ดัชนีหุ้นไทยภาคเช้า ร่วงหนักกว่า 10 จุด โบรกฯ แฉไอ้โม่งปล่อยข่าวลือปฎิวัติสะพัดท่วมห้องค้า นักลงทุนตื่นเทขายหุ้น 2 วันซ้อน ขณะที่วงในคาดรัฐบาลหวาดผวา "สีเขียว" เข้าแทรกแซง หลังถูกปูดเบื้องหลังขนม็อบจุดชนวนความรุนแรงกรุ่งพันธมิตรฯ
วัน (29 พ.ค.) บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เช้าวันนี้ ดัชนียังคงปรับลงกว่า 10 จุด ต่อเนื่องจากวานนี้ ตามแรงขายของต่างชาติหลังเกิดกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการปฏิวัติกลับมาอีกและแพร่สะพัดไปถึงต่างประเทศทั้งในฮ่องกงและสิงคโปร์ โดยมีแรงเทขายมากในหุ้นกลุ่มบิ๊กแคป ขณะที่สัญญาณเทคนิคเริ่มเปลี่ยนเป็นขาลงแล้ว หลังจากหลุดแนวรับสำคัญ
"เชื่อว่า เป็นการปล่อยข่าวลือจากซีกรัฐบาล เนื่องจากแกนนำหลายคนกังวลว่า ทหารอาจเข้ามาคุมสถานการณ์ หลังจากรัฐบาลใช้ตำรวจ และกลุ่มม็อบป่าเถื่อนเข้าทำร้ายกลุ่มพันธมิตร จึงต้องออกมาดักคอเอาไว้ก่อน เพื่อกันไม่ให้ทหารเข้ามายุ่งเกี่ยว และเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการโจมตีฝ่ายตรงข้าม" ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าการลงทุนสรุปสั้นๆ
มีรายงานข่าวว่า วันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้พยายามสร้างข่าวและจุดชนวนความรุนแรงตลอดเวลา โดยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเปลี่ยนแผนการชุมนุมเป็นการขับไล่รัฐบาลว่า การชุมนุมในที่สุดแล้วจะทำให้เห็นและรู้ว่าใครเป็นใคร รัฐบาลไม่คิดสลายการชุมนุมแต่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องดูแลความสงบเรียบร้อย ส่วนการชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) จะมีความรุนแรงหรือไม่อยู่ที่กลุ่มพันธมิตร ถ้าไม่ก่อเหตุทำกันเองก็จะไม่มีอะไร
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวได้ทราบจากการข่าวว่า จะมีการวางระเบิดทำร้ายซึ่งกันและกันซึ่งหากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมขอให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตย ควรติดตามการชุมนุมทางโทรทัศน์ไม่ควรออกไปร่วมชุมนุม
โดยเมื่อเวลา 11.38 น. ดัชนีปรับลดลง 10.86 จุด อยู่ที่ระดับ 822.13 จุด เปลี่ยนแปลง -1.30% หลุดแนวรับวันนี้ที่ 825 จุด ไปแล้ว
ด้านนักวิเคราะห์วิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ต่างชาติยังคงขายต่อจากปัจจัยเรื่องการเมือง เพราะเมื่อวานภาพการเมืองเป็นตัวกระชากลง ส่วนวันนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนไปจากเดิมมาก อีกทั้งมีกระแสข่าวลือเรื่องที่ปฏิวัติกันมากและลือไปทั่วโดยลือที่ฮ่องกงกับที่สิงคโปร์หนัก ทำให้ต่างชาติออกมาขายค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่ระดับ 6% ยังเป็นตัวค้ำทำให้โดยรวมยังไม่ค่อยดูน่ากลัว แต่ช่วงสั้นคงเป็นเรื่องการเมือง แต่ฝ่ายวิจัยมองการเมืองเท่าที่เห็นยังไม่ได้เป็นเรื่องที่รุนแรงขนาดนั้น และมองโอกาสน้อยที่จะเห็นการปฏิวัติ
ขณะที่ทิศทางภาพเทคนิคระยะสั้นเริ่มเสียและเป็นขาลง แนวรับรอบนี้ 822 จุด ถึงพอดี แต่ถ้าหลุดมองที่ 818 จุด ตอนนี้ภาพเทคนิคสั้นเสีย แต่ภาพเทคนิคกลางกับยาวยังไม่ได้เลวร้ายมองแนวรับที่สำคัญใหญ่ๆ คือ 770 จุด ถ้ายืนอยู่ได้ภาพกลางกับยาวยังถือเป็น Up trend อยู่
"หุ้นไทยเช้านี้ตอนแรกคิดว่าจะรีบาวน์กลับได้บ้างตามตลาดต่างประเทศ แต่ปรากฎว่ายังกังวลอยู่จากเรื่องราคาน้ำมันและผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจส่งผลให้ลงต่อ ถ้าดูจากที่ต่างชาติขายมา 3 วัน โดยเฉพาะเมื่อวานต่างชาติขายออกมาค่อนข้างมากก็คาดว่าจะเป็นต่างชาติรอบๆ บ้านขายต่อ" น.ส.ศศิกร กล่าวสรุปทิ้งท้าย
ทั้งนี้ พบว่ามีแรงซื้อเข้ามาในหุ้น ปตท.สผ. (PTTEP) เพื่อพยุงตลาดหุ้นช่วง 20 นาทีสุดท้าย ก่อนปิดการซื้อขายภาคเช้า ส่งผลให้ดัชนีกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย และปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 828.44 ลดลง 4.55 เปลี่ยนแปลง -0.55% มูลค่าการซื้อขาย 13,518.74 ล้านบาท