xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.ผวาเงินเฟ้อเพิ่มในอัตราเร่ง ชี้ มาตรการ ดบ.คุมไม่ได้ผล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธปท.เผยดอกเบี้ยอาจเป็นขาขึ้นก่อนปลายปี เหตุเงินเฟ้อพื้นฐานมีสิทธิหลุดกรอบ 3.5% เนื่องจากราคาน้ำมันสูงกว่าประมาณการ 120 ดอลลาร์/บาเรล ชี้ราคาสินค้ากำลังดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง ส่งผลให้การใช้มาตรการ ดบ.คุมไม่ได้ผล

วันนี้ (21 พ.ค.) นางสาวดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศมีโอกาสกลับมาสู่ขาขึ้นก่อนปลายปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อฟื้นฐานในช่วงปลายปีนี้อาจหลุดจากกรอบ 0-3.5% ที่ ธปท.กำหนดนโยบายไว้ จากผลกระทบราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงกว่าความคาดหมาย ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากที่แท้จริงขณะนี้ติดลบไปถึง 4.54% ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ ก.ค.2548

“ภายใต้สมมติฐานเงินเฟ้อ รวมการปรับขึ้นค่าโดยสารสาธารณะในวันที่ 25 พ.ค.เงินเฟ้อพื้นฐานอาจแตะกรอบที่วางไว้ 0.-3.5% กรณีเลวร้ายสุดอาจจะหลุดกรอบในปลายปีนี้ ช่วง 8 ไตรมาสข้างหน้าบางไตรมาสก็อาจจะหลุดกรอบ ความเป็นไปได้ที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นก่อนเงินเฟ้อหลุดกรอบก็มี แต่ก็ต้องดูอัตราเติบโตของเศรษฐกิจที่แท้จริงในระยะยาวด้วย”

ทั้งนี้ ธปท.ได้ปรับสมมติฐานราคาน้ำมันกรณีฐานขึ้นมาเป็น 110 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล จากเดิมอยู่ที่ 93 เหรียญ/บาร์เรล และกรณีเลวร้ายสุดมองว่าราคาน้ำมันอาจขึ้นไปถึง 140 เหรียญ/บาร์เรล

นางสาวดวงมณี กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในระยะต่อไปจะเร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจน จากราคาน้ำมัน อาหาร และสินค้าโภคภัณฑ์ เกิดจากปัจจัยนอกประเทศเป็นหลัก ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำไม่ได้ เพราะยังมีความเปราะบางด้านเศรษฐกิจอยู่ แม้ว่าอุปสงค์ในประเทศจะเฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสแรก แต่ยังมีความแผ่วและความเปราะบางอยู่ ซึ่งอาจจะส่งผลลดความเชื่อมั่นเอกชนทางด้านต้นทุนที่เร่งตัวขึ้นและเงินเฟ้อ

สำหรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาครัฐประกาศใช้ และการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ นับว่าเพียงพอช่วยเศรษฐกิจได้ตามแนวทางที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ยังต้องใช้เวลากว่าที่จะส่งผลลงมาถึงภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยฝากที่แท้จริงลบ 4.54% ต่ำสุดนับตั้งแต่ ก.ค.2548 และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่แท้จริงบวก 0.68% เป็นเหตุสำคัญที่จะต้องดูแลอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงจนกัดกร่อนเศรษฐกิจจนเกินไป ซึ่งจะมีผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

“เราก็อยากเห็นเศรษฐกิจเจริญเติบโตดีอย่างยั่งยืน เพราะเราต้องทำมาหากิน แต่ กนง.ก็ต้องดูผลกระทบรอบด้าน ถ้าเลือกด้านใดด้านหนึ่งในการปรับขึ้นลงอัตราดอกเบี้ยก็ต้องดูว่ามีผลกระทบด้านใด มีความเสี่ยงด้านใดบ้าง ดอกเบี้ยมีผลสองด้านต้องบาลานซ์ และชั่งน้ำหนัก แต่ตอนนี้เงินเฟ้อสูง กนง.จึงมีมติคงดอกเบี้ยไว้ก่อน เพราะน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นกว่าความเป็นจริง”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าล่าสุดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในเดือน เม.ย.2551 จะสูงถึง 6.2% แต่ก็ยังมีประเทศเพื่อนบ้านที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงกว่า เช่น ฟิลิปปินส์ 8.3% อินโดนีเซีย 9% จีน 8.5% สิงคโปร์ 6.7% และ อินเดีย 7.4% ส่วนประเทศที่เงินเฟ้อต่ำกว่า เช่น ไต้หวัน 4% มาเลเซีย 2.8%
กำลังโหลดความคิดเห็น