กรุงเทพประกันชีวิตเดินหน้าเข้าตลาดฯ แต่งตั้งบล.พัฒนสินเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนได้ในไตรมาส 3 ปีนี้
นายชาญ วรรธนะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอขายได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ ก่อนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,220 ล้านบาท และทุนชำระแล้วก่อนการเสนอขายหุ้น 1,000ล้านบาท โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
“ในการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำร่วมในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นไอพีโอดังกล่าว” นายชาญ กล่าว
สำหรับบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจหลัก คือธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งมีกรมธรรม์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากกว่า 50 แบบ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ประกันชีวิตสามัญ (Ordinary Life Insurance) และประกันชีวิตกลุ่ม (Group Life Insurance) ซึ่งในปี 2550 มีสัดส่วนผลผลิตรายใหม่ หรือเบี้ยปีแรก ของกลุ่มประกันชีวิตสามัญ คิดเป็น 2,566.76 ล้านบาท และในประเภทประกันชีวิตกลุ่ม คิดเป็น 675.15 ล้านบาท
นอกจากการประกันชีวิตแล้ว การลงทุนยังถือเป็นธุรกรรมที่สำคัญมากของบริษัทโดยบริษัทจะจัดสรรเบี้ยประกันรับส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินสำรองประกันชีวิตและบริหารเงินด้วยการนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ครอบคลุมภาระที่จะเกิดขึ้นต่อผู้เอาประกัน
ด้านผลการดำเนินงานนั้น บริษัทมีผลประกอบการที่มีกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2550 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ 12,295.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.84 สูงกว่าอัตราเบี้ยประกันภัยของธุรกิจรวม ซึ่งเติบโตร้อยละ 16.35 ขณะที่ทางด้านการลงทุน บริษัทมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,115.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 389.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 22.59 ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยร้อยละ 6.10 ทำให้ในปี 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 769.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117.64 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.03 และในช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 บริษัทยังคงมีการขยายตัวที่ดี โดยมีเบี้ยประกันปีแรกรวมทั้งสิ้นจำนวน 834.03 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต กล่าวด้วยว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตและสถาบันการเงินชั้นนำในประเทศไทย ที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าในอุตสาหกรรม โดยใช้ช่องทางจัดจำหน่ายผ่านตัวแทน และ ผ่านธนาคาร เป็นหลัก อีกทั้งยังมีระบบการจัดการที่ดี โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ เป็นสถาบันการเงินที่มีส่วนช่วยระดมเงินออมในระยะยาว เพื่อพัฒนาประเทศ
นายชาญ วรรธนะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอขายได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ ก่อนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,220 ล้านบาท และทุนชำระแล้วก่อนการเสนอขายหุ้น 1,000ล้านบาท โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
“ในการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำร่วมในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นไอพีโอดังกล่าว” นายชาญ กล่าว
สำหรับบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจหลัก คือธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งมีกรมธรรม์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากกว่า 50 แบบ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ประกันชีวิตสามัญ (Ordinary Life Insurance) และประกันชีวิตกลุ่ม (Group Life Insurance) ซึ่งในปี 2550 มีสัดส่วนผลผลิตรายใหม่ หรือเบี้ยปีแรก ของกลุ่มประกันชีวิตสามัญ คิดเป็น 2,566.76 ล้านบาท และในประเภทประกันชีวิตกลุ่ม คิดเป็น 675.15 ล้านบาท
นอกจากการประกันชีวิตแล้ว การลงทุนยังถือเป็นธุรกรรมที่สำคัญมากของบริษัทโดยบริษัทจะจัดสรรเบี้ยประกันรับส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินสำรองประกันชีวิตและบริหารเงินด้วยการนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ครอบคลุมภาระที่จะเกิดขึ้นต่อผู้เอาประกัน
ด้านผลการดำเนินงานนั้น บริษัทมีผลประกอบการที่มีกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2550 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ 12,295.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.84 สูงกว่าอัตราเบี้ยประกันภัยของธุรกิจรวม ซึ่งเติบโตร้อยละ 16.35 ขณะที่ทางด้านการลงทุน บริษัทมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,115.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 389.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 22.59 ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยร้อยละ 6.10 ทำให้ในปี 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 769.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117.64 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.03 และในช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 บริษัทยังคงมีการขยายตัวที่ดี โดยมีเบี้ยประกันปีแรกรวมทั้งสิ้นจำนวน 834.03 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต กล่าวด้วยว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตและสถาบันการเงินชั้นนำในประเทศไทย ที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าในอุตสาหกรรม โดยใช้ช่องทางจัดจำหน่ายผ่านตัวแทน และ ผ่านธนาคาร เป็นหลัก อีกทั้งยังมีระบบการจัดการที่ดี โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ เป็นสถาบันการเงินที่มีส่วนช่วยระดมเงินออมในระยะยาว เพื่อพัฒนาประเทศ