xs
xsm
sm
md
lg

สารพัดข้ออ้าง “พลังแม้ว” แก้ รธน.คิดมานาน บังเอิญตรงคดี “ยุทธ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รองเลขาฯ พปช.อ้างคิดแก้ ม.237 นานแล้ว ไม่เกี่ยวคดี “ยุทธ ตู้เย็น” ที่บังเอิญเกิดขึ้นช่วงนี้ และไม่ต้องรอก่อนหมดวาระ 3 เดือนตาม “สมัคร” บอก แก้เมื่อไหร่ก็ต้องแก้อยู่ดี ด้านอดีตรองประธาน ส.ส.ร.โต้ ไม่ได้เขียน รธน.เพื่อจงใจฆ่าใคร ย้ำ “พลังแม้ว” ทำเพื่อตัวเอง หวั่นรัฐบาลชุดหลังเอาอย่าง ด้าน ปชป.ท้าเขียนบทเฉพาะกาล ไม่มีผลย้อนหลัง ขณะรองอธิการฯ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ เชื่อยุบพรรควุ่นวายแค่ระยะสั้น แต่ระยะยาวสร้างความโปร่งใสป้องกันทุจริตไว้ดีกว่า

คลิกที่ที่เพื่อฟัง สัมภาษณ์กรณี ที่มีการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ ในรายการคมชัดลึก

กรณีที่พรรคพลังประชาชนเตรียมจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 237 วรรค 2 ที่ระบุว่า หากกรรมการบริหารพรรคผู้ใดกระทำความผิดเลือกตั้ง จะต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า การแก้ รธน.ครั้งนี้เป็นการแก้เพื่อตัวเอง เนื่องจากเกรงว่ากรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคถูก กกต.ให้ใบแดงจะนำไปสู่การยุบพรรค อีกทั้งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีก็ออกมาพูดหลายครั้งว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนขึ้นมาเพื่อจะฆ่ากัน จองล้างจองผลาญกันนั้น

นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คมชัดลึก” ดำเนินรายการโดย นายกวีพันธ์ มนตรีวงศ์ ออกอากาศทางเนชั่น แชลแนล เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ว่า ทางพรรคพลังประชาชนมีความคิดที่จะแก้ไขมาแต่แรก เห็นได้จากการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่รณรงค์มาตั้งแต่ก่อนลงประชามติแล้ว

ผู้ดำเนินรายการถามว่า เหตุใดต้องแก้ มาตรา 237 ซึ่งเกี่ยวในเรื่องยุบพรรคตอนนี้ ตอนที่นายยงยุทธ กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี ซึ่งทำให้สังคมมองว่าพรรคพลังประชาชนกำลังจะเดือดร้อนจึงต้องแก้ประเด็นนี้เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด นายสุขุมพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความบังเอิญ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับนายยงยุทธแน่นอน มีหลายมาตราที่คิดจะแก้ ไม่ได้แก้แค่มาตราเดียว อีกทั้งทางพรรคเคยสัญญากับประชาชนเอาไว้แล้ว ก็ต้องแก้ตามที่สัญญาไว้ ส่วนที่นายสมัครเคยพูดว่าจะแก้ช่วง 3 เดือนก่อนรัฐบาลหมดวาระนั้น ตนคิดว่าที่แก้ตอนนี้ก็ไม่ได้เร็วเกินไปเพราะยังไงก็ต้องแก้อยู่ดี และในตัวมาตรา 237 นั้นเป็นการเอาผิดพรรคมากเกินไป ขัดกับหลักกฎหมายของอารยประเทศ

