รมว.คลัง เล็งขึ้นค่าครองชีพ ลูกจ้างชั่วคราว-พนง.รัฐวิสาหกิจ 6% เท่ากับ ขรก. เตือนรับมือน้ำมันพุ่งแรง
วันนี้ (15 พ.ค.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงมาตรการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนและเพิ่มกำลังซื้อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยการปรับขึ้นเงินเดือนค่าจ้าง โดยระบุว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบปรับเพิ่มค่าครองชีพให้ข้าราชการ ซี 1-5 ในอัตราร้อยละ 6 ไปแล้ว ในส่วนของพนักงานราชการ ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ควรจะต้องได้รับการปรับเพิ่มอัตราค่าครองชีพในหลักการเดียวกัน
ส่วนภาคเอกชน รมว.คลัง เห็นว่า นายจ้างอาจมีการปรับเพิ่มค่าครองชีพให้พนักงานด้วย
รัฐบาลกำลังพิจารณาปรับขึ้นค่าครองชีพให้กับพนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานราชการ และลูกจ้างชั่วคราว เช่นเดียวกับที่ได้ปรับขึ้นได้ข้าราชการที่ต่ำกว่าซี 5 ซึ่งมีรายได้น้อยไปแล้ว เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาครอบคลุมรายจ่ายที่สูงขึ้น
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลก มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปแตะระดับ 140-150 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากราคาพุ่งทะลุระดับ 120 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ แต่ก็เชื่อว่ายังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ดังนั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับสถานการณ์ กระทรวงการคลังจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพลังงาน, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในเดือน พ.ค.นี้ เพื่อหาข้อสรุปมาตรการลดการใช้พลังงานที่จะต้องเกิดผลสำเร็จอย่างรุนแรงและทันทีทันใด ซึ่งน่าจะช่วยชะลอการใช้น้ำมันลงได้
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า หลังจากออกมาตรการดังกล่าวแล้ว จะช่วยรองรับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น และช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันลงได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ
วันนี้ (15 พ.ค.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงมาตรการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนและเพิ่มกำลังซื้อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยการปรับขึ้นเงินเดือนค่าจ้าง โดยระบุว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบปรับเพิ่มค่าครองชีพให้ข้าราชการ ซี 1-5 ในอัตราร้อยละ 6 ไปแล้ว ในส่วนของพนักงานราชการ ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ควรจะต้องได้รับการปรับเพิ่มอัตราค่าครองชีพในหลักการเดียวกัน
ส่วนภาคเอกชน รมว.คลัง เห็นว่า นายจ้างอาจมีการปรับเพิ่มค่าครองชีพให้พนักงานด้วย
รัฐบาลกำลังพิจารณาปรับขึ้นค่าครองชีพให้กับพนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานราชการ และลูกจ้างชั่วคราว เช่นเดียวกับที่ได้ปรับขึ้นได้ข้าราชการที่ต่ำกว่าซี 5 ซึ่งมีรายได้น้อยไปแล้ว เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมาครอบคลุมรายจ่ายที่สูงขึ้น
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลก มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปแตะระดับ 140-150 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากราคาพุ่งทะลุระดับ 120 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ แต่ก็เชื่อว่ายังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ดังนั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับสถานการณ์ กระทรวงการคลังจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพลังงาน, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในเดือน พ.ค.นี้ เพื่อหาข้อสรุปมาตรการลดการใช้พลังงานที่จะต้องเกิดผลสำเร็จอย่างรุนแรงและทันทีทันใด ซึ่งน่าจะช่วยชะลอการใช้น้ำมันลงได้
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า หลังจากออกมาตรการดังกล่าวแล้ว จะช่วยรองรับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น และช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันลงได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