ไทยพาณิชย์ลิสซิ่งโชว์กำไรไตรมาสแรกแตะ 300 ล้านบาท หลังยอดขาดทุนจากการขายรถยึดลดลง เชื่อกำไรทั้งปีทำได้ตามเป้าหมายที่ 700 ล้านบาท ขณะที่ลีสซิ่งกสิกรไทยจับมือ 3 ค่ายรถดัง "มิตซูบิชิ-ฮุนได-ทาทา"คาดยอดปล่อยกู้งานได้ตามเป้า 200 ล้าน
นายการุณ เลาหรัชตนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCBL เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ไตรมาสแรกของปีนี้ มีกำไรสุทธิเกือบ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก มียอดการขาดทุนจากการขายรถยึดลดลงจาก 17-18% มาเหลือ 10% มีภาระการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลง และการบริหารต้นทุนทางการเงินที่ดีขึ้น ทำให้ต้นทุนต่ำลง แต่ประเด็นหลักมาจากยอดการขาดทุนจากการขายรถยึดมากกว่า
โดยกำไรในไตรมาสแรกนั้นถือว่าดีมาก ในขณะที่บริษัทตั้งเป้ากำไรทั้งปีเอาไว้กว่า 700 ล้านบาท และจากผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่ออกมา เชื่อว่าผลกำไรทั้งปีน่าจะทำได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้และอาจทะลุ 1,000 ล้านบาทได้สำหรับยอดปล่อยสินเชื่อไตรมาสแรกนั้นสามารถทำได้ประมาณ 12,000 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเดือนละ 4,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนคันประมาณกว่า 8,000 คันต่อเดือน ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
"กำไรไตรมาสแรกดีกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้เยอะมาก ไตรมาสแรกก็เกือบ 300 ล้านบาทเข้าไปแล้ว หากทุกไตรมาสเป็นอย่างนี้ทั้งปีก็น่าจะกว่า 1,000 ล้านบาทได้ หลัก ๆก็มาจากขาดทุนจากรถยึดลดลง ภาระสำรองลดลง บริหารต้นทุนได้ดีขึ้นเชื่อว่าแบงก์ไทยพาณิชย์คงดีใจและจากนี้ไปเราก็ทำหน้าที่ติดตามหนี้เก่า ส่วนแบงก์ไทยพาณิชย์ก็ปล่อยสินเชื่อรายย่อยไป"
สำหรับภารกิจต่อจากนี้ไปของไทยพาณิชย์ลีสซิ่ง คือ ต้องทำหน้าที่ติดตามหนี้เก่าที่มีอยู่ 280,000 บัญชี ที่ได้ปล่อยไปก่อนหน้านี้ และหากลูกหนี้มีการค้างชำระเกิน 61 วัน ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัทก็มีหน้าที่ไปติดตามหนี้ให้กับธนาคาร เพราะธนาคารไม่มีเจ้าหน้าที่ติดตามหนี้ ซึ่งการแบ่งหน้าที่ดังกล่าวนั้นได้เริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
นายอิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาเอาไว้ 200 ล้านบาท หรือ 350 คัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย ที่วางไว้ แม้ว่าบริษัทได้ร่วมออกงานกับ รถยนต์ 3 ค่ายด้วยกันคือ มิตซูบิชิ ฮุนได และทาทา ในส่วนของยอดจองจาก ค่ายมิตซูบิช ที่มีอยู่ 862 คัน นั้น บริษัทคาดว่าจะมีลูกค้าที่จองซื้อรถยนต์มาขอสินเชื่อเช่าซื้อกับลีสซิ่งกสิกรไทยประมาณ 25% จากที่มีลีสซิ่งร่วมกับมิตซูบิชิอยู่ประมาณ 4 บริษัทด้วยกัน
นอกจากนี้ ในส่วนของฮุนได นั้นเท่าที่ทราบมียอดจอง 126 คัน ซึ่งลีสซิ่งกสิกรไทย คาดว่าจะมีลูกค้าขอสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ประมาณ 50% สำหรับทาทา มียอดจอง 30 คัน คาดว่าน่าจะได้เกือบ100% เนื่องจากได้ร่วมกับลีสซิ่งกสิกรไทยเพียงรายเดียว
นายอิสระ กล่าวว่า แม้บริษัทได้ร่วมกับ 3 ค่ายรถยนต์ในการออกบูธ แต่ในส่วนของรถยนต์ค่ายอื่นๆ นั้น ค่ายรถยนต์แต่ละค่ายมีลีสซิ่งเป็นของตัวเอง แต่ทั้งนี้บริษัทก็ยังมีดีลเลอร์ที่ส่งงานให้ด้วย แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก สิ่งที่คาดหวังก็คือ 3 ค่ายรถยนต์ที่ร่วมออกบูธมากกว่า ที่เหลือเป็นเพียงผลพลอยได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่าเป้าหมายที่วางไว้ 200 ล้านบาท ไม่น่าจะพลาดเป้า แต่จำนวนคันอาจบวกลบเล็กน้อยจากเป้าที่ตั้งไว้ 350 คัน
