xs
xsm
sm
md
lg

"กรุงไทย"เล็งปรับเป้าสินเชื่อเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แบงก์กรุงไทยเตรียมขยับเป้าสินเชื่อ หลังไตรมาส 1 ปล่อยสินเชื่อเฉียดเป้าหมายทั้งปี คาด NIM ปีนี้อยู่ที่ 4% บนสมมุติฐานแบงก์ชาติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 3.25% ยันต้นทุนราคาน้ำมันไม่กระทบลูกค้าถึงขั้นผิดนัดชำระ

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ในช่วงกลางปีนี้ธนาคารอาจจะทำการปรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อขึ้น หากการปล่อยสินเชื่อในไตรมาสที่ 2 ของปียังยอดสินเชื่อเข้ามามาก เหมือนในไตรมากที่ 1 ซึ่งสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 44,000 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีตั้งไว้ 60,000-70,000 ล้านบาท

โดยสินเชื่อไตรมาสแรกส่วนใหญ่จะเติบโตจากสินเชื่อภาคบริการ สินเชื่อภาครัฐ สินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคลหรือสินเชื่อธนวัฎ ซึ่งโดยรวมทั้งปีสินเชื่อเหล่านี้จะยังคงเติบโตได้อีก ด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ไตรมาส 1 อยู่ที่ 3.8% คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 4% ถ้าอัตราดอกเบี้ยนโยบายไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันที่ 3.25%

ทั้งนี้จากนโยบายของรัฐที่เข้ามาช่วยสนับสนุนทั้งในด้านของภาษี การกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนที่เกี่ยงเนื่องกับส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ นั้นจะส่งผลดีค่อนข้างมาก รวมถึงโครงการเมกะโปรเจกส์จะเป็นส่วนที่ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้เอกชนมีการลงทุนมากขึ้น

"เป้าหมายสินเชื่อเราดูทุกครึ่งปีถ้าไตรมาส 2 ยังทำได้ดีก็คงต้องปรับเป้า ส่วนNIM ปีนี้คงจะอยู่ที่ 4% เพราะดอกเบี้ยนโยบายน่าคงอยู่ที่เดิม เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)คงจะต้องพิจารณาระหว่างเรื่องเศรษฐกิจกับอัตราเงินเฟ้อว่าจะดูแลได้แค่ไหน มันเป็นเป้าหมายที่ขัดกัน แต่รวมแล้วดอกเบี้ยนโยบายก็น่าจะทรง ๆ "

นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า กำไรสุทธิของธนาคารในไตรมาส 1 อยู่ที่ 4,100 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 4,400 ล้านบาท เนื่องจากในปีก่อนธนาคารยังไม่ต้องเสียภาษี แต่เมื่อในปีนี้ต้องมีการเสียภาษีกว่า 1,000 ล้านบาทและต้องสำรองอีก 1,500 ล้านบาทจึงทำให้กำไรสุทธิลดลง ส่วนกำไรก่อนหักสำรองและภาษีนั้นธนาคารจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันประมาณ 38% สำหรับนโยบายการสำรองของธนาคารในปีนี้จะมีการตั้งสำรองเดือนละ 500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากราคาน้ำมันที่มีปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ยังไม่ได้ส่งผลต่อลูกค้าของธนาคารจนทำให้มีการผิดนัดชำระแต่อย่างใด โดยต้นทุนราคาน้ำมันที่สูงขึ้นนี้ไม่ได้ส่งผลแค่ลูกค้าของธนาคารเพียงแห่งเดียว แต่ลูกค้าของธนาคารแห่งอื่นก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น