แบงก์กรุงเทพปล่อยกู้ "โพสโค (ไทยแลนด์) บริษัทลูกโพสโค เกาหลีผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดในประเทศ ในวงเงิน 1,000 ล้าน เพื่อใช้สำหรับโครงการลงทุนสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกร์ เพื่อผลิตและจำหน่ายเหล็กชนิดแบนให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็คทรอนิกส์
นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BBL เปิดเผยว่า ธนาคารได้ลงนามในสัญญาสนับสนุนวงเงินสินเชื่อจำนวน 1,000 ล้านบาท แก่บริษัท โพสโค (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ POSCO KOREA บริษัทผลิตเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลี และใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก โดยบริษัทโพสโค (ไทยแลนด์) ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2540 เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าเหล็กชนิดแบน (Cold Roll Coil, Hot Roll Coil) ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็คทรอนิกส์ ตามปริมาณคำสั่งสินค้าที่ลูกค้าต้องการ
"ธนาคารเล็งเห็นแนวโน้มอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ และอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็คทรอนิกส์ในประเทศไทยที่ยังคงมีอนาคตที่ดี ด้วยปัจจัยที่สำคัญจากบริษัทผู้ผลิตในอุตสาหกรรมดังกล่าวหลายรายตัดสินใจใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าค่าเงินบาทของไทยจะมีเสถียรภาพมากขึ้น ก็ไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในกลุ่มนี้มากนัก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องมีการนำเข้าวัตถุดิบ และเครื่องจักรจากต่างประเทศ ส่งผลให้ต้นทุนบางส่วนได้รับผลประโยชน์จากเสถียรภาพค่าเงินบาทของไทย ทั้งนี้ที่ผ่านมาธนาคารได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเครื่องจักรเพื่อธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในการซื้อเครื่องจักรใหม่สำหรับใช้ในการขยายและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมไปถึงการดำเนินกรรมในรูปแบบต่างๆ อาทิ การจัดสัมมนา World Class Auto Parts Seminar เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในแต่ละกลุ่มเป็นการเฉพาะ"นายสุวรรณกล่าว
ด้านนายอิน ซัน มูน ประธานบริษัท โพสโค (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ด้วยมาตรการการสนับสนุนและส่งเสริมจากรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงทางด้านการค้า ภาษีระหว่างประเทศ ตลอดจนแผนแม่บทของอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ และอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็คทรอนิกส์ ทางบริษัทจึงได้มีนโยบายในการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินโครงการลงทุนสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกร์ เพื่อขยายกำลังการผลิตให้ได้อีก 80,000 ตันต่อปี จาก 200,000 ตันต่อปี เป็น 280,000 ตันต่อปี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างเต็มที่ภายในปี 2551 นี้
"ปัจจุบันประเทศไทยนับได้ว่าเป็นประเทศผู้ส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์ในอันดับต้นๆ ของทวีปเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ประเภทปิคอัพ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมดังกล่าวในประเทศไทยสามารถขยายและเติบโตได้อีกอย่างต่อเนื่อง"
นายสุวรรณกล่าวอีกว่า ธนาคารมีนโยบายและแนวทางในการให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อแก่ลูกค้าผู้ประกอบการตั้งแต่ระดับต้นน้ำจนถึงระดับปลายน้ำ เช่นเดียวกับในอุตสาหกรรมรถยนต์ ธนาคารจะให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อตั้งแต่ ผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบ ผู้ผลิตเครื่องจักร ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ทั้งในรูปพลาสติกและโลหะ ผู้ผลิตและประกอบรถยนต์ ผู้รับผิดชอบด้านการขนส่ง (Logistics) ไปจนถึง ผู้จัดจำหน่าย ดังนั้น ด้วยการสนับสนุนของสถาบันการเงินในลักษณะนี้ของธนาคารกรุงเทพย่อมส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจไทยโดยภาพรวมมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BBL เปิดเผยว่า ธนาคารได้ลงนามในสัญญาสนับสนุนวงเงินสินเชื่อจำนวน 1,000 ล้านบาท แก่บริษัท โพสโค (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ POSCO KOREA บริษัทผลิตเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลี และใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก โดยบริษัทโพสโค (ไทยแลนด์) ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2540 เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าเหล็กชนิดแบน (Cold Roll Coil, Hot Roll Coil) ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็คทรอนิกส์ ตามปริมาณคำสั่งสินค้าที่ลูกค้าต้องการ
"ธนาคารเล็งเห็นแนวโน้มอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ และอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็คทรอนิกส์ในประเทศไทยที่ยังคงมีอนาคตที่ดี ด้วยปัจจัยที่สำคัญจากบริษัทผู้ผลิตในอุตสาหกรรมดังกล่าวหลายรายตัดสินใจใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าค่าเงินบาทของไทยจะมีเสถียรภาพมากขึ้น ก็ไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในกลุ่มนี้มากนัก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องมีการนำเข้าวัตถุดิบ และเครื่องจักรจากต่างประเทศ ส่งผลให้ต้นทุนบางส่วนได้รับผลประโยชน์จากเสถียรภาพค่าเงินบาทของไทย ทั้งนี้ที่ผ่านมาธนาคารได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเครื่องจักรเพื่อธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในการซื้อเครื่องจักรใหม่สำหรับใช้ในการขยายและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมไปถึงการดำเนินกรรมในรูปแบบต่างๆ อาทิ การจัดสัมมนา World Class Auto Parts Seminar เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในแต่ละกลุ่มเป็นการเฉพาะ"นายสุวรรณกล่าว
ด้านนายอิน ซัน มูน ประธานบริษัท โพสโค (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ด้วยมาตรการการสนับสนุนและส่งเสริมจากรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงทางด้านการค้า ภาษีระหว่างประเทศ ตลอดจนแผนแม่บทของอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ และอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็คทรอนิกส์ ทางบริษัทจึงได้มีนโยบายในการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินโครงการลงทุนสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกร์ เพื่อขยายกำลังการผลิตให้ได้อีก 80,000 ตันต่อปี จาก 200,000 ตันต่อปี เป็น 280,000 ตันต่อปี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างเต็มที่ภายในปี 2551 นี้
"ปัจจุบันประเทศไทยนับได้ว่าเป็นประเทศผู้ส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์ในอันดับต้นๆ ของทวีปเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ประเภทปิคอัพ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมดังกล่าวในประเทศไทยสามารถขยายและเติบโตได้อีกอย่างต่อเนื่อง"
นายสุวรรณกล่าวอีกว่า ธนาคารมีนโยบายและแนวทางในการให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อแก่ลูกค้าผู้ประกอบการตั้งแต่ระดับต้นน้ำจนถึงระดับปลายน้ำ เช่นเดียวกับในอุตสาหกรรมรถยนต์ ธนาคารจะให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อตั้งแต่ ผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบ ผู้ผลิตเครื่องจักร ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ทั้งในรูปพลาสติกและโลหะ ผู้ผลิตและประกอบรถยนต์ ผู้รับผิดชอบด้านการขนส่ง (Logistics) ไปจนถึง ผู้จัดจำหน่าย ดังนั้น ด้วยการสนับสนุนของสถาบันการเงินในลักษณะนี้ของธนาคารกรุงเทพย่อมส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจไทยโดยภาพรวมมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น