เคทีบี ลีสซิ่งตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่ม 100% เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางสาขาแบงก์กรุงไทย ประเมินการแข่งขันปีนี้ไม่รุนแรง ส่วนภาวะโดยรวมค่อนข้างทรงตัว
นายภิญญาวัฒน์ จันทรกานตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคทีบี ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 15,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากที่ก่อน 100% โดยพอรต์สินเชื่อปัจจุบันอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ส่วนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาบริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อไปได้แล้วประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และเชื่อว่าทั้งปีจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายเช่นกัน ทั้งนี้ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ปัจจุบันอยู่ที่กว่า 1% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้และคาดว่าทั้งปีน่าจะรักษาไว้ที่ระดับนี้ได้
สำหรับกลยุทธ์ที่นำมาใช้นั้น บริษัทจะเน้นทำตลาดเชิงรุก ด้วยการร่วมมือกับสาขาของธนาคารกรุงไทยซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ ในการเจาะเข้าไปในกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าชั้นนำ ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค เครื่องเพชร ทองรูปพรรณ รถจักรยานยนต์ล่าสุด คือรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ส่วนการจัดรายการส่งเสริมการในปัจจุบันมีตั้งแต่ข้อเสนอดอกเบี้ย0% ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานถึง 48 เดือน
นายภิญญาวัฒน์ กล่าวว่า การแข่งขันของธุรกิจลีสซิ่ง หากประเมินใน 2 เดือนแรกจะเห็นว่าการแข่งขันยังไม่ค่อยรุนแรงนัก เนื่องจากผู้ประกอบการต่างมีความระมัดระวังมากขึ้น จะเห็นได้จากการจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ ผู้ประกอบการไม่โหมโฆษณาประชาสัมพันธ์มากเท่าที่ควร เชื่อว่าหลายฝ่ายอยู่ระหว่างการรอดูท่าที และคาดว่าจะเห็นชัดเจนในไตรมาสที่ 3-4
อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดโดยรวมในปีนี้น่าจะทรงตัว หรือมีอัตราการขยายตัวเท่ากับปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมากจากการระมัดระวังการใช้จ่ายมาขึ้น จากภาระค่าครองชีพที่มีมากขึ้น อีกทั้งยังมีปัจจัยลบ คือราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะปรับขึ้น หรือลดลง
"ธุรกิจลีสซิ่งในช่วงนี้ค่อนข้างดูลำบาก แต่การแข่งขันคงไม่รุนแรงเท่ากับปลายปีก่อน ส่วนการปล่อยสินเชื่อคงได้ตามเป้าหมาย ปัจจุบันลูกค้าของบริษัท แบ่งเป็นกลุ่มนิติบุคคล 35% และอีก 65% เป็นลูกค้าบุคคลธรรมดา"
นายภิญญาวัฒน์ จันทรกานตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคทีบี ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 15,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากที่ก่อน 100% โดยพอรต์สินเชื่อปัจจุบันอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ส่วนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาบริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อไปได้แล้วประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และเชื่อว่าทั้งปีจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายเช่นกัน ทั้งนี้ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ปัจจุบันอยู่ที่กว่า 1% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้และคาดว่าทั้งปีน่าจะรักษาไว้ที่ระดับนี้ได้
สำหรับกลยุทธ์ที่นำมาใช้นั้น บริษัทจะเน้นทำตลาดเชิงรุก ด้วยการร่วมมือกับสาขาของธนาคารกรุงไทยซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ ในการเจาะเข้าไปในกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าชั้นนำ ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค เครื่องเพชร ทองรูปพรรณ รถจักรยานยนต์ล่าสุด คือรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ส่วนการจัดรายการส่งเสริมการในปัจจุบันมีตั้งแต่ข้อเสนอดอกเบี้ย0% ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานถึง 48 เดือน
นายภิญญาวัฒน์ กล่าวว่า การแข่งขันของธุรกิจลีสซิ่ง หากประเมินใน 2 เดือนแรกจะเห็นว่าการแข่งขันยังไม่ค่อยรุนแรงนัก เนื่องจากผู้ประกอบการต่างมีความระมัดระวังมากขึ้น จะเห็นได้จากการจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ ผู้ประกอบการไม่โหมโฆษณาประชาสัมพันธ์มากเท่าที่ควร เชื่อว่าหลายฝ่ายอยู่ระหว่างการรอดูท่าที และคาดว่าจะเห็นชัดเจนในไตรมาสที่ 3-4
อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดโดยรวมในปีนี้น่าจะทรงตัว หรือมีอัตราการขยายตัวเท่ากับปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมากจากการระมัดระวังการใช้จ่ายมาขึ้น จากภาระค่าครองชีพที่มีมากขึ้น อีกทั้งยังมีปัจจัยลบ คือราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะปรับขึ้น หรือลดลง
"ธุรกิจลีสซิ่งในช่วงนี้ค่อนข้างดูลำบาก แต่การแข่งขันคงไม่รุนแรงเท่ากับปลายปีก่อน ส่วนการปล่อยสินเชื่อคงได้ตามเป้าหมาย ปัจจุบันลูกค้าของบริษัท แบ่งเป็นกลุ่มนิติบุคคล 35% และอีก 65% เป็นลูกค้าบุคคลธรรมดา"
