ปตท.ยันแผนโอนท่อก๊าซคืนเป็นทรัพย์สินแผ่นดินเสร็จทัน พ.ค.แน่นอน

ผู้บริหาร ปตท.ยืนยัน โอนท่อก๊าซให้คลัง เสร็จทัน พ.ค.51 แน่นอน เผยการบันทึกค่าเช่าย้อนหลัง 2.8 พัน ล.ตั้งแต่เดือน ต.ค.44 ถึง ธ.ค.50 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนค่าเช่ารายปีคงไม่เกิน 300 ล. มั่นใจไม่กระทบผลดำเนินงาน

วันนี้ (11 เม.ย.) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยความคืบหน้าการโอนท่อก๊าซคืนเป็นทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน โดยระบุว่า กระบวนการในโอนท่อก๊าซให้กับกระทรวงการคลัง น่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 พ.ค.2551 ตามคำสั่งของศาลปกครอง โดยในปัจจุบันเรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด

นายพิชัย ชุณหวชิร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเงินและบัญชีองค์กร ปตท.กล่าวเสริมว่า การโอนทรัพย์สินทั้งท่อก๊าซและที่ดินไปให้กับกระทรวงการคลัง เชื่อว่า จะแล้วเสร็จตามที่ศาลสั่ง 1 พ.ค.และบริษัทได้บันทึกค่าเช่าย้อนหลัง ตั้งแต่ 1 ต.ค.44-31 ธ.ค.50 มูลค่า 2.82 พันล้านบาท เรียบร้อยแล้ว โดยนำกำไรปี 50 มาหัก ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานปี 51 มีเพียงค่าเช่าท่อก๊าซรายปีในปีนี้ที่ต้องชำระให้กระทรวงการคลัง คาดว่าจะมีมูลค่าไม่เกิน 300 ล้านบาท

ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้คณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ รวมทั้งแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของบริษัท ทั้งนี้ ให้เสร็จสิ้นก่อนการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดได้อนุญาตให้ขยายระยะเวลาการปฏิบัติตามคำพิพากษาออกไปอีก 30 วัน (ครบกำหนด 2 มี.ค.51) หลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 ม.ค.51 อนุมัติบุคคลเป็นคณะกรรมการ และได้นำความกราบบังคมทูลฯพระมหากษัตริย์ เพื่อทรงแต่งตั้งคณะกรรมการ โดยพระมหากษัตริย์ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้งประธานกรรมการและคณะกรรมการเมื่อวันที่ 1 ก.พ.51