ตลาดหุ้นบ่านร่วงหนักกว่า 20 จุด ต่างชาติเทขายหุ้นพลังงาน หลังกังวลรัฐแทรกแซงค่าการกลั่น ชี้หุ้นกลุ่ม ปตท. โดนทุบทำดัชนีรูดลงแรง เพราะค่าเงินบาทอ่อนเร็วมาก พอฝรั่งขายตามภาวะอุปทานสินค้า ไม่มีแรงรับ-เกิดสุญญากาศ เลยเป็นสาเหตุของการร่วงแรง
วันนี้ (28 พ.ค.) บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยสดใสนัก โดยเปิดการซื้อขายในช่วงบ่าย ดัชนียังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องเกือบ 20 จุด พบว่ามีแรงเทขายของต่างชาติโดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มพลังงาน ได้แก่ หุ้นของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT หลังเกิดความกังวลในการที่รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงค่าการกลั่นน้ำมันดีเซล โดยเมื่อเวลา 15.10 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 834.94 จุด ลดลง 20.66 จุด เปลี่ยนแปลง -2.41%
นายพงษ์พันธ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยที่ร่วงหนักในช่วงบ่ายส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเรื่องของความไม่เชื่อมั่น ตอนนี้นักลงทุนต่างชาติขายออก เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่าเร็ว โดยมีประเด็นทางการเมืองภายในประเทศเข้ามาผสม รวมทั้งการแทรกแซงของภาครัฐเรื่องค่าการกลั่นเป็นหลักและราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง
"การที่ตลาดหุ้นปรับลดลงมามากไม่ใช่เรื่องการเมืองเรื่องเดียว แต่สาเหตุหลักน่าจะมาจากการที่ต่างชาติเทขายหุ้น เพราะความกังวลที่รัฐเข้าไปแทรกแซงกิจการโรงกลั่นน้ำมันด้วยการหักค่าการตลาดน้ำมันดีเซลมาใช้ในการบรรเทาผลกระทบปัญหาราคาน้ำมันให้กับผู้ใช้ภายในประเทศ ซึ่งส่งผลต่อกำไรของกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้น โดยเฉพาะกลุ่ม PTT "
ขณะที่ปัญหาราคาน้ำมัน และ ค่าเงินบาทอ่อนตัว รวมทั้งสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง ทำให้ไม่มีแรงรับเข้ามา ส่งผลใหห้ดัชนีหุ้นปรับตัวลงค่อนข้างแรง
"หากมองโดยข้อเท็จจริงแล้ว เรื่องการเมืองไม่ใช่เรื่องใหญ่ สำหรับการลงทุนขนาดใหญ่ แต่การที่รัฐบาลแทรกแซง(โรงกลั่น) เป็นเรื่องใหญ่กว่า คนไม่ได้ให้ความเชื่อมั่น เหมือนกับฝรั่งขายลงมา เงินบาทอ่อนด้วย พอฝรั่งขายลงมาตาม Commodity แรงรับก็ไม่มีเลยเกิดสูญญากาศแบบนี้ การเมืองเป็นแค่ทำให้แรงรับไม่มีเท่านั้น"
ทั้งนี้ ทิศทางดัชนีหุ้นไทยยังปรับลงได้ต่อ โดยมองการแกว่งตัวในช่วง 830-840 จุด จากตรงนี้ไปอาจจะปรับลงไม่มาก แต่อาจจะกระทบกระแทกกันแบบนี้
**รมว.พลังงาน ขีดเส้นตายศุกร์นี้ จี้ 4 โรงกลั่นลดค่าการกลั่นดีเซล
มีรายงานล่าสุดว่า พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้ส่งสัญญาณเร่งรัดให้โรงกลั่นน้ำมันทั้ง 4 แห่ง ตัดสินใจลดค่าการกลั่นน้ำมันดีเซล ไม่เกิน 1 บาท/ลิตร ในวันศุกร์นี้ (30 พ.ค.) หลังข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ชี้ให้เห็นว่าในปี 2549 และ 2550 ที่ผ่านมา โรงกลั่นน้ำมันมีส่วนต่างน้ำมันดิบ กับน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 3 บาท/ลิตร หรือมีกำไร 1,000 ล้านบาท แต่ในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคมนี้ มีส่วนต่างเพิ่มขึ้นเป็น 8 บาท/ลิตร หรือมีกำไร 4,000 - 5,000 ล้านบาท ขณะที่วันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กลับมีส่วนต่างเพิ่มขึ้นเป็น 10 บาท/ลิตร จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงพลังงานที่จะดูแลประชาชน เพื่อลดผลกระทบจากภาวะน้ำมันแพง
นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้า กระทรวงพลังงานยังเตรียมเชิญผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ อาทิ เจเนอรัล มอเตอร์ส ฟอร์ด (ประเทศไทย) และวอลโว่ เข้ามาหารือถึงความพร้อม เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้น้ำมัน อี 85
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.55 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 832.99 จุด ลดลง 22.16 จุด มูลค่าการซื้อขาย 22,042.38 ล้านบาท