xs
xsm
sm
md
lg

“ชู 5 ผู้กล้าแกนนำไว้ในใจ” พันธมิตรฯพร้อมพลีชีพเพื่อชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ !

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พลังปวงชนมาจากทุกจังหวัดของประเทศไล่รัฐบาล
ศูนย์ข่าวศรีราชา -

นี่..เป็นบันทึกเปิดใจของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอีกฉบับหนึ่ง ต่อสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งสุดท้าย ซึ่งบรรดาพันธมิตรฯต่างจังหวัด จากทุกภูมิภาคของประเทศทุกคนรวมพลังหนุนเนื่อง 5 ผู้กล้าแกนนำ ร่วมต้านนักการเมืองหุ่นเชิดเหลี่ยมจัด ที่เห็นแก่ประโยชน์แห่งตน มุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง, ร่วมต้านการทุจริตคอร์รัปชัน, รวมพลังขับไล่นักการเมืองชั่วๆ มิให้อำนาจ ได้ใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรม, รวมทั้งต่อต้านนักการเมือง ผู้มีพฤติกรรมดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์


กรณีหมิ่นสถาบันฯ..แม้นว่า นายจักรภพ เพ็ญแข แห่งพรรคพลังประชาชนจะลาออกจากตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่คดีความกลับไม่คืบหน้า ดั่งเช่นคดีกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทธรรมดาๆซึ่งตำรวจกระเหี้ยนกระหือรือ ทำคดีรวดเร็ว ขอหมายจับจากศาลอยุธยา ไปไล่จับอดีตอธิบดี ดีเอสไอ นายสุนัย มโนมัยอุดม ซึ่งเป็นอดีตผู้พิพากษา ชั้นผู้ใหญ่ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

เรื่องดังนี้ ทำให้ประชาชนคนไทยผู้รักชาติ พันธมิตรฯต่างทราบกันดี จึงพากันเกลียดชัง ชิงชังตำรวจมากขึ้นทวีคูณ

สำหรับพันธมิตรฯ คนน้ำเค็มภาคตะวันออก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายกนั้น นับได้ว่า เป็นกองกำลังหลักของ 5 ผู้กล้าแกนนำพันธมิตรฯเช่นเดียวกันกับพันธมิตรฯจาก จ.เพชรบุรี ทางจังหวัดภาคใต้ นักรบผู้กล้าศรีวิชัย!และจากทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ที่ต่างเขียนบอกชื่อจังหวัดบอกที่มาที่ไปชูป้ายหน้าเวทีชุมนุม

พันธมิตรฯทุกกลุ่มชู 5 ผู้กล้าแกนนำ “ไว้ในใจ” พร้อมพลีชีพได้ทุกเวลา เพื่ออุดมการณ์ ตามจุดยืนที่ตั้งปณิธานไว้ ซึ่งแกนนำหลักๆแต่ละกลุ่ม ออกมาใช้ชื่อจริงนามสกุลจริงให้สัมภาษณ์ astv.และสื่อออนไลน์ผู้จัดการ อย่างเปิดเผยตัวตนมากขึ้น แม้จะถูกส่วนราชการบางหน่วยงานข่มขู่กลั่นแกล้งก็ไม่ได้หวาดหวั่นอะไร

ขณะนี้มีอีกมากกลุ่มไปลงชื่อหลังเวทีพันธมิตรฯ ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ พร้อมเบอร์โทร.ไว้ติดต่อ เพื่อระดมกำลังพันธมิตรฯผู้รักชาติเคลื่อนเข้ากรุงฯทันทีที่มีเหตุจำเป็น ทุกกลุ่มเห็นพ้องกันว่า พร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่กับ 5 แกนนำที่มี พลตรีจำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายภิภพ ธงไชย และอีกหนึ่งคือนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานบรรดาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศ

พวกเขาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเห็นด้วยกับการต่อสู้เพื่อรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งสุดท้าย เพื่อไล่พวกนักการเมืองคนชั่วมิให้มีอำนาจครองเมือง ซึ่งคนพวกนี้ใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรม มีตัวอย่างเห็นอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
 พันธมิตรฯจากต่างจังหวัดชูป้ายเรียกเสียงฮือฮาได้พร้อมรอยยิ้มของพันธมิตรฯอีกจำนวนมาก
นักการเมืองหุ่นเชิดเหล่านี้ล้วนเป็น ขี้ข้าทรราชย์หน้าเหลี่ยมคนเดียวคนนั้น !
ป่านฉะนี้แล้วพวกหน้าเหลี่ยมยังนึกว่าประชาชนคนไทยโง่..กินแกลบแทนข้าว ดีแต่ตีฝีปาก แบล็กเมล์ผู้คน กดขี่ข้าราชการดีๆทุกรูปแบบ ซึ่งถ้าสาวลึกลงไปนักการเมืองพรรค์นี้มีผลประโยชน์ซ่อนอยู่ ทั้งมีนัยะแฝงเร้นไว้...

