บลจ.บัวหลวง ยืนยันถ้าผู้ถือหน่วย TFUND ไฟเขียวเปลี่ยนบริษัทจัดการยินดีจ่ายเงินค่าปรับกรณียกเลิกสัญญาก่อนกำหนดให้บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) แทนกองทุน ย้ำชัดผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง
รายงานข่าวระบุว่า หลังจากที่ผู้ถือหน่วยของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นหนังสือมายังบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขอให้บริษัทดำเนินการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนให้แก้ไขโครงการจัดการกองทุน ด้วยการเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนจาก บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เป็น บลจ.บัวหลวงนั้น
ทั้งนี้หนังสือชี้ชวนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนได้กำหนดไว้แล้วว่าภายในระยะเวลา 5 ปี ถ้ามีเหตุให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการโดยที่บริษัทจัดการเดิมไม่ได้ทำความเสียหาย กองทุนจะต้องจ่ายเงินค่าบริหารจัดการเต็มจำนวนระยะเวลา 5 ปี ซึ่งในส่วนของบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ได้บริหารจัดการ TFUND มาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี คงเหลือระยะเวลาตามกำหนดอีกประมาณ 2 ปีที่กองทุนจะต้องจ่ายเงินค่าบริหารจัดการให้แก่บลจ.คิดเป็นวงเงินประมาณ 16 ล้านบาท
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า บริษัทขอยืนยันว่าในส่วนของค่าปรับที่ทางบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จะต้องได้รับในกรณีที่กองทุนจะทำการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการก่อนกำหนดนั้น บริษัทจะจ่ายเงินให้แทนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน และขอยืนยันว่าผู้ถือหน่วยจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการกองทุนแต่อย่างใด
“สำหรับกรณีนี้ บลจ.บัวหลวง ขอยืนยันว่า บริษัทฯ จะจ่ายเงินค่าปรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการกองทุนแทน TFUND ตามเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการที่ระบุไว้ในโครงการ และขอให้คำมั่นว่าผู้ถือหน่วยลงทุน TFUND จะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการกองทุนแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรื่องเงินค่าปรับที่ บลจ.บัวหลวง ยินดีจ่ายเงินแทนให้” นางวรวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการกองทุน TFUND อยู่ระหว่างการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อขอมติเพื่อเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุน จาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เป็น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ขบวนการในการพิจารณาเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนอยู่ระหว่างการปิดสมุดจดทะเบียนเพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหน่วยที่มีสิทธิในการลงมติ ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลการลงมติในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ถ้าผู้ถือหน่วยมีมติให้เปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จะต้องส่งเรื่องต่อไปให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อดำเนินการ ซึ่งคาดว่าขบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2551
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที่ลงทุนในที่ดินและอาคารโรงงานมาตรฐานของบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ในนิคมอุตสาหกรรม เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม รวม 8 แห่ง โดย ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) ปรากฎรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนดังต่อไปนี้ อันดับ 1 บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยจำนวน 120,263,000 หน่วย คิดเป็น 21.29 % , อันดับ 2 AYUDHYA ALLIANZ C.P. LIFE PUBLIC COMPANY ถือหน่วยจำนวน 52,067,878 หน่วย คิดเป็น9.22% , อันดับ 3. Ge Real Estate Investment Holdings ถือหน่วยจำนวน 50,000,000 หน่วย คิดเป็น 8.85% , อันดับ 4 บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยจำนวน 40,103,250.00 หน่วย คิดเป็น 7.10%
อันดับ 5 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY FOR LONDON ถือหน่วยจำนวน 30,400,000 หน่วย คิดเป็น 5.38% , อันดับ 6 ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยจำนวน 28,366,600 หน่วย คิดเป็น 5.02% , อันดับ 7 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยจำนวน 21,400,000 หน่วย คิดเป็น 3.79% , อันดับ 8 สำนักงานประกันสังคม ถือหน่วยจำนวน 20,067,000 หน่วย คิดเป็น 3.55% , อันดับ 9 BANK SARASIN-RABO (ASIA) LTD ถือหน่วยจำนวน 14,780,000 หน่วย คิดเป็น 2.62% และอันดับ 10 บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยจำนวน 12,169,375 หน่วย คิดเป็น 2.15%
