ผู้ถือหน่วยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน มีมติ 75.04% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายแล้ว อนุมัติซื้อโรงงานจากบมจ.ไทคอนเป็นสินทรัพย์กองทุนพร้อมแก้ไขโครงการเพิ่ม ขณะที่รับทราบการขายโรงงานเก่าฟันเงินเข้ากระเป๋า 55 ล้านบาท
นางชวินดา หาญรัตนกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน หรือ TFUND เปิดเผยว่า ตามที่กองทุนได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการขายสินทรัพย์และขอมติผู้ถือหน่วยเพื่อลงทุนเพิ่มเติมรวมไปถึงการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนได้มีการส่งหนังสือแสดงมติกลับมายังบริษัทจัดการ ณ วันที่ 14 มีนาคม 2551 นับเป็นจำนวนหน่วยลงทุนได้ทั้งสิ้น 424,990,701 หน่วย หรือ คิดเป็น 75.22% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุนรวม
โดยในการประชุมผู้ถือหน่วยครั้งนี้บริษัทจัดการได้แจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนรับทราบถึงการขายที่ดินพร้อมอาคารโรงงาน SF.M2.2/2-B ที่ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ให้แก่ Min Aik Technology (Thailand) Company Limited ซึ่งเป็นผู้เช่าของกองทุน เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2551 ในราคาทั้งสิ้น 55 ล้านบาท จากราคาซื้อเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2548 ที่ราคา 47.82 ล้านบาท
ขณะเดียวกันที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน ยังได้พิจารณาอนุมัติการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม ซึ่งประกอบด้วยที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นอาคารโรงงาน จำนวน 1 โรง ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของของบริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ในราคา 47.41 ล้านบาท โดยผู้ถือหน่วยลงทุนมีมติเห็นชอบในวาระดังกล่าวจำนวน 423,971,951 หน่วย คิดเป็น 75.04% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และมีผู้ถือหน่วยลงทุนออกเสียงไม่อนุมัติและงดออกเสียงจำนวน 1,018,750 หน่วย คิดเป็น 0.18% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมเพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น รายละเอียดนโยบายการลงทุน เป็นต้น โดยผู้ถือหน่วยลงทุนมีมติเห็นชอบจำนวน 400,480,451 หน่วย คิดเป็น 70.88% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และมีผู้ถือหน่วยลงทุนออกเสียงไม่อนุมัติและงดออกเสียงจำนวน 24,510,250 หน่วย คิดเป็น 4.34% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
ทั้งนี้ ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนได้มีการปิดสมุดทะเบียนกองทุน โดยปรากฎรายชื่อผู้ถือหน่วยรายใหญ่ดังต่อไปนี้ 1.บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ถือหน่วยลงทุน จำนวน 120,263,000 หน่วย คิดเป็น 21.29% , 2. AYUDHYA ALLIANZ C.P. LIFE PUBLIC COMPANY ถือหน่วยลงทุนจำนวน 52,067,878 หน่วย คิดเป็น 9.22% , 3. Ge Real Estate Investment Holdings ถือหน่วยลงทุนจำนวน 50,000,000 หน่วย คิดเป็น 8.85% , 4. บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุน จำนวน 40,103,250 หน่วย คิดเป็น 7.10% , 5. STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY FOR LONDON ถือหน่วยลงทุนจำนวน 30,400,000 หน่วย คิดเป็น 5.38% , 6.ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุนจำนวน 28,366,600 หน่วย คิดเป็น 5.02%
7.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุนจำนวน 21,400,000 หน่วย คิดเป็น 3.79% , 8. สำนักงานประกันสังคม ถือหน่วยลงทุนจำนวน 20,067,000 หน่วย คิดเป็น 3.55% , 9. BANK SARASIN-RABO (ASIA) LTD ถือหน่วยลงทุนจำนวน 14,780,000 หน่วย คิดเป็น 2.62% และ 10. บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุนจำนวน 12,169,375 หน่วย คิดเป็น 2.15%
