xs
xsm
sm
md
lg

หุ่นเชิดกำลังโกงชาติอีก 60,000 ล้าน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเผยว่าโครงการซื้อรถก๊าซเอ็นจีวีของ ขสมก. สังกัดกระทรวงคมนาคมจำนวน 6,000 คันนั้นมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะกันถึง 6,000 ล้านบาท แล้วแบ่งเป็น 3 ส่วนๆ ละ 2,000 ล้านบาท

ชะงักไปกึกหนึ่ง แต่ขณะนี้กำลังเดินหน้าเต็มอัตราศึกแล้ว!

ข้อมูลของพรรคประชาธิปัตย์ดังกล่าวเป็นเพียงส่วนเดียวคือส่วนผิวบนเท่านั้น แท้จริงแล้วโครงการนี้โกงชาติกว่า 60,000 ล้านบาท ดังนั้นทำความเข้าใจกันให้ดีๆ แล้วร่วมกันขัดขวางการโกงชาติเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

โครงการนี้ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่กลางปี 2549 คราวนั้นมีจำนวนรถแค่ 2,000 คัน วางแผนการกันให้ ปตท. ซื้อรถจากบริษัทในประเทศจีน ราคาคันละประมาณ 3 ล้านบาทเศษ แล้วยกให้ฟรีแก่ ขสมก. แต่ ขสมก. ต้องซื้อก๊าซเอ็นจีวีจาก ปตท. ในราคาตลาดบวกด้วย 12 บาทต่อหน่วย ตลอดระยะเวลาที่ใช้รถ

สิริรวมแล้ว ขสมก. จะต้องจ่ายค่ารถ ก๊าซเอ็นจีวี ภายใต้รูปแบบว่าจ่ายค่าก๊าซส่วนเกินจากราคาตลาด ตลอดระยะเวลาใช้รถรวมเป็นเงินถึง 12 ล้านบาทต่อคัน

คิดเอาง่ายๆ ตัวเลขกลมๆ ว่าค่ารถคันละ 4 ล้านบาท แต่ ขสมก. จะต้องจ่ายเป็นเงินถึง 12 ล้านบาท เกินราคาปกติไปถึงคันละ 8 ล้านบาท จำนวนรถ 2,000 คัน ก็จะเป็นเงินถึง 16,000 ล้านบาท

โชคดีที่คราวนั้นยังไม่ทันได้ตกลงทำเป็นสัญญากันก็เกิดการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เสียก่อน โครงการนี้จึงพักไป

ครั้นรัฐบาลหุ่นเชิดเข้ามามีอำนาจ ก็มีคนวิ่งเต้นเรื่องนี้ต่อไปอีก วิ่งไปเมืองจีนหลายครั้งหลายหน ในที่สุดก็ปรับแผนใหม่

ทำเป็นโครงการให้ ขสมก. เช่ารถก๊าซเอ็นจีวี 6,000 คัน ซึ่งเป็นรถแบบเดียวกัน ผลิตจากที่เดียวกัน โดยเช่าเป็นเวลา 10 ปี ทั้งๆ ที่กำลังเร่งโครงการรถไฟฟ้าอีกหลายสาย และตั้งงบประมาณค่าเช่า ค่าซ่อมบำรุงรวมเป็นเงิน 110,000 ล้านบาทเศษ

แล้วมาหลอกคนไทยตอบโต้ข้อกล่าวหาของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่าค่าเช่ารถวันละ 5,000 กว่าบาท จะมีเงินใต้โต๊ะถึง 6,000 ล้านบาทได้อย่างไร?

