ผู้บริหาร ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เผย นักลงทุนตื่นเกณฑ์เทิร์นโอเวอร์ลิสต์ชะลอลงทุนกดดันวอลุ่มเอ็มเอไอหด ลั่นจากการตรวจสอบไม่พบเข้าข่าย ชี้ราคาหุ้นร่วงเป็นโอกาสเข้าลงทุน เหตุ กำไรเติบโตต่อเนื่อง ปันผลสูง "ชนิตร"เผยไตรมาส1/51 "ถิรไทย -ยัวซ่าแบตเตอรี่ " พลิกกลับมามีกำไรจากปีก่อนขาดทุน เตรียมนำ "UEC -UMS –TRT " โรดโชว์สิงคโปร์ต้น ก.ค.นี้
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)เปิดเผยว่า จากการที่มีข่าวในเรื่องการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)จะมีการจัดทำการรายชื่อหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายหมุนเวียนสูง(Turnover list)ซึ่งจะครอบคลุมหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เอ็มไอไอ จึงส่งผลให้นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นmaiมีความกังวลกับเรื่องดังกล่าวทำให้มีการชะลอการลงทุนส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายหุ้นใน mai ปรับตัวลดลง
"ซึ่งหากหุ้นที่มีการปริมาณการซื้อขายที่สูง และมีราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยมีปัจจัยพื้นฐานรองรับในด้านการเติบโตธุรกิจ ผลการดำเนินงาน แต่หากไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับก็ถือว่าแปลกแต่พอมีข่าวเรื่องหุ้น Turnover list นั้นทำให้นักลงทุนมีความกังวลชะลอการลงทุน แต่จากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีหุ้นในmaiเข้าข่ายเกณฑ์ดังกล่าว" นายชนิตร กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากมีข่าวดังกล่าวทางตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ได้มีการตรวจสอบ ซึ่งไม่พบหุ้นในmaiเข้าข่ายที่จะติดรายชื่อ Turnover list โดยหุ้นใน mai ถือว่ามีผลการดำเนินงานเติบโตที่ดี และการที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นก็มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ซึ่งไตรมาส1/51หลายอุตสาหกรรมก็มีการเติบโตดี ซึ่งมี 2 บริษัทที่พลิกมามีกำไรจากปีก่อนขาดทุน คือ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ TRTในไตรมาส1/51มีกำไรสุทธิ 28.53 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนขาดทุน 37.66 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมี บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)หรือ YUASAไตรมาส1/51กำไรสุทธิ 16.75 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุน 71.29 ล้านบาท จากการที่บริษัทมีการปรับตัว ซึ่งการที่มีปัจจัยทางการเมืองส่งผลให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงมาถือว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนจากหุ้นใน mai นั้นมีการเติบโตที่ดี มีปันผลที่สูง ซึ่งเดิมนั้นP/E mai อยู่ที่ 18 เท่า แต่จากผลกำไรไตรมาส1/51ออกมาก็ทำให้P/Eปรับตัวอยู่ที่ 15-16 เท่าซึ่งถือว่าไม่แพง
นายชนิตร กล่าวว่า ต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ จะไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ที่ประเทศสิงคโปร์ซึ่งไปตามคำเชิญของบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทิสโก้ จำกัด โดยจะพาบริษัทในmai ร่วมไปโรดโชว์ 3 บริษัท คือ บริษัท ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)หรือ UEC บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน)หรือ UMS บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TRC
จาการรวบรวมมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ได้มีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2551 หลังจากมีข่าวก.ล.ต.จะมีการประกาศรายชื่อหุ้นที่ติดTurnover list โดยจะนำหุ้นใน mai ด้วยหากเข้าข่าย มีมูลค่าการซื้อขาย 917.02 ล้านบาท วันที่ 16 พฤาภาคม 2551 มูลค่าซื้อขายลดลงอยู่ที่ 574.66 ล้านบาท วันที่ 20 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 371.62 ล้านบาท
วันที่ 21 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่267.57 ล้านบาท วันที่ 22 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่359.30 ล้านบาท วันที่ 23พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่222.61 ล้านบาท วันที่ 26 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 205.58 ล้านบาท วันที่ 27 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 267.34 ล้านบาท วันที่ 28พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่200.78 ล้านบาท วันที่ 29 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 275.57 ล้านบาท วันที่ 30 พฤษภาคม 2551 มูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 222.64 ล้านบาท
