xs
xsm
sm
md
lg

เวิลด์แบงก์จี้รัฐเร่งแก้เงินเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เวิลด์แบงก์ห่วงราคาน้ำมันโลกพุ่งทำต้นทุนธุรกิจ-เงินเฟ้อสูงตาม และส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย แนะรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือให้ตรงจุด เตือนแบงก์ชาติควรให้น้ำหนักด้านเงินเฟ้อในการดำเนินนโยบายการเงิน ระบุขณะนี้เงินเฟ้อที่สูงขึ้นกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนแล้ว

นางสาวกิริฏา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำสถิติสูงสุดถึง 127เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง โดยผลกระทบต่อประเทศไทยราคาน้ำมันที่แพงขึ้นทำให้ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้นตามไปด้วยรวมทั้งต้นทุนในการขนส่งเพิ่มขึ้นซึ่งแม้ว่าการนำเข้าน้ำมันยังไม่สูงมากจนทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดติดลบหรือขาดดุล แต่ในอนาคตเมื่อต้นทุนของผู้ประกอบการและผู้ส่งออก เพิ่มขึ้นก็จะมีผลต่อการส่งออกของไทย

ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก มีผลทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เพราะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัวลง และผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้ราคาอาหารในอนาคตแพงขึ้นอีกเพราะจะมีการนำพืชที่เพาะปลูกไปปลูกพืชพลังงานทดแทนดังนั้นจะต้องการมีการจัดพื้นที่การเกษตรให้มีความสมดุลซึ่งทั่วโลกต้องหันมาคุยกัน

“ผลกระทบระยะยาวจากปัญหาราคาน้ำมันแพงทั่วโลกต้องหารือกันว่าจะจัดสรรพื้นที่ในการเพาะปลูกพืชอาหารกับพืชพลังงานทดแทน กันอย่างไรดีเพื่อให้เกิดความสมดุล” นางสาวกิริฏา กล่าว

นางสาวกิริฏา กล่าวอีกว่าราคาน้ำมันที่แพงขึ้นส่งผลกระทบให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นตามซึ่งขณะนี้อัตราเงินเฟ้อของโลก และอัตราเงินเฟ้อของไทยยังไม่ถึงจุดสูงสุดคาดว่าในปีนี้จะขึ้นไปถึงระดับสูงสุด และเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้จะเกิน 5% เพราะราคาน้ำมันและราคาอาหารยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก และปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ประมาณกว่า 5% ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย และการบริโภคในครัวเรือนของผู้มีรายได้น้อย ดังนั้น รัฐบาลควรมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ตรงจุดเหมือน เช่น ประเทศอินโดนีเซีย และ จีน ที่มีมาตรการดูแลผู้มีรายได้ต่ำ

ส่วนผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินนั้น คาดว่าธปท.คงต้องพิจารณาเป้าหมายในการดำเนินนโยบายการเงินว่าจะเน้นการขยายตัวของเศรษฐกิจหรือการดูแลอัตราเงินเฟ้อ เพราะถึงแม้ว่าเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาสินค้าพลังงานและอาหารสด จะอยู่ต่ำกว่า 3.5% แต่ธปท.ควรนำผลกระทบเงินเฟ้อทั่วไปที่สูงขึ้นมาพิจารณาด้วยเพราะต้องยอมรับว่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมีผลกระทบต่อการครองชีพของประชาชนแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น