แบงก์มั่นใจกนง.คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.25%ในการประชุมวันนี้ และมีโอกาสที่จะคงดอกเบี้ยต่อเนื่องไปทั้งปี เหตุแนวโน้มเงินเฟ้อพุ่งแรง ขณะที่มาตรการของรัฐยังพยุงเศรษฐกิจไว้ได้ ระบุปัจจัยที่ยังต้องระวังยังคงเป็น อัตราแลกเปลี่ยน เงินเฟ้อ และราคาน้ำมัน
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB กล่าวว่า มองว่าการประชุม กนง. ในวันนี้น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันอย่างแน่นอน เนื่องจากหลายฝ่ายต้องคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะเดียวกันก็เห็นว่าทางการยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนทางด้านที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้นมองว่าช่วงนี้คงจะไม่เห็นการปรับขึ้นแน่นอน แต่ถ้าครั้งต่อไปก็คงต้องรอดูกันอีกทีว่าเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของไทยเป็นไปในทิศทางใด สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องคอยระวังคือเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ระดับเงินเฟ้อ และราคาน้ำมัน
นายบันลือศักดิ์ ปุสสะรังสี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT เปิดเผยว่า การประชุมกนง.ในวันนี้ที่ประชุมน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.25% ตามเดิม เนื่องจากเงินเฟ้อของไทยยังอยู่ในระดับสูง โดยล่าสุดเดือน เม.ย.อยู่ที่ 6.2% และคาดว่าจะขึ้นไปสูงสุดถึง 7-8% ในเดือนก.ย.และหลังจากนั้นหากราคาน้ำมันไม่ปรับลดลงมาเงินเฟ้อน่าจะลดลงได้ โดยในสิ้นปีอาจจะลดลงเหลือ 5% หากราคาน้ำมันไม่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์อีกในครึ่งปีหลัง
"ดอกเบี้ยปีนี้ไม่น่าเปลี่ยนแปลง ไม่น่าจะลงอีกแล้ว และยังไม่น่าจะขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งจะเป็นไปตามทิศทางของอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่คาดว่าจะทรงตัวแล้วเช่นกันที่ระดับ 2% เพราะเงินเฟ้อของสหรัฐก็ยังคงสูงอยู่"นายบันลือศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่าแม้ธปท.จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ 4-5% เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการออกมากระตุ้นหลายๆมาตรการ ทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่
ส่วนค่าเงินบาทในช่วงนี้แม้จะเริ่มแข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงจนน่าเป็นห่วง ยังไม่มีผลกระทบต่อภาคส่งออกมากคอมเม้นท์ดอกเบี้ย
ด้านนายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า การประชุมของ กนง.ในรอนนี้น่าจะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของไทยในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก ดังนั้นหากจะปรับลดหรือขึ้นก็คงต้องพิจารณาในหลายๆปัจจัยประกอบ ทั้งเรื่องของราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ด้วยเนื่องจากมีผลเกี่ยวโยงกัน
ทั้งนี้ ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ทั้งเงินกู้และเงินฝากนั้น ในระดับปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำพอสมควรแล้ว โดยหากจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก็จะทำให้ดอกเบี้ยเงินฝากติดลบทันที จึงไม่เป็นผลดีต่อธนาคาร ส่วนจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้น มองว่าโอกาสที่จะปรับขึ้นก็เป็นไปได้ยาก เนื่องจากถ้าปรับขึ้นแล้วก็จะส่งผลให้ผู้บริโภคภายในประเทศต้องแบกรับภาระที่สูงขึ้นทันที ดังนั้น เชื่อว่าในการประชุมครั้งนี้น่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันอย่างแน่นอน
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB กล่าวว่า มองว่าการประชุม กนง. ในวันนี้น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันอย่างแน่นอน เนื่องจากหลายฝ่ายต้องคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะเดียวกันก็เห็นว่าทางการยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนทางด้านที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้นมองว่าช่วงนี้คงจะไม่เห็นการปรับขึ้นแน่นอน แต่ถ้าครั้งต่อไปก็คงต้องรอดูกันอีกทีว่าเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของไทยเป็นไปในทิศทางใด สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องคอยระวังคือเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ระดับเงินเฟ้อ และราคาน้ำมัน
นายบันลือศักดิ์ ปุสสะรังสี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT เปิดเผยว่า การประชุมกนง.ในวันนี้ที่ประชุมน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.25% ตามเดิม เนื่องจากเงินเฟ้อของไทยยังอยู่ในระดับสูง โดยล่าสุดเดือน เม.ย.อยู่ที่ 6.2% และคาดว่าจะขึ้นไปสูงสุดถึง 7-8% ในเดือนก.ย.และหลังจากนั้นหากราคาน้ำมันไม่ปรับลดลงมาเงินเฟ้อน่าจะลดลงได้ โดยในสิ้นปีอาจจะลดลงเหลือ 5% หากราคาน้ำมันไม่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์อีกในครึ่งปีหลัง
"ดอกเบี้ยปีนี้ไม่น่าเปลี่ยนแปลง ไม่น่าจะลงอีกแล้ว และยังไม่น่าจะขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งจะเป็นไปตามทิศทางของอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่คาดว่าจะทรงตัวแล้วเช่นกันที่ระดับ 2% เพราะเงินเฟ้อของสหรัฐก็ยังคงสูงอยู่"นายบันลือศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่าแม้ธปท.จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ 4-5% เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการออกมากระตุ้นหลายๆมาตรการ ทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่
ส่วนค่าเงินบาทในช่วงนี้แม้จะเริ่มแข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงจนน่าเป็นห่วง ยังไม่มีผลกระทบต่อภาคส่งออกมากคอมเม้นท์ดอกเบี้ย
ด้านนายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า การประชุมของ กนง.ในรอนนี้น่าจะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของไทยในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก ดังนั้นหากจะปรับลดหรือขึ้นก็คงต้องพิจารณาในหลายๆปัจจัยประกอบ ทั้งเรื่องของราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ด้วยเนื่องจากมีผลเกี่ยวโยงกัน
ทั้งนี้ ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ทั้งเงินกู้และเงินฝากนั้น ในระดับปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำพอสมควรแล้ว โดยหากจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก็จะทำให้ดอกเบี้ยเงินฝากติดลบทันที จึงไม่เป็นผลดีต่อธนาคาร ส่วนจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้น มองว่าโอกาสที่จะปรับขึ้นก็เป็นไปได้ยาก เนื่องจากถ้าปรับขึ้นแล้วก็จะส่งผลให้ผู้บริโภคภายในประเทศต้องแบกรับภาระที่สูงขึ้นทันที ดังนั้น เชื่อว่าในการประชุมครั้งนี้น่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันอย่างแน่นอน
