xs
xsm
sm
md
lg

"เลี้ยบ" ดิ้นปรับขึ้นเงินเดือน ขรก. ขาใหญ่ทุบโต๊ะ 5% เท่าเงินเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
"หมอเลี้ย" ยืนยันต้องปรับขึ้นเงินเดือนให้ ขรก. โดยใช้งบฯ ไม่ถึง 2 หมื่นล. เพื่อให้ทันค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่แกนนำ ขรก.ทุบโต๊ะที่ 5% เท่าเงินเฟ้อ โดยพบว่าปี 50 ปรับขึ้น 4% ใช้งบฯ จำนวน 1.7 หมื่นล.

วันนี้(27 เม.ย.) นายแพทย์ (นพ.) สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ โดยระบุว่า ในขณะนี้ได้รับข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เรียบร้อยแล้ว โดยข้อมูลที่ทั้ง 2 หน่วยงานเสนอมา มีหลายทางเลือก และใช้งบประมาณแตกต่างกันไป

อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ทุกแนวทางของการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ จะใช้เงินงบประมาณในการดำเนินการไม่ถึง 20,000 ล้านบาทแน่นอน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าจะมีการเพิ่มเงินเดือนในอัตราเท่าไร กลุ่มใด และเมื่อใด เพราะต้องศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนก่อน

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า แม้ผลการศึกษาจะออกมาเป็นอย่างไร รัฐบาลจะต้องมีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชอย่างแน่นอน เพื่อให้โครงสร้างรายได้ เพียงพอกับรายจ่ายที่ค่าครองชีพปรับสูงขึ้นในปัจจุบัน

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ยอมรับว่าในส่วนของการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ที่ทาง ก.พ. และ ก.พ.ร. ส่งกลับมาให้ รมว.คลัง พิจารณาต้องใช้เงินงบประมาณสูงถึงประมาณ 2 หมื่นล้านบาทต่อปี ทำให้การขึ้นเงินเดือนข้าราชการต้องชะลอเพื่อคิดใหม่ เพื่อที่จะขึ้นโดยที่ลดภาระเงินงบประมาณให้น้อยลง

ทั้งนี้ พบว่าเมื่อปี 2550 รัฐบาลได้ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 4% ต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีกปีละ 1.7 หมื่นล้านบาท หากปรับขึ้นให้เป็นภาระงบประมาณประจำมากขึ้นอีกต่อต่อกัน จะทำให้เงินประมาณลงทุนน้อยลง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก โดยในปี 2552 กรอบวงเงินงบประมาณก็อยู่ต่ำกว่า 25% ของงบประมาณรายจ่าย

**ขรก.ทุบโต๊ะขึ้นเงินเดือน 5% เท่าเงินเฟ้อ

ก่อนหน้านี้ นายจาดุร อภิชาตบุตร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ในฐานะนายกสมาคมข้าราชการพลเรือนแห่งประเทศไทย ออกมากล่าวว่า กลุ่มข้าราชการต้องการให้รัฐบาลพิจารณาปรับเงินเดือนข้าราชการในภาวะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น โดยกำหนดตัวเลขว่าควรเป็นเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยควรสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 5%

นายจาดุร กล่าวว่า ข้าราชการเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชน และที่สำคัญต้องทำงานตามหน้าที่ในสถานการณ์ที่ไม่ให้เกิดความ ขัดแย้งรุนแรงอีก จึงอยากให้รัฐบาลเห็นใจพิจารณาข้อเท็จจริงทางเศรษฐกิจด้วย

"สมาคมฯ ไม่กังวลที่รัฐบาลจะแก้ไขรัฐ ธรรมนูญ ปี 2550 โดยจะนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 กลับมาใช้ ซึ่งกระทบต่อมาตรา 64 ที่ให้สิทธิและรับรองการรวมกลุ่มของ ข้าราชการในรูปแบบสหภาพและสหพันธ์ต้องหายไป แต่เชื่อว่าโดยพื้นฐานข้าราชการย่อมมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกับประชาชนทั่วไปในการรวมกลุ่ม"

ล่าสุดยังมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) การรวมกลุ่มของ ข้าราชการเพื่อใช้เป็นกฎหมายรองรับสิทธิในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ แต่ พ.ร.ฎ.นี้จะไม่อนุญาตให้ข้าราชการนัดหยุดงานได้ เพราะจะกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น