรัพย์เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว จากสินทรัพย์ขนาด 1,700 ล้านบาท เป็น 3,700 ล้านบาท และในปี 2551 บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะขยายสินทรัพย์เป็น 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 170%จากปี 2550 และตั้งเป้าเติบโตเป็น 20,000 ล้านบาท ในปี 2552 ในขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน มีเพียง 1% ของยอดสินเชื่อรวม หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 50 ล้านบาท และได้มีการตั้งสำรองไปแล้ว 50% นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะติดตามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมยอดหนี้ NPL ให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงไปกว่านี้
ด้านนายทรงวุฒิ สังวรวุฒิคุณ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานการตลาด บริษัทลีสซิ่งสินเอเซีย จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังเตรียมที่จะขยายพื้นที่ทำการตลาดจากส่วนกลางกระจายออกสู่ภูมิภาค โดยเลือกเฉพาะพื้นที่ที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจ โดยในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มีการขยายการทำตลาดไปยังจังหวัดนครปฐม ราชบุรีและกาญจนบุรี และในปี2552 จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 แห่ง ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะครอบคลุมการทำธุรกิจกว่า 10 จังหวัด ในพื้นที่ใกล้เคียงจากเดิมที่บริษัทยังไม่มีการทำธุรกิจในภูมิภาคมาก่อน
