xs
xsm
sm
md
lg

บริโภคลงทุนดันเศรษฐกิจวิ่งฉิว จับตาราคาน้ำมันดันเงินเฟ้อพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เศรษฐกิจก.พ.51ยังไปได้สวยรับอานิสงส์การบริโภคและลงทุนภาคเอกชนในประเทศยังขยายตัวได้ในระดับสูง รากหญ้าคึกรับราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงส่งผลการซื้อสินค้าคงทนขยายตัวครั้งแรกในรอบปีถึง 5.6% การส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวได้ดีส่วนการนำเข้าปรับตัวได้ดีขึ้นมากตามอุปสงค์ในประเทศ ระบุเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดีแต่ยังต้องระวังความเสี่ยงจากปัจจัยเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น

นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2551 การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ในระดับสูง โดยเครื่องชี้การบริโภคจากภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัว 6.9% ต่อปี ขยายตัวต่อเนื่อง แม้ว่าจะชะลอลงจากเดือนมกราคมที่ขยายตัว 12.4% ต่อปี เนื่องจากฐานภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บจากการนำเข้าในเดือนมกราคมที่สูงเป็นพิเศษจากการนำเข้าสินค้ารายการพิเศษ เช่น เครื่องบินและแท่นขุดเจาะ

ในขณะที่เครื่องชี้การบริโภคด้านสินค้าคงทนมีการขยายตัวสูงมาก โดยปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ขยายตัวสูงถึง 44.9% อันเป็นผลจากรายได้ของประชาชนที่ปรับตัวดีขึ้นตามการปรับขึ้นเงินเดือน และการปรับลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้ E20 เป็นเชื้อเพลิงทำให้ยอดขายรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ ขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์เดือนกุมภาพันธ์ 2551 ซึ่งเป็นเครื่องชี้การบริโภคสินค้าคงทนในระดับฐานรากกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 12 เดือน ที่ 5.6% ต่อปี จากที่หดตัวมาโดยตลอดในปี 2550 เนื่องจากรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนกุมภาพันธ์ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 72.6 จุด สะท้อนแนวโน้มการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น

ด้านการลงทุนภาคเอกชนยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยเครื่องชี้การลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องที่ 23.4% โดยเป็นการขยายตัวของสินค้าผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรกล และเครื่องจักรไฟฟ้าเป็นหลัก ในขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวดีต่อเนื่องที่15.9% ชี้ว่าการลงทุนภาคเอกชนด้านการก่อสร้างเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น

สำหรับเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจด้านการคลัง ด้านการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลขยายตัวดีขึ้นโดยรายได้สุทธิรัฐบาลสามารถจัดเก็บได้สุทธิ 113.5 พันล้านบาท ขยายตัว 9.5 %ต่อปี ขณะที่รายได้ภาษีของรัฐบาลจาก 3 กรมจัดเก็บเท่ากับ 113.4% พันล้านบาท ทั้งนี้ รายได้จัดเก็บจากภาษีฐานรายได้อยู่ที่ 32.3 พันล้านบาท สะท้อนถึงรายได้ของประชาชนและผู้ประกอบการที่ยังคงขยายตัวดีขึ้น

ขณะที่การส่งออกยังคงขยายตัวในระดับสูง แม้ว่าจะชะลอลงจากเดือนก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐขยายตัว 16.4% ต่อปี ชะลอลงเล็กน้อย เนื่องจากการส่งออกสินค้าสำคัญ เช่นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจรไฟฟ้า รถยนต์ รวมถึงอุปกรณ์และส่วนประกอบขยายตัวชะลอลง อย่างไรก็ตาม หากพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้าในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2551 จะพบว่ายังคงขยายตัวได้ในระดับสูงที่ 24.6%

สำหรับการนำเข้ายังคงขยายตัวได้ดีตามการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยมีมูลค่ารวม13.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 33.1% อย่างไรก็ตาม การลงทุนและการผลิตภาคเอกชนที่ฟื้นตัวขึ้นทำให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าทุนและมูลค่านำเข้าวัตถุดิบยังคงขยายตัวในระดับสูง

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเสถียรภาพภายนอกนั้น ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาอยู่ที่ 100.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในระดับสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นหลายเท่าตัว ขณะที่เสถียรภาพในประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เพิ่มขึ้น 5.4% เนื่องจากราคาน้ำมันและราคาสินค้าในหมวดอาหารปรับตัวเพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น