ด้านรายงานจาก LIPPER ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนมีขนาดกองทุน 6,167.94 ล้านบาท มีผลการดำเนินการย้อนหลัง 3 เดือน 3.11% , ผลการดำเนินการย้อนหล ัง 6 เดือน 5.67% และผลการดำเนินการย้อนหลัง 1 ปี 9.88%
นางชวินดา หาญรัตนกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน หรือ TFUND เปิดเผยว่า ตามที่กองทุนได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการขายสินทรัพย์และขอมติผู้ถือหน่วยเพื่อลงทุนเพิ่มเติมรวมไปถึงการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนได้มีการส่งหนังสือแสดงมติกลับมายังบริษัทจัดการ ณ วันที่ 14 มีนาคม 2551 นับเป็นจำนวนหน่วยลงทุนได้ทั้งสิ้น 424,990,701 หน่วย หรือ คิดเป็น 75.22% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุนรวม
โดยในการประชุมผู้ถือหน่วยครั้งนี้บริษัทจัดการได้แจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนรับทราบถึงการขายที่ดินพร้อมอาคารโรงงาน SF.M2.2/2-B ที่ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ให้แก่ Min Aik Technology (Thailand) Company Limited ซึ่งเป็นผู้เช่าของกองทุน เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2551 ในราคาทั้งสิ้น 55 ล้านบาท จากราคาซื้อเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2548 ที่ราคา 47.82 ล้านบาท
ขณะเดียวกันที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน ยังได้พิจารณาอนุมัติการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม ซึ่งประกอบด้วยที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นอาคารโรงงาน จำนวน 1 โรง ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของของบริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ในราคา 47.41 ล้านบาท โดยผู้ถือหน่วยลงทุนมีมติเห็นชอบในวาระดังกล่าวจำนวน 423,971,951 หน่วย คิดเป็น 75.04% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และมีผู้ถือหน่วยลงทุนออกเสียงไม่อนุมัติและงดออกเสียงจำนวน 1,018,750 หน่วย คิดเป็น 0.18% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมเพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น รายละเอียดนโยบายการลงทุน เป็นต้น โดยผู้ถือหน่วยลงทุนมีมติเห็นชอบจำนวน 400,480,451 หน่วย คิดเป็น 70.88% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และมีผู้ถือหน่วยลงทุนออกเสียงไม่อนุมัติและงดออกเสียงจำนวน 24,510,250 หน่วย คิดเป็น 4.34% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
ทั้งนี้ ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนได้มีการปิดสมุดทะเบียนกองทุน โดยปรากฎรายชื่อผู้ถือหน่วยรายใหญ่ดังต่อไปนี้ 1.บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ถือหน่วยลงทุน จำนวน 120,263,000 หน่วย คิดเป็น 21.29% , 2. AYUDHYA ALLIANZ C.P. LIFE PUBLIC COMPANY ถือหน่วยลงทุนจำนวน 52,067,878 หน่วย คิดเป็น 9.22% , 3. Ge Real Estate Investment Holdings ถือหน่วยลงทุนจำนวน 50,000,000 หน่วย คิดเป็น 8.85% , 4. บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุน จำนวน 40,103,250 หน่วย คิดเป็น 7.10% , 5. STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY FOR LONDON ถือหน่วยลงทุนจำนวน 30,400,000 หน่วย คิดเป็น 5.38% , 6.ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุนจำนวน 28,366,600 หน่วย คิดเป็น 5.02%
7.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุนจำนวน 21,400,000 หน่วย คิดเป็น 3.79% , 8. สำนักงานประกันสังคม ถือหน่วยลงทุนจำนวน 20,067,000 หน่วย คิดเป็น 3.55% , 9. BANK SARASIN-RABO (ASIA) LTD ถือหน่วยลงทุนจำนวน 14,780,000 หน่วย คิดเป็น 2.62% และ 10. บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยลงทุนจำนวน 12,169,375 หน่วย คิดเป็น 2.15%
ด้านรายงานจาก LIPPER ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนมีขนาดกองทุน 6,167.94 ล้านบาท มีผลการดำเนินการย้อนหลัง 3 เดือน 3.11% , ผลการดำเนินการย้อนหล ัง 6 เดือน 5.67% และผลการดำเนินการย้อนหลัง 1 ปี 9.88%