นักการเมืองเหลี่ยมจัดนี้ มีลูกล่อลูกชน เมื่อคนหนึ่งตีปลาหน้าไซ ให้ประชาชนไขว้เขว อีกคนหนึ่งลงมือปฏิบัติการแบบฉับพลัน ปากร้องสามัคคีแต่เอามือตบ เท้าเตะฝ่ายตรงกันข้ามกับตน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้ทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่าอีกไม่นานช้า..เมื่อพวกขุนทหาร คมช.เกษียรณก็จะโดนคิดบัญชีเป็นรายคนซึ่งเมื่อถึงวันนั้น พวกคมช.ก็จะทราบแก่ใจถึงมนุษย์พันธ์เหลี่ยมจัดได้ด้วยตัวเอง (ซึ่งก็น่าจะโดนเสียบ้างก็คงจะดี..)

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นนักการเมืองคนแรกของพรรคพลังประชาชน ไม่พูดพล่ามทำเพลง ชักดาบแรกฟันฉับๆส่ง นัยยะให้คดีความต่างๆที่ กรมดีเอสไอ อันเกี่ยวกับเรื่องอดีตนายกรัฐมนตรีหน้าเหลี่ยมกับครอบครัวหยุดชะงักลงโดยพลัน ด้วยการเซ็นย้าย นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีดีเอสไอ

ส่วนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งได้รับพระราชทานเหรียญรามาธิบดี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบและเซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการด้วยตัวเองซึ่งเรื่องนี้จะมีการฟ้องร้องกลับในภายหลัง

แต่นั่นก็ทำให้คดีความต่างๆที่มีอยู่ที่สำนักงานตำรวจเศรษฐกิจชะงักงันลงไปและหากทว่าถ้า พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ยังดำรงคงตำแหน่งอยู่นักการเมืองพรรคพลังประชาชนบางครอบครัว ทางภาคอิสาณจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลติดคุกคดีบุกรุกที่ดินสาธารณะและอื่นๆ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ตามขั้นตอนที่มีการวางแผนมาอย่างดี โดย “จอมบงการหน้าเหลี่ยมและคณะพรรค”

ปัจจุบันข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ซึ่งทำงานซื่อสัตย์ต่องานราชการ มีจิตสำนึกไม่ยอมลงให้กับการเมืองที่ประพฤติตนไม่ถูกต้อง ถูกย้ายออกจากพื้นที่ บางคนเป็นข้าราชการสังกัดกรมการปกครอง เป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดบ้าง เป็นนายพลตำรวจบ้าง ซึ่งล้วนถูกกล่าวหาว่า สนองนโยบายของ คมช.หรือฝ่ายทหารซึ่งออกมาปฏิวัติ 19 กันยายน ปี 49

บัดนี้..รัฐบาลหุ่นเชิดพันธ์เหลี่ยมจัดครองอำนาจปกครอง ครองอำนาจการเมือง จึงมีข้าราชการจำนวนไม่น้อยซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำคดีความที่เกี่ยวกับอดีตนายก รัฐมนตรีและครอบครัวถูกตัดตอนออกไป

ทั้งรัฐบาลนี้ปล่อยให้คนกลุ่มหนึ่ง ออกปลุกระดม มีการกระทำแสดงออกด้วยวาจา ต่อที่สาธารณะ กระทำการจาบจ้วงหมิ่นฯต่อสถาบันสูงสุดของคนไทย กรณี นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งคนในกระบวนการนี้มุ่งล้มล้าง บั่นทอนความเชื่อถือต่อสถาบัน เริ่มด้วยการเป็นข่าว ใส่เสื้อมีข้อความ “ไม่ยืนไม่ใช่อาชญากร-คิดเห็นต่างไม่ใช่อาชญากรรม”..และความอื่นๆ

เรื่องละเอียดอ่อนเช่นนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี(หุ่นเชิด) น่าจะทำอะไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่กลับดำเนินการล่าช้า นี่..ถ้า 5 แกนนำพันธมิตรฯ ไม่ออกมาเปิดโปงและประชาชนไม่ร่วมแสดงพลังนับแสนคนต่อต้าน นายจักรภพ ก็ลอยนวล ไม่ลาออก ขณะนี้ประชาชนคนไทยผู้รักชาติทั่วประเทศ ต่างตระหนักถึงภัยของคณะบุคคลของกระบวนการนี้ ซึ่งมีการกระทำเชื่อมโยงเป็นลูกโซ่