หลอกแบบที่เห็นคนไทยโง่เป็นวัวควาย เพราะเด็กชั้นมัธยมที่บวกลบคูณหารเป็นก็คิดได้ดังต่อไปนี้

คิดตัวเลขกลมๆ ว่าค่าซื้อรถก๊าซเอ็นจีวีคันละ 4 ล้านบาท จำนวน 6,000 คัน จะตกเป็นเงินค่าซื้อรถ 24,000 ล้านบาท หากจะเทียบกับงบประมาณค่าเช่าทั้งหมด 110,000 ล้านบาท ขสมก. ก็จะต้องจ่ายเงินมากกว่าค่าซื้อถึง 86,000 ล้านบาท

แต่คิดอย่างนี้จะไม่เป็นธรรม เพราะว่ารถที่ซื้อมานั้นมีมาตรฐานการใช้งานในระยะ 5 ปี ดังนั้นเมื่อครบ 5 ปีก็ต้องเอารถที่เหลือใช้ไปบริจาคให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานต่างๆ เอาไปปรับปรุงใช้สอย ก็จะทำให้ อบต. หรือ อบจ. หรือโรงเรียนต่างๆ ได้รถเก่าไปใช้ถึง 6,000 คัน

ไม่ต้องคิดเป็นค่าขายรถเก่าให้ยุ่งยาก เอาเป็นว่ายกให้ไปฟรีๆ ก็ได้ จากนั้นก็ซื้อรถใหม่มาทดแทนรถเก่าในจำนวนเท่ากันคือ 6,000 คัน เป็นเงินอีก 24,000 ล้านบาท

รวมเป็นเงินที่ซื้อรถ 6,000 คันสำหรับ 5 ปีแรก กับเงินที่ซื้อรถ 6,000 คันสำหรับ 5 ปีหลังก็จะเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 48,000 ล้านบาท

หมายความว่าในระยะเวลา 10 ปี ขสมก. ใช้เงินเพียง 48,000 ล้านบาทก็ซื้อรถก๊าซเอ็นจีวีได้ 2 ครั้งๆ ละ 6,000 คัน แล้วยังมีรถเก่าเอาไปบริจาคให้แก่โรงเรียนหรือ อบต. ได้ทั่วประเทศอีกต่างหาก

ค่าซื้อ 2 รอบรวมเป็นเงิน 48,000 ล้านบาทนี้เมื่อเทียบกับค่าเช่าที่รัฐบาลหุ่นเชิดตั้งไว้ 110,000 ล้านบาทแล้ว ก็ยังถูกกว่าค่าเช่าถึง 62,000 ล้านบาท

ก็ต้องโห่ดังๆ ว่าโครงการนี้คือโครงการโกงชาติ 62,000 ล้านบาท แต่คิดตัวเลขกลมๆ เป็นว่า 60,000 ล้านบาท

ถ้าการแบ่งสัดส่วนเงินใต้โต๊ะ 6,000 ล้านบาทเป็นดังที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผย ก็คิดดูกันเอาเองว่าเงิน 62,000 ล้านบาทนี้ เมื่อแบ่งเป็น 3 ส่วนแล้ว จะได้ส่วนละเท่าใด?

แล้วถามว่าใครเป็นคนจ่ายเงินที่โกงชาตินี้? ก็ต้องตอบว่าประชาชนทุกคนที่โดยสารรถ ขสมก.

เพราะเขาบอกมาตั้งแต่ไก่โห่แล้วว่าจะปรับอัตราค่าโดยสารจากปกติที่ชาวบ้านเคยเสีย 7 บาท เป็น 15 บาท

ดังนั้นคนที่เดือดร้อนจริงๆ ก็คือมวลชนคนรากหญ้าผู้มีรายได้น้อย หรือปานกลางที่ต้องพึ่งพาอาศัยบริการรถ ขสมก.

ตอนนี้เขาล็อกสเป็ก ล็อกบริษัทผู้ขายไว้เรียบร้อยแล้ว เซ็นสัญญาวันไหนเงินใต้โต๊ะมหาศาลก็จะผ่านฉลุยออกมา

แล้วถามว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและ ป.ป.ช. ตลอดจนฝ่ายค้านและวุฒิสภาจะไม่ชำเลืองดูและตรวจสอบโครงการนี้บ้างเลยหรือ?
กำลังโหลดความคิดเห็น