ด้าน นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 คนที่ 1 ยืนยันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อจะฆ่าใคร หรือจองล้างจองผลาญใครอย่างที่นายสมัคร กล่าวผ่านสื่อต่างๆ เนื่องจากทาง ส.ส.ร. ไม่ได้รู้มาก่อนว่าพรรคไหนจะได้รับเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาล รวมถึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายสมัครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี อีกทั้งในมาตรา 237 เมือตอนที่เขียนขึ้นมา ก่อนจะนำไปลงประชามติ ก็ได้มีการนำไปให้พรรคการเมืองต่างๆ ดูก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นก็ไม่มีพรรคใด หรือแม้แต่พรรคพลังประชาชนคัดค้าน อีกทั้งหากมีการแก้ รธน. ในตอนนี้ ถึงแม้จะบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่มันก็เหมือนกับการแก้เพื่อให้ตัวเองพ้นจากคดี เนื่องจากหลายฝ่ายกำลังจับตามองอยู่ และหากในอนาคตหากมีกรณีนี้เกิดขึ้นอีก ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็อาจทำแบบครั้งนี้ คือแก้กฎหมายเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดอีก เมื่อนั้นกฎหมายก็ไม่มีความหมาย ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์

ด้าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ รธน.ในตอนนี้ เนื่องจากเห็นว่ากฎหมายก็เพิ่งบังคับใช้ไม่นาน ไม่มีเหตุอะไรเร่งด่วนที่จะต้องแก้ และถึงแม้คนของพรรคประชาธิปัตย์โดนใบแดงตอนนี้ทางพรรคก็ไม่แก้อยู่ดี เพราะการแก้ตอนนี้มันเหมือนกับเป็นการแก้เพื่อตัวเอง ไม่อยากต้องมาตอบคำถามประชาชนอีกว่า แก้เพื่อตัวเองหรือเปล่า อีกทั้งมาตรา 237 ก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ หากพรรคพลังประชาชนอยากให้ประชาชนเชื่อว่าการแก้ครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ก็ลองเขียนกฎหมายแล้วเขียนบทเฉพาะกาลไว้ด้วย ว่าการแก้ครั้งนี้ไม่มีผลย้อนหลัง เพื่อให้การตรวจสอบคดียุบพรรคจากกรณีของนายยงยุทธทำต่อไป ให้มาตรา 237 ที่แก้มีผลในอนาคตเท่านั้น อาจจะทำให้ประชาชนเชื่อได้

อีกทั้งหากเห็นว่าพรรคพลังประชาชนได้รับผลกระทบจากมาตรา 237 ที่มีข้อด้อย ตนก็อยากจะบอกว่ามาตราดังกล่าวไม่ได้เขียนมาเพื่อเอาผิดพรรคพลังประชาชน หรือมาเอาผิดเฉพาะพรรครัฐบาล ใครก็แล้วแต่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านทำผิดก็ต้องถูกยุบ พรรคประชาธิปัตย์ทำผิดก็มีสิทธิถูกยุบเหมือนกัน

ด้าน ผศ.ดร.ภูเบศร์ สมุทรจักร รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า การที่พรรคพลังประชาชนออกมาพูดว่า หากยุบพรรคแล้วประเทศจะเสียหาย และส่งผลเสียต่อธุรกิจนั้น ตนมองว่าปัจจุบันการสื่อสารมันส่งถึงกัน และตอนนี้ก็เริ่มมีรายงานออกมาแล้วว่า นักธุรกิจเริ่มปรับตัวได้ ถ้าตอนนี้ไปถามนักธุรกิจใหญ่ต่างชาติ จะได้คำตอบว่าก็ต้องปรับตัวต่อไป เพราะหน้าที่ของพ่อค้าก็คือต้องปรับตัวธุรกิจของตัวเองให้เข้ากับทุกสถานการณ์ และตนคิดว่า หากยุบพรรคในตอนนี้อาจเกิดปัญหาปั่นป่วนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวถ้าหากเราสามารถทำให้ความโปร่งใสในการเลือกตั้งได้ ปราบทุจริตคอร์รัปชั่นได้ตั้งแต่การเลือกตั้ง เพื่อที่จะลบคอร์รัปชั่นในระยะยาวก็น่าจะทำให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นในระยะยาวได้มากกว่า




กำลังโหลดความคิดเห็น