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)เปิดเผยว่า จากการที่มีข่าวในเรื่องการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)จะมีการจัดทำการรายชื่อหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายหมุนเวียนสูง(Turnover list)ซึ่งจะครอบคลุมหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เอ็มไอไอ จึงส่งผลให้นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นmaiมีความกังวลกับเรื่องดังกล่าวทำให้มีการชะลอการลงทุนส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายหุ้นใน mai ปรับตัวลดลง
"ซึ่งหากหุ้นที่มีการปริมาณการซื้อขายที่สูง และมีราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยมีปัจจัยพื้นฐานรองรับในด้านการเติบโตธุรกิจ ผลการดำเนินงาน แต่หากไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับก็ถือว่าแปลกแต่พอมีข่าวเรื่องหุ้น Turnover list นั้นทำให้นักลงทุนมีความกังวลชะลอการลงทุน แต่จากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีหุ้นในmaiเข้าข่ายเกณฑ์ดังกล่าว" นายชนิตร กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากมีข่าวดังกล่าวทางตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ได้มีการตรวจสอบ ซึ่งไม่พบหุ้นในmaiเข้าข่ายที่จะติดรายชื่อ Turnover list โดยหุ้นใน mai ถือว่ามีผลการดำเนินงานเติบโตที่ดี และการที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นก็มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ซึ่งไตรมาส1/51หลายอุตสาหกรรมก็มีการเติบโตดี ซึ่งมี 2 บริษัทที่พลิกมามีกำไรจากปีก่อนขาดทุน คือ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ TRTในไตรมาส1/51มีกำไรสุทธิ 28.53 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนขาดทุน 37.66 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมี บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)หรือ YUASAไตรมาส1/51กำไรสุทธิ 16.75 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุน 71.29 ล้านบาท จากการที่บริษัทมีการปรับตัว ซึ่งการที่มีปัจจัยทางการเมืองส่งผลให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงมาถือว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนจากหุ้นใน mai นั้นมีการเติบโตที่ดี มีปันผลที่สูง ซึ่งเดิมนั้นP/E mai อยู่ที่ 18 เท่า แต่จากผลกำไรไตรมาส1/51ออกมาก็ทำให้P/Eปรับตัวอยู่ที่ 15-16 เท่าซึ่งถือว่าไม่แพง
นายชนิตร กล่าวว่า ต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ จะไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ที่ประเทศสิงคโปร์ซึ่งไปตามคำเชิญของบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทิสโก้ จำกัด โดยจะพาบริษัทในmai ร่วมไปโรดโชว์ 3 บริษัท คือ บริษัท ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)หรือ UEC บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน)หรือ UMS บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TRC
จาการรวบรวมมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ได้มีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2551 หลังจากมีข่าวก.ล.ต.จะมีการประกาศรายชื่อหุ้นที่ติดTurnover list โดยจะนำหุ้นใน mai ด้วยหากเข้าข่าย มีมูลค่าการซื้อขาย 917.02 ล้านบาท วันที่ 16 พฤาภาคม 2551 มูลค่าซื้อขายลดลงอยู่ที่ 574.66 ล้านบาท วันที่ 20 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 371.62 ล้านบาท
วันที่ 21 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่267.57 ล้านบาท วันที่ 22 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่359.30 ล้านบาท วันที่ 23พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่222.61 ล้านบาท วันที่ 26 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 205.58 ล้านบาท วันที่ 27 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 267.34 ล้านบาท วันที่ 28พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่200.78 ล้านบาท วันที่ 29 พฤษภาคม 2551 มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 275.57 ล้านบาท วันที่ 30 พฤษภาคม 2551 มูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 222.64 ล้านบาท