นายการุณ เลาหรัชตนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCBL เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ไตรมาสแรกของปีนี้ มีกำไรสุทธิเกือบ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก มียอดการขาดทุนจากการขายรถยึดลดลงจาก 17-18% มาเหลือ 10% มีภาระการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลง และการบริหารต้นทุนทางการเงินที่ดีขึ้น ทำให้ต้นทุนต่ำลง แต่ประเด็นหลักมาจากยอดการขาดทุนจากการขายรถยึดมากกว่า
โดยกำไรในไตรมาสแรกนั้นถือว่าดีมาก ในขณะที่บริษัทตั้งเป้ากำไรทั้งปีเอาไว้กว่า 700 ล้านบาท และจากผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่ออกมา เชื่อว่าผลกำไรทั้งปีน่าจะทำได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้และอาจทะลุ 1,000 ล้านบาทได้สำหรับยอดปล่อยสินเชื่อไตรมาสแรกนั้นสามารถทำได้ประมาณ 12,000 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเดือนละ 4,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนคันประมาณกว่า 8,000 คันต่อเดือน ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
"กำไรไตรมาสแรกดีกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้เยอะมาก ไตรมาสแรกก็เกือบ 300 ล้านบาทเข้าไปแล้ว หากทุกไตรมาสเป็นอย่างนี้ทั้งปีก็น่าจะกว่า 1,000 ล้านบาทได้ หลัก ๆก็มาจากขาดทุนจากรถยึดลดลง ภาระสำรองลดลง บริหารต้นทุนได้ดีขึ้นเชื่อว่าแบงก์ไทยพาณิชย์คงดีใจและจากนี้ไปเราก็ทำหน้าที่ติดตามหนี้เก่า ส่วนแบงก์ไทยพาณิชย์ก็ปล่อยสินเชื่อรายย่อยไป"
สำหรับภารกิจต่อจากนี้ไปของไทยพาณิชย์ลีสซิ่ง คือ ต้องทำหน้าที่ติดตามหนี้เก่าที่มีอยู่ 280,000 บัญชี ที่ได้ปล่อยไปก่อนหน้านี้ และหากลูกหนี้มีการค้างชำระเกิน 61 วัน ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัทก็มีหน้าที่ไปติดตามหนี้ให้กับธนาคาร เพราะธนาคารไม่มีเจ้าหน้าที่ติดตามหนี้ ซึ่งการแบ่งหน้าที่ดังกล่าวนั้นได้เริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
นายอิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาเอาไว้ 200 ล้านบาท หรือ 350 คัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย ที่วางไว้ แม้ว่าบริษัทได้ร่วมออกงานกับ รถยนต์ 3 ค่ายด้วยกันคือ มิตซูบิชิ ฮุนได และทาทา ในส่วนของยอดจองจาก ค่ายมิตซูบิช ที่มีอยู่ 862 คัน นั้น บริษัทคาดว่าจะมีลูกค้าที่จองซื้อรถยนต์มาขอสินเชื่อเช่าซื้อกับลีสซิ่งกสิกรไทยประมาณ 25% จากที่มีลีสซิ่งร่วมกับมิตซูบิชิอยู่ประมาณ 4 บริษัทด้วยกัน
นอกจากนี้ ในส่วนของฮุนได นั้นเท่าที่ทราบมียอดจอง 126 คัน ซึ่งลีสซิ่งกสิกรไทย คาดว่าจะมีลูกค้าขอสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ประมาณ 50% สำหรับทาทา มียอดจอง 30 คัน คาดว่าน่าจะได้เกือบ100% เนื่องจากได้ร่วมกับลีสซิ่งกสิกรไทยเพียงรายเดียว
นายอิสระ กล่าวว่า แม้บริษัทได้ร่วมกับ 3 ค่ายรถยนต์ในการออกบูธ แต่ในส่วนของรถยนต์ค่ายอื่นๆ นั้น ค่ายรถยนต์แต่ละค่ายมีลีสซิ่งเป็นของตัวเอง แต่ทั้งนี้บริษัทก็ยังมีดีลเลอร์ที่ส่งงานให้ด้วย แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก สิ่งที่คาดหวังก็คือ 3 ค่ายรถยนต์ที่ร่วมออกบูธมากกว่า ที่เหลือเป็นเพียงผลพลอยได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่าเป้าหมายที่วางไว้ 200 ล้านบาท ไม่น่าจะพลาดเป้า แต่จำนวนคันอาจบวกลบเล็กน้อยจากเป้าที่ตั้งไว้ 350 คัน