ตลาดหลักทรัพย์ฯ แขวน SP หุ้น ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล หวั่นกระทบต่อฐานะการเงินและการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุน เหตุบริษัทแจ้งหยุดดำเนินกิจการชั่วคราวตั้งแต่ 31 ก.ค.เป็นต้นไปจนกว่าจะหาผู้ร่วมทุนและปรับหนี้เสร็จ หลังขายหุ้นเพิ่มทุน 100 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.20 บาทไม่สำเร็จเพราะผู้ถือหุ้นเดิมเมินใช้สิทธิ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( ตลท. ) แขวนเครื่องหมาย SP หุ้น TRS หรือบริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำกัด (มหาชน) หลังจากบริษัทได้นำส่งมติคณะกรรมการบริษัทมายังตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับการหยุดดำเนินกิจการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทและการตัดสินใจการลงทุนของนักลงทุนตลาดหลักทรัพย์ ฯ จึงขึ้นเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์ของ TRS ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2552 จนกว่า TRS จะชี้แจงข้อมูลดังกล่าวอย่างครบถ้วน
ทั้งนี้ เนื่องจากนายไพกิจ ฮุนพงษ์สิมานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำกัด (มหาชน) (TRS) แจ้งว่าตามที่บริษัทประสบปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติให้บริษัทเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2552 จำนวน 100 ล้านหุ้น จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและบริษัทไม่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุน เนื่องจากมีผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน 238,510 หุ้น คิดเป็น 0.24 % ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิม
โดยในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2552 ได้มีมติให้บริษัทหยุดดำเนินกิจการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป จนกว่าจะหาผู้ร่วมทุนและปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินแล้วเสร็จ
การเพิ่มทุนดังกล่าวเป็นผลจากมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งบอร์ดอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 1,000 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญ ใหม่ 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท และให้เสนอขายหุ้นจำนวนนี้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีรายชื่อปรากฎในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 8 เมษายน 2552 ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นซึ่งผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ในอัตรา 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 5 หุ้นสามัญใหม่ ราคาหุ้นละ 1.20 บาท ซึ่งเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 20 เมษายน 2552 ถึง 24 เมษายน 2552 เพื่อนำไปใช้ชำระหนี้และเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 52 สิ้นสุด 31 มีนาคม 52 พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 31.62 ล้านบาท ลดจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีผลขาดทุนสุทธิ 54.85 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้บริษัทมีรายได้จากการขาย 62.60 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2551 ซึ่งมีรายได้จากการขาย 103.66 ล้านบาท ผลงานดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง
ขณะราคาหุ้น TRS ตั้งแต่ต้นปี 52 เทรดที่ราคาเหนือ 3 บาท แต่ค่อย ๆ ปรับลดลงมาที่ 2 บาทกว่าจนกระทั่งล่าสุดเมื่อ 14 ก.ค. ก่อนแขวนSP ปิดที่ 1.04 บาท ลดลง 0.04 บาท หรือลดลง 3.85% มูลค่าซื้อขาย 111.14 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( ตลท. ) แขวนเครื่องหมาย SP หุ้น TRS หรือบริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำกัด (มหาชน) หลังจากบริษัทได้นำส่งมติคณะกรรมการบริษัทมายังตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับการหยุดดำเนินกิจการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทและการตัดสินใจการลงทุนของนักลงทุนตลาดหลักทรัพย์ ฯ จึงขึ้นเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์ของ TRS ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2552 จนกว่า TRS จะชี้แจงข้อมูลดังกล่าวอย่างครบถ้วน
ทั้งนี้ เนื่องจากนายไพกิจ ฮุนพงษ์สิมานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำกัด (มหาชน) (TRS) แจ้งว่าตามที่บริษัทประสบปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติให้บริษัทเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2552 จำนวน 100 ล้านหุ้น จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและบริษัทไม่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุน เนื่องจากมีผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน 238,510 หุ้น คิดเป็น 0.24 % ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิม
โดยในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2552 ได้มีมติให้บริษัทหยุดดำเนินกิจการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป จนกว่าจะหาผู้ร่วมทุนและปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินแล้วเสร็จ
การเพิ่มทุนดังกล่าวเป็นผลจากมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งบอร์ดอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 1,000 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญ ใหม่ 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท และให้เสนอขายหุ้นจำนวนนี้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีรายชื่อปรากฎในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 8 เมษายน 2552 ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นซึ่งผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ในอัตรา 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 5 หุ้นสามัญใหม่ ราคาหุ้นละ 1.20 บาท ซึ่งเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 20 เมษายน 2552 ถึง 24 เมษายน 2552 เพื่อนำไปใช้ชำระหนี้และเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 52 สิ้นสุด 31 มีนาคม 52 พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 31.62 ล้านบาท ลดจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีผลขาดทุนสุทธิ 54.85 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้บริษัทมีรายได้จากการขาย 62.60 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2551 ซึ่งมีรายได้จากการขาย 103.66 ล้านบาท ผลงานดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง
ขณะราคาหุ้น TRS ตั้งแต่ต้นปี 52 เทรดที่ราคาเหนือ 3 บาท แต่ค่อย ๆ ปรับลดลงมาที่ 2 บาทกว่าจนกระทั่งล่าสุดเมื่อ 14 ก.ค. ก่อนแขวนSP ปิดที่ 1.04 บาท ลดลง 0.04 บาท หรือลดลง 3.85% มูลค่าซื้อขาย 111.14 ล้านบาท