นี่เอง..เป็นเหตุให้เด็กหนุ่มเลือดเมืองชล นายมาณพ วิทยาอนุมาส อายุ 29 ปี ทนไม่ได้ จึงทำป้ายผ้าขนาดใหญ่ติดตั้งเอาไว้ด้านหน้าร้าน บริเวณสี่แยกตลาดบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ความว่า “ ยืนด้วยกายไม่ได้ถูกบังคับ - ยืนด้วยใจไม่ได้ถูกเงินซื้อ -เราจะขอปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต”
ยืนเข้าแถวเป็นระเบียบเพื่อทานอาหาร
นายมาณพ ตอกย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า “พวกเขาคิดได้อย่างไร ถึงกระทำการหมิ่นสถาบัน พวกเราชาวไทยเกิดมา สถาบันก็อยู่ในหัวใจของพวกเราแล้ว เราจึงพร้อมปกป้องสถาบันด้วยชีวิต”...

สำหรับนายมาณพ หลังจากที่ผู้จัดการออนไลน์นำเสนอข่าว ได้มีข้าราชการทหาร ประชาชน ผู้รักชาติ รักสถาบันพร้อมพันธมิตรฯให้กำลังใจต่อความกล้าของเขา เพราะเขาไม่หวั่นต่อภัยและการคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นต่อตัวเขาได้ทุกเวลา

บัดนี้..การชุมนุมของประชาชนผู้รักชาติ ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินใน กรุงเทพฯ แต่ละวัน มีประชาชนกว่าสองหมื่นถึงสามหมื่นคนมาชุมนุม พอตกกลางคืนมีมากถึง ห้าหมื่นคนขึ้นไป กระทั่งบางคืนเป็นเรือนแสน ซึ่งไม่ใช่ประชาชนพันธมิตรฯจากต่างจังหวัดส่วนภูมิภาคเท่านั้น ขณะนี้ประชาชนกทม.ได้ออกมาร่วมชุมนุมมากขึ้น

แต่ทว่า...นักการเมืองเหลี่ยมจัดยังคงเหลิงอำนาจ คงใช้เล่ห์เพทุบายใช้วิชามาร งัดลูกจุกจิก ตีปลาหน้าไซ ขณะเดียวกันก็เซ็นโยกย้ายข้าราชการเป็นว่าเล่น ทั้งสั่งตำรวจให้ติดตามแกนนำพันธมิตรฯต่างจังหวัดแบบตัวต่อตัว ซึ่งที่ชลบุรี ระยอง โดนกันหนักทุกคน ทุกรูปแบบ

บันทึกเปิดใจของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับนี้ หวนนึกถึงการเลือกตั้ง 26 กุมภาพันธ์ 2500 ซึ่งเป็นการต่อสู้ระหว่างจอมพล ป.พิบูลสงคราม อันมุ่งจะรักษาอำนาจที่มีไว้ กับนายควง อภัยวงศ์ โดยมีรัฐตำรวจที่ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อันเกรียงไกร ควบคุมอยู่ เป็นฝ่ายหนุนเนื่อง

หลังจากการเลือกตั้ง 26 กพ.2500 อันสกปรกบันลือโลกผ่านไปไม่นานการปฎิวัติก็เกิดขึ้นโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ (ผู้บัญชาการทหารบก )ซึ่งเรื่องราวต่างๆ ลงเอยด้วยการที่ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ต้องนั่งรถวิหคสายฟ้าไปทางภาคตะวันออกข้ามสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ผ่านชลบุรีไปเขตชายแดนเขมร ที่หาดเล็ก คลองใหญ่จังหวัดตราด ลี้ภัยไปต่างประเทศ ส่วน พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจผู้ทรงอำนาจ ชี้ชีวิตใครตายใครเป็นได้นั้น คณะ ปกฺวัติจับขึ้นเครื่องบิน ลี้ภัยไปสวิสเซอร์แลนด์ ต่อมาได้เสียชีวิตที่นั่น.

