แบงก์ตอบรับมาตรการรัฐฉุดอสังหาฯฟื้น บสก.ชี้ปีนี้คึกคักกว่าปี 49 เหตุได้ยาดีช่วยกระตุ้น พร้อมปรับเป้าหมายรายได้ใหม่ตามเป้าหมายกองทุนฟื้นฟูฯ ด้านแบงก์แลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯชูผ่อนนาน 40 ปีสู้ตลาด ขณะที่ยูโอบีเน้นกลยุทธ์ขายทรัพย์ลดราคา
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า เห็นด้วยกับทางการที่ได้ออกมาตการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากจะเป็นปัจจัยช่วยให้ภาคอสังหาฯปีนี้ ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยจะเป็นส่วนที่ช่วยแบ่งเบาภาระด้านค่าใช้จ่ายกับกับประชาชน ถึงแม้มาตการดังกล่าวจะทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียรายได้จากภาษีทางตรง แต่จะมีรายได้จากภาษีทางอ้อมกลับเข้ามาแทน ซึ่งจะมีจำนวนที่สูงกว่าภาษีทางตรงที่สูญเสียไป
"การตัดสินใจของรัฐบาลครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าจะสูญเสียรายได้ทางตรง แต่รายได้จากทางอ้อม เช่น ภาษีธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับภาคอสังหาฯ รวมถึงภาษีนิติบุคคล ภาษีบุคคลธรรมดา ที่จะเข้ามานั้นมีมากกว่า แต่ในส่วนของบสก.มาตรการนี้ไม่ได้มีผลช่วยในส่วนของยอดขายนัก เนื่องจากที่ผ่านมา บสก.มีการยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้าอยู่แล้ว แต่อาจจะมีผลต่อเรื่องของกำไรที่อาจจะมีมากขึ้นจากค่าใช้จ่ายที่น้อยลง" นายบรรยง กล่าว
นอกจากนี้ บสก.ได้ปรับเป้าหมายรายได้จากการขายสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ในปีนี้เป็น 11,700 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 10,665 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายกำไรยังเท่าเดิมที่ 1,800 ล้านบาท โดยเป้าหมายที่ปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าวไม่ได้เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นเป้าหมายที่ทางกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นผู้กำหนด โดยช่วง 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา บสก.มีรายได้จากการขายเอ็นพีเอแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท
นายบรรยง กล่าวว่า ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 18 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ระหว่างวันที่ 13-16 มี.ค.นี้ บสก.ได้ตั้งเป้าหมายการขายเอ็นพีเอไว้ที่ 300 ล้านบาท โดยจะเป็นส่วนที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อและวางเงินภายในงานจำนวน 100 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาทจะเป็นส่วนลูกค้าสนใจจองซื้อเอ็นพีเอและทำการวางเงินหลังจากวันงาน อีกทั้ง คาดว่าในงานนี้จะสามารถขายเอ็นพีเอได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากในช่วงก่อนเปิดงานอย่างเป็นทางการนั้น สามารถขายเอ็นพีเอไปได้แล้วกว่า 30 ล้านบาท
ด้านนางจินตนา ใกล้สุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อรายย่อย ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการทางภาษีของกระทรวงการคลัง จะส่งผลดีต่อธนาคารที่อาจทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารได้มากกว่าเดิม โดยเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อปีนี้อยู่ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารจะทำการปรับเป้าใหม่อีกครั้งในกลางปี เพราะต้องรอดูผลการปล่อยสินเชื่อในไตรมาสแรก เพราะปกติม.ค.-ก.พ.ยังไม่เห็นสัญญาณที่ชัดเจน ซึ่งนโยบายของธนาคารในปีนี้ยังคงเน้นเรื่องระยะเวลาการผ่อนชำระที่นานถึง 40 ปี แต่เมื่อรวมอายุของผู้ผ่อนแล้วต้องไม่เกิน 70 ปี ซึ่งยังเป็นกลยุทธ์หลักในการแข่งขันและสามารถสู้กับแบงก์อื่นได้ และปีแรกปลอดเงินต้น ส่วนปีต่อไปจ่ายค่างวดปกติ
สำหรับในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 18 ได้ตั้งเป้า 200 ล้านบาท และคาดว่าหลังจากจบงานจะได้เพิ่มอีก 100 ล้านบาท รวมแล้วจะได้ 300 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์ฟรีค่าประเมิน ฟรีค่าธรรมเนียมทุกรายการ แต่ต้องลงทะเบียนในงานนี้เท่านั้น ในขณะที่อัตราดอกเบี้ย ในปีแรก คิดเอ็มแอลอาร์ลบ1.5% ปีที่สอง เอ็มแอลอาร์ ลบ1% ปีที่สามเป็นต้นไปเอ็มแอลอาร์ลบ0.75% โดยเอ็มแอลอาร์ของธนาคารอยู่ที่ 6.875% ทั้งนี้ ลูกค้าต้องกู้ตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป หากต่ำกว่านี้เข้าเงื่อนไขปกติ คือ ปีแรก เอ็มแอลอาร์ลบ1.5% ปีที่สอง เอ็มแอลอาร์ลบ0.75% ปีที่สามเอ็มแอลอาร์ลบ0.5% หากเป็นสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ปีแรกคิด 4.75% ปีที่สอง เอ็มแอลอาร์ลบ1.5%ปีที่สามคิด เอ็มแอลอาร์ลบ1.5%ปีที่สี่เป็นต้นไปเอ็มแอลอาร์ลบ1%
นางกุลวดี กุลเนตุ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารทรัพย์สินรอการขาย ธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้ตั้งเป้าขาย เอ็นพีเอ 2,500 ล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สิ้นปียอดเอ็นพีเอ เหลือ 10,000 ล้านบาท เพราะในระหว่างปีอาจมีเอ็นพีเอใหม่ไหลเข้ามาบ้าง เพราะปกติจะมีเอ็นพีเอเข้ามาใหม่เดือนละ 50-60 ล้านบาท ซึ่งกลยุทธ์ขายเอ็นพีเอของธนาคารคือลดราคาทรัพย์เป็นหลัก
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า เห็นด้วยกับทางการที่ได้ออกมาตการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากจะเป็นปัจจัยช่วยให้ภาคอสังหาฯปีนี้ ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยจะเป็นส่วนที่ช่วยแบ่งเบาภาระด้านค่าใช้จ่ายกับกับประชาชน ถึงแม้มาตการดังกล่าวจะทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียรายได้จากภาษีทางตรง แต่จะมีรายได้จากภาษีทางอ้อมกลับเข้ามาแทน ซึ่งจะมีจำนวนที่สูงกว่าภาษีทางตรงที่สูญเสียไป
"การตัดสินใจของรัฐบาลครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าจะสูญเสียรายได้ทางตรง แต่รายได้จากทางอ้อม เช่น ภาษีธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับภาคอสังหาฯ รวมถึงภาษีนิติบุคคล ภาษีบุคคลธรรมดา ที่จะเข้ามานั้นมีมากกว่า แต่ในส่วนของบสก.มาตรการนี้ไม่ได้มีผลช่วยในส่วนของยอดขายนัก เนื่องจากที่ผ่านมา บสก.มีการยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้าอยู่แล้ว แต่อาจจะมีผลต่อเรื่องของกำไรที่อาจจะมีมากขึ้นจากค่าใช้จ่ายที่น้อยลง" นายบรรยง กล่าว
นอกจากนี้ บสก.ได้ปรับเป้าหมายรายได้จากการขายสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ในปีนี้เป็น 11,700 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 10,665 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายกำไรยังเท่าเดิมที่ 1,800 ล้านบาท โดยเป้าหมายที่ปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าวไม่ได้เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นเป้าหมายที่ทางกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นผู้กำหนด โดยช่วง 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา บสก.มีรายได้จากการขายเอ็นพีเอแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท
นายบรรยง กล่าวว่า ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 18 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ระหว่างวันที่ 13-16 มี.ค.นี้ บสก.ได้ตั้งเป้าหมายการขายเอ็นพีเอไว้ที่ 300 ล้านบาท โดยจะเป็นส่วนที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อและวางเงินภายในงานจำนวน 100 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาทจะเป็นส่วนลูกค้าสนใจจองซื้อเอ็นพีเอและทำการวางเงินหลังจากวันงาน อีกทั้ง คาดว่าในงานนี้จะสามารถขายเอ็นพีเอได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากในช่วงก่อนเปิดงานอย่างเป็นทางการนั้น สามารถขายเอ็นพีเอไปได้แล้วกว่า 30 ล้านบาท
ด้านนางจินตนา ใกล้สุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อรายย่อย ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการทางภาษีของกระทรวงการคลัง จะส่งผลดีต่อธนาคารที่อาจทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารได้มากกว่าเดิม โดยเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อปีนี้อยู่ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารจะทำการปรับเป้าใหม่อีกครั้งในกลางปี เพราะต้องรอดูผลการปล่อยสินเชื่อในไตรมาสแรก เพราะปกติม.ค.-ก.พ.ยังไม่เห็นสัญญาณที่ชัดเจน ซึ่งนโยบายของธนาคารในปีนี้ยังคงเน้นเรื่องระยะเวลาการผ่อนชำระที่นานถึง 40 ปี แต่เมื่อรวมอายุของผู้ผ่อนแล้วต้องไม่เกิน 70 ปี ซึ่งยังเป็นกลยุทธ์หลักในการแข่งขันและสามารถสู้กับแบงก์อื่นได้ และปีแรกปลอดเงินต้น ส่วนปีต่อไปจ่ายค่างวดปกติ
สำหรับในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 18 ได้ตั้งเป้า 200 ล้านบาท และคาดว่าหลังจากจบงานจะได้เพิ่มอีก 100 ล้านบาท รวมแล้วจะได้ 300 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์ฟรีค่าประเมิน ฟรีค่าธรรมเนียมทุกรายการ แต่ต้องลงทะเบียนในงานนี้เท่านั้น ในขณะที่อัตราดอกเบี้ย ในปีแรก คิดเอ็มแอลอาร์ลบ1.5% ปีที่สอง เอ็มแอลอาร์ ลบ1% ปีที่สามเป็นต้นไปเอ็มแอลอาร์ลบ0.75% โดยเอ็มแอลอาร์ของธนาคารอยู่ที่ 6.875% ทั้งนี้ ลูกค้าต้องกู้ตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป หากต่ำกว่านี้เข้าเงื่อนไขปกติ คือ ปีแรก เอ็มแอลอาร์ลบ1.5% ปีที่สอง เอ็มแอลอาร์ลบ0.75% ปีที่สามเอ็มแอลอาร์ลบ0.5% หากเป็นสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ปีแรกคิด 4.75% ปีที่สอง เอ็มแอลอาร์ลบ1.5%ปีที่สามคิด เอ็มแอลอาร์ลบ1.5%ปีที่สี่เป็นต้นไปเอ็มแอลอาร์ลบ1%
นางกุลวดี กุลเนตุ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารทรัพย์สินรอการขาย ธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้ตั้งเป้าขาย เอ็นพีเอ 2,500 ล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สิ้นปียอดเอ็นพีเอ เหลือ 10,000 ล้านบาท เพราะในระหว่างปีอาจมีเอ็นพีเอใหม่ไหลเข้ามาบ้าง เพราะปกติจะมีเอ็นพีเอเข้ามาใหม่เดือนละ 50-60 ล้านบาท ซึ่งกลยุทธ์ขายเอ็นพีเอของธนาคารคือลดราคาทรัพย์เป็นหลัก