รายงานข่าวระบุว่า หลังจากที่ผู้ถือหน่วยของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นหนังสือมายังบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขอให้บริษัทดำเนินการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนให้แก้ไขโครงการจัดการกองทุน ด้วยการเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนจาก บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เป็น บลจ.บัวหลวงนั้น
ทั้งนี้หนังสือชี้ชวนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนได้กำหนดไว้แล้วว่าภายในระยะเวลา 5 ปี ถ้ามีเหตุให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการโดยที่บริษัทจัดการเดิมไม่ได้ทำความเสียหาย กองทุนจะต้องจ่ายเงินค่าบริหารจัดการเต็มจำนวนระยะเวลา 5 ปี ซึ่งในส่วนของบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ได้บริหารจัดการ TFUND มาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี คงเหลือระยะเวลาตามกำหนดอีกประมาณ 2 ปีที่กองทุนจะต้องจ่ายเงินค่าบริหารจัดการให้แก่บลจ.คิดเป็นวงเงินประมาณ 16 ล้านบาท
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า บริษัทขอยืนยันว่าในส่วนของค่าปรับที่ทางบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จะต้องได้รับในกรณีที่กองทุนจะทำการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการก่อนกำหนดนั้น บริษัทจะจ่ายเงินให้แทนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน และขอยืนยันว่าผู้ถือหน่วยจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการกองทุนแต่อย่างใด
“สำหรับกรณีนี้ บลจ.บัวหลวง ขอยืนยันว่า บริษัทฯ จะจ่ายเงินค่าปรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการกองทุนแทน TFUND ตามเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการที่ระบุไว้ในโครงการ และขอให้คำมั่นว่าผู้ถือหน่วยลงทุน TFUND จะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการกองทุนแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรื่องเงินค่าปรับที่ บลจ.บัวหลวง ยินดีจ่ายเงินแทนให้” นางวรวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการกองทุน TFUND อยู่ระหว่างการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อขอมติเพื่อเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุน จาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เป็น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ขบวนการในการพิจารณาเปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนอยู่ระหว่างการปิดสมุดจดทะเบียนเพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหน่วยที่มีสิทธิในการลงมติ ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลการลงมติในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ถ้าผู้ถือหน่วยมีมติให้เปลี่ยนแปลงบริษัทจัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จะต้องส่งเรื่องต่อไปให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อดำเนินการ ซึ่งคาดว่าขบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2551
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที่ลงทุนในที่ดินและอาคารโรงงานมาตรฐานของบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ในนิคมอุตสาหกรรม เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม รวม 8 แห่ง โดย ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) ปรากฎรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนดังต่อไปนี้ อันดับ 1 บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยจำนวน 120,263,000 หน่วย คิดเป็น 21.29 % , อันดับ 2 AYUDHYA ALLIANZ C.P. LIFE PUBLIC COMPANY ถือหน่วยจำนวน 52,067,878 หน่วย คิดเป็น9.22% , อันดับ 3. Ge Real Estate Investment Holdings ถือหน่วยจำนวน 50,000,000 หน่วย คิดเป็น 8.85% , อันดับ 4 บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยจำนวน 40,103,250.00 หน่วย คิดเป็น 7.10%
อันดับ 5 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY FOR LONDON ถือหน่วยจำนวน 30,400,000 หน่วย คิดเป็น 5.38% , อันดับ 6 ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยจำนวน 28,366,600 หน่วย คิดเป็น 5.02% , อันดับ 7 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยจำนวน 21,400,000 หน่วย คิดเป็น 3.79% , อันดับ 8 สำนักงานประกันสังคม ถือหน่วยจำนวน 20,067,000 หน่วย คิดเป็น 3.55% , อันดับ 9 BANK SARASIN-RABO (ASIA) LTD ถือหน่วยจำนวน 14,780,000 หน่วย คิดเป็น 2.62% และอันดับ 10 บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยจำนวน 12,169,375 หน่วย คิดเป็น 2.15%