บ้านเมืองของเราวันนี้ ทุกระดับชั้น นักการเมืองพันธ์เหลี่ยมจัด ทุกคนล้วนมีปริญญาตรี, โท, เอก ส่วนที่ไม่มีก็ดิ้นรนไปหาปริญญาบัตร์ปลอมมาแสดง จนต้องลาออกไปจากตำแหน่งรัฐมนตรีก็มีให้เห็น เป็นเรื่องเลอะเทอะ ส.ส.ก็มีประวัติถ่อยสถุล วุฒิไม่ได้ตามกำหนดก็ปกป้องกันไป

ขณะเดียวกันพัฒนาการเมืองกลับมีเล่ห์ มีเหลี่ยมไปตามระดับเอาแต่พวกพ้องลูกเมียเป็นใหญ่ ไร้คุณธรรม ไร้จริยธรรม ไร้สำนึกเพื่อชาติบ้านเมือง มีการกระทำทุ่มเงินตกเขียวไปทั่วเพื่อซื้อเสียงล่วงหน้า

ขณะนี้เมื่อเผ่าพันธุ์นักการเมืองเหลี่ยมจัด ยึดกรมประชาสัมพันธ์ได้ จึงมีกระบอกเสียงออกข่าวกลับดำเป็นขาวกลับขาวเป็นดำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

แต่ประชาชนก็รู้เท่าทัน เพราะการที่จะให้ประชาชนเชื่อฟังนั้น พวกผู้นำจะต้องมีความจริงใจ ไม่เป็นผู้ที่ด่างพร้อยทางคุณธรรม ไม่ตอบโต้ไม่เห็นแก่ตัว ดังที่ปรากฏว่า มีรัฐมนตรีบางกระทรวงได้กระทำให้ประจักษ์ต่อสายตาประชาชน เอาลูกกลับเข้ารับราชการทั้งที่โดนปลดไปแล้ว

ได้เขียนถึงเขียนย้ำทุกบันทึกหรือทุกรายงานว่า...

อันบ้านเมืองของเราเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ชื่อสยามนามประเทศไทย บรรพบุรุษของเราได้เสียสละชีวิตเลือดเนื้อกู้ชาติปกป้องคุ้มครองมาจนถึงลูกถึงหลาน

ทั้งแผ่นดินศักดิ์สิทธิแห่งนี้ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โดยเฉพาะพระสยาม
เทวาธิราช...

ยิ่งถูกกดขี่ ยิ่งเติบโต ทั้งเมื่อประชาชนส่วนใหญ่เริ่มเห็นความตายเป็นเรื่องไม่สำคัญ ไม่หวาดหวั่น...ประชาชนจะพากันลุกขึ้นสู้ดังที่เห็นกันและยิ่งเพิ่มมากขึ้น มากขึ้น และอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้

จึงขอให้รัฐมนตรีคนนั้นโปรดจำไว้อีกครั้งเถิดว่าที่ชอบตีโวหารขู่เข็ญผู้ที่เห็นตรงข้ามกับตน ชอบใส่ร้ายผู้อื่น เห็นแก่ครอบครัวตัวเองเป็นสำคัญ ทั้งชอบอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตยอยู่บ่อยครั้ง

สำหรับขุนทหารทั้งหลาย ณ วันนี้ ณ เวลานี้ ในหัวใจของประชาชนผู้เสียภาษี เริ่มสับสน การที่รัฐบาลปล่อยให้มีผู้คนออกมาหมิ่นสถาบันฯนั้น ประชาชนต่างพากันวิตก ซึ่งทำให้ ความรักความเชื่อมั่นต่อทหารอาจลดน้อยถอยลงไปบ้าง คนไทยทุกคนถามกันว่า ทหารไปใหนปล่อยไว้ได้อย่างไร ทำไมไม่มีการตอบโต้ออกมาบ้าง

ฝรั่งต่างชาติแท้ๆ ยังรักในหลวงของพวกเราชาวไทย เทิดทูนพระองค์ท่าน แต่งเพลงออกมาจากใจ เช่น เคลลีนิวตัน-เวิร์ดสเวิร์ท ได้ขึ้นไปขับขานบทเพลงชื่อ Long Live The King of Thailand ณ เวทีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกน้ำตาของผู้ร่วมชุมนุมเรือนแสนให้ไหลออกมาคลอเบ้าตา ทั้งเรียกน้ำตาของผู้ชม astv ได้ทั้งบ้านทั้งเมือง

ประชาชนคนไทยขณะนี้ไม่อะไรจะเสียไปมากกว่านี้อีก ไม่มีเงินเพียงพอต่อการบินหนีไปอยู่ต่างประเทศ พวกเราพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้รักชาติขอตายอยู่กับแผ่นดินสยามนามประเทศไทย..!

แต่อย่างว่า...นี่เป็นเพราะหน้าเหลี่ยมคนนั้นคนเดียว! ขอให้ 5 ผู้กล้าแกนนำ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จงทราบอีกครั้งว่า พวกเราพันธมิตรฯในส่วนภูมิภาคของประเทศ ไม่เฉพาะภาคตะวันออกเท่านั้น ขอร่วมเป็นร่วมตาย ชนิดใจถึงใจ นี่คือจุดยืน..เพื่อชาติ เพื่อศาสน์ เพื่อกษัตริย์ โดยแท้

กำลังโหลดความคิดเห็น