ครม.หมักฝ่อถูกซักฟอก ตีกลับแผนยกเลิกรถเมล์ร้อน หลังโดนปูดข่าวไอ้โม่งงาบหัวคิวรถเมล์เอ็นจีวีคันละ 1 ล้าน บิ๊กขสมก.ยืนยัน โครงการแปรรูป 1 แสนล. มีประโยชน์ต่อประชาชน "ถาวร" แนะจับตามิสเตอร์ที-มิสเตอร์เอส จอมบงการใหญ่
วันนี้ (10 มิ.ย.) มีรายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตีกลับโครงการจัดหารถเมล์ติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีจำนวน 6,000 คัน โดยให้เสนอรายละเอียดกลับเข้ามาอีกครั้ง ซึ่ง นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ผอ.ขสมก.) ยืนยันว่าโครงการนี้ประชาชนได้รับประโยชน์ แต่การถูกโยงเป็นประเด็นทางการเมือง โดยชี้ว่า เป็นเรื่องที่ฝ่ายการเมืองต้องชี้แจงข้อเท็จจริง
ก่อนหน้านี้ นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเงา กล่าวถึงการติดตามตรวจสอบแผนแปรรูป ขสมก. หลังรัฐบาลประกาศนโยบายที่จะยกเลิกรถเมล์ร้อน และจัดเช่ารถเมล์ปรับอากาศติดก๊าซเอ็นจีวีแทน จำนวน 6,000 คัน เนื่อจากทำให้ประชาชนระดับล่างเดือดร้อนค่าครองชีพ และมีการตั้งงบในการจัดซื้อจัดจ้างสูงผิดปรกติ
ขณะนี้ เรามีข้อมูลและรายชื่อบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว หากเรื่องผ่านการพิจารณาในที่ประชุม ครม.เมื่อเปิดประชุมสภาจะอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องดังกล่าวแน่นอน แต่ขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะไม่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง มีมิสเตอร์ที และมิสเตอร์เอส เป็นผู้ริเริ่มเรื่องนี้ และมีอำนาจโดยตรงจัดการเรื่องนี้ คนที่อยู่ในวงการจะรู้กัน แม้กระทั่งใน ครม. ซึ่งการออกมาติงรัฐบาลในเรื่องนี้ นอกเหนือจากผลกระทบเรื่องราคาโดยสารที่เพิ่มขึ้น รถเมล์ร้อนประมาณ 3,000 คัน ที่จะขายก็มีแนวโน้มว่าขายถูกผิดปกติ และรถเมล์ปรับอากาศที่จะเช่าก็จะมีราคาที่แพง โดยสืบทราบว่าจะมีใต้โต๊ะคันละ 1 ล้านบาท
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่าให้นายถาวรติดตามเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งคาดว่าคงจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ว่า ควรจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป และจะถึงขั้นต้องยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องหรือไม่ หากรวบรวมหลักฐานได้เพียงพอก็จะยื่นในสมัยประชุมวิสามัญนี้เลย
สำหรับกรณีที่ นายถาวร ระบุว่า หากไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ก็จะส่งข้อมูลให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่จริงแล้วจะต้องตรวจสอบให้ถึงที่สุด ซึ่งได้บอกกับหลายคนแล้ว เพราะไม่ใช่มีเพียงนายถาวรเท่านั้นที่ตรวจสอบ แต่มีคนอื่นด้วย และยังมีการติดตามกระทรวงอื่นๆ ด้วย แต่เรื่องนี้มีความคืบหน้าไปมาก