ปตท.เผย คลังลงนามยินยอม การรับมอบทรัพย์สินที่ดิน-ท่อก๊าซ มูลค่า 1.6 หมื่นลบ. เรียบร้อยแล้ว พร้อมตกลงเป็นผู้เช่า ในอัตรา 5% ของรายได้ค่าผ่านท่อฯ เริ่มจ่าย พ.ค.นี้
วันนี้(25 เม.ย.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ (PTT แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.วานนี้ กรมธนารักษ์ (โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง) และบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามบันทึกการแบ่งแยกและส่งมอบทรัพย์สินของการปิโตรเลียมฯ ที่แบ่งแยกตามคำพิพากษาของศาลฯ รวมมูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ 30 ก.ย. 2544 ประมาณ 16,175 ล้านบาท
โดยทรัพย์สินที่แบ่งแยกประกอบด้วย ที่ดินที่การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.ก่อนการแปรรูป) ได้มาจากการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์รวมประมาณ 32 ไร่ มูลค่าทางบัญชีประมาณ 1 ล้านบาท , สิทธิการใช้ที่ดินเหนือที่ดินเอกชน เพื่อวางระบบขนส่งปิโตรเลียมทางท่อที่การปิโตรเลียมฯ ใช้อำนาจมหาชนของรัฐเหนือที่ดินเอกชน และจ่ายค่าทดแทนโดยอาศัยทรัพย์สินของรัฐ มูลค่าทางบัญชีประมาณ 1,137 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินที่เป็นระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และท่อจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ ซึ่งรวมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในที่ดินดังกล่าว มีมูลค่าทางบัญชีประมาณ 15,037 ล้านบาท
สำหรับทรัพย์สิน ซึ่งเป็นที่ดินเวนคืนนั้น กรมธนารักษ์ และบริษัทฯ จะได้ร่วมกันดำเนินการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม เพื่อให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนต่อไป
ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ ปตท. คืนทรัพย์สินบางส่วนคืนให้กระทรวงการคลัง เมื่อเดือน ธ.ค.50 ที่ผ่านมา โดยทรัพย์สินที่จะโอนดังกล่าวคาดว่าจะมีมูลค่า 1.5 หมื่นล้าบาท ส่วนใหญ่เป็นท่อส่งก๊าซธรรมชาติ
รายงานระบุทิ้งท้ายว่า หลังการโอนทรัพย์สินแล้ว ปตท.จะเป็นผู้เช่าใช้ท่อก๊าซฯ ซึ่งจะมีอัตราเช่า ขั้นต่ำ 5% ของรายได้ค่าผ่านท่อในส่วนของระบบท่อก๊าซฯ ที่แบ่งแยกคืนกระทรวงการคลัง โดยจะเริ่มจ่ายค่าเช่าในเดือน พ.ค.นี้