xs
xsm
sm
md
lg

ไต้หวันประกาศสั่ง “เจ้าหน้าที่รัฐ” ประหยัดพลังงานเป็นแบบอย่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รถที่จอดรอรับเจ้าหน้าที่รัฐที่หน้าศาลในไต้หวัน
ไชน่านิวส์ – ราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนด้านพลังงานแต่ละประเทศพุ่งตามเป็นเงาตามตัว ล่าสุดทางการไต้หวันได้งัดมาตรการใช้รถระบบพลังงาน 2 ทางและจำกัดให้ใช้ได้ไม่เกิน 151 ลิตรต่อเดือน อีกทั้งเล็งเข็นนโยบายให้หน่วยงานรัฐประหยัดพลังงานเป็นแบบอย่าง และรณรงค์ให้เอกชนร่วมด้วยอย่างสมัครใจ

เมื่อวันอังคาร (8 ก.ค.) คณะรัฐมนตรีไต้หวันประกาศมาตรการประหยัดพลังงาน โดยให้รถที่จะซื้อใหม่สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่ระดับอธิบดี รองอธิบดีต้องมีขนาดไม่เกิน 2,400 หรือ 2,000 ซีซี ในขณะที่ตำแหน่งต่ำกว่านั้นต้องไม่เกิน 1,800 ซีซี นอกจากนั้นรถที่ซื้อใหม่ให้ซื้อรถที่สามารถใช้พลังงานได้ 2 ทาง ในขณะที่รถเก่าที่มีอายุไม่เกิน 5 ปีให้ติดตั้งให้เป็นระบบพลังงาน 2 ทาง อีกทั้งตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ให้กำหนดการใช้น้ำมันไม่เกินเดือนละ 151 ลิตร จากเดิมที่เคยจำกัดไว้ที่ 189 ลิตร และรถที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปไม่อนุญาตให้เบิกค่าน้ำมัน

คณะรัฐมนตรียังเตรียมเข็น มาตรการชุดต่อเนื่องในการส่งเสริมประชาชน โดยเน้นไปที่ธุรกิจภาคบริการ ให้อาสาเข้ามาร่วมกันประหยัดพลังงาน โดยมาตรการเบื้องต้นจะมีการสนับสนุนให้ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และแหล่งบริการสำคัญๆมาร่วมลงนามในสัญญาที่จะประหยัดงานโดยสมัครใจ และตั้งเป้าไว้ว่าจะพยายามลดการใช้พลังงานให้ได้ 5% ในเวลา 3 ปี นอกจากนั้นจะมีการจัดอบรมร้านค้าแฟรนไชส์อีก 1,100 แห่งถึงการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม และการรักษาไม่ให้รั่วไหล รวมไปถึงการอบรมการประหยัดพลังงานให้กับบริษัท และผู้คนทั่วไป

นอกจากนั้น ทางกรมพลังงาน กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวันยังได้เตรียมจะผลักดันร่างนโยบายที่จะให้หน่วยงานรัฐและโรงเรียน โดยจะให้หน่วยงานรัฐทั่วไต้หวัน 7,987 แห่งเริ่มต้นเป็นแบบอย่างในการประหยัดไฟ รวมไปถึงการประหยัดพลังงานอื่นๆเช่น หากรถของทางการหากจอดเกิน 3 นาทีต้องดับเครื่อง ผลักดันการนั่งรถร่วมทาง การใช้กระดาษถ่ายเอกสารให้หมดทั้ง 2 หน้า เป็นต้น ซึ่งมาตรการเหล่านี้คาดว่าจะถูกผลักดันออกมาในเร็วๆนี้

ทั้งนี้ ไต้หวันเพิ่งมีการให้ปรับขึ้นราคาพลังงาน โดยคณะรัฐมนตรีไต้หวันได้ระบุว่า ราคาของไฟฟ้าและน้ำมันนั้นมีความเกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันในตลาดโลก และหากแช่แข็งการขึ้นราคา ไม่ยอมปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ก็จะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม ไม่ต่างกับเอาเงินของคนขี่จักรยานไปชดเชยให้คนขี่เบนซ์
กำลังโหลดความคิดเห็น