xs
xsm
sm
md
lg

สงกรานต์นี้คึกคัก คนไทยใช้เงินว่อน-สะพัด 9.6 หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คาดสงกรานต์ปีนี้เงินสะพัด 9.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.52% แต่น้อยกว่าคาด เหตุคนกังวลค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากสินค้าราคาแพง น้ำมัน และค่าท่องเที่ยว ระบุปีนี้คนไทยเที่ยวในประเทศ 80% อีก 20% ขนเงินเที่ยวเมืองนอก เผยของขวัญที่อยากได้จากรัฐบาล ต้องการให้แก้ปัญหาน้ำมันแพง ดูแลราคาสินค้า แก้ปัญหายาเสพติด และทำการเมืองให้นิ่ง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่สำรวจจากประชาชนตัวอย่างทั่วประเทศ 1,206 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-4 เม.ย.2551 ว่า คาดจะมีเงินสะพัด 96,181.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.52% จากปี 2550 ที่มีเงินสะพัด 92,022.41 ล้านบาท โดยแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ เป็นเงินเดือน/รายได้ตามปกติ 39% ลดลงจากปีก่อนที่นำเงินเดือน/รายได้ตามปกติมาใช้ 54.8% ส่วนเงินใช้จ่ายที่เหลือมาจากเงินออม 34.4% ใกล้เคียงปีก่อน และโบนัส/รายได้พิเศษ 26.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ใช้เพียง 10.5%

ทั้งนี้ ก่อนสำรวจ คาดว่า จะมีเงินสะพัดเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 7% แต่พอสำรวจแล้วกลับเพิ่มขึ้นจริงเพียง 4.52% ทำให้บรรยากาศคึกคักน้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยคนนำเงินมาใช้จ่ายจากรายได้ตามปกติน้อยลง แสดงว่าเงินเดือนยังได้รับเท่าเดิม โดยมีการนำเงินออมและโบนัสมาใช้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากราคาสินค้า และน้ำมันแพง และค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น

นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า กิจกรรมที่ประชาชนนิยมทำในวันสงกรานต์ ได้แก่ ซื้อสินค้าทั่วไป 21.2% ทำบุญ 20.8% รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ 18% สังสรรค์ 13.3% ทำอาหารทานที่บ้าน 10% ท่องเที่ยว 7.8% โดยเที่ยวในประเทศ 79.1% คิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละกว่า 3,000 บาท และเที่ยวต่างประเทศ 20.9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 14.3% เพราะค่าเงินบาทแข็งค่ามากขึ้นจากปีก่อน และภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ประเทศที่นิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุด ได้แก่ ฮ่องกง จีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี นิวซีแลนด์ และอังกฤษ คิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 52,187.51 บาท จากปีก่อนที่ 55,000 บาท

ส่วนแผนการใช้จ่ายนอกจากการท่องเที่ยวนั้น ผู้ตอบ 33.1% ตอบว่าทำบุญ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 1,060.31 บาท ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 31.7% เฉลี่ยคนละ 1,122.23 บาท สังสรรค์/จัดเลี้ยง 21.1% เฉลี่ยคนละ 2,233.90 บาท ซื้อสุรา 11.1% เฉลี่ยคนละ 1,102.48 บาท ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย (เครื่องประดับ ทอง) 1.9% เฉลี่ยคนละ 4,398 บาท ซื้อสินค้าคงทน (เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเรียน) 1.1% เฉลี่ยคนละ 4,767.86 บาท

“ประชาชนหวังว่าสงกรานต์ปีนี้น่าจะคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา แต่ยังกังวลในเรื่องอุบัติเหตุและความปลอดภัยในการเดินทาง และอากาศร้อน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ประชาชนกังวลเกี่ยวกับอากาศมากเท่าๆ กับอุบัติเหตุ รวมถึงจราจรติดขัด นอกจากนี้ ยังกังวลในเรื่องการสาดน้ำที่รุนแรง ปัญหาขโมย พ่อค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า เป็นต้น” นางยาใจกล่าว

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ของขวัญที่คนไทยอยากได้จากรัฐบาลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้านเศรษฐกิจ คือ แก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง ควบคุมราคาสินค้า/ค่าครองชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมด้านการเกษตร แก้ปัญหาพ่อค้ากักตุนสินค้า ส่วนด้านสังคม คือ แก้ปัญหายาเสพติด สื่ออบายมุข สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ส่วนด้านการเมือง คือ มีความสามัคคี ไม่บ่งพรรคแบ่งพวก ปราบทุจริต และลงโทษอย่างจริงจัง มีความโปร่งใสและซื้อตรง

นอกจากนี้ ยังได้สำรวจทัศนะและความพึงพอใจในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดย ประชาชนพึงพอใจในมาตรการพักหนี้เกษตรกรมากที่สุด ให้คะแนนสูงถึง 7.5 คะแนน จากเต็ม 10 คะแนน รองลงมาคือ มาตรการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา 7.1 คะแนน มาตรการเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ 7.2 คะแนน ให้เงินจากโครงการเอสเอ็มแอลครบทุกหมู่บ้านและชุมชน 7.1% สนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) 7 คะแนน มาตรการลดหย่อยภาษีภาคธุรกิจ 6.9 คะแนน มาตรการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท 6.9 คะแนน มาตรการตรึงราคาสินค้า 6.5 คะแนน และมาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม 6.4 คะแนน
กำลังโหลดความคิดเห็น