xs
xsm
sm
md
lg

แอสเซท โปร ฟุ้ง “วรรณ” ลุยนิลโกศล เตรียมต่ออายุกองทุนที่ครบอายุใน 2 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“แอสเซท โปร” แย้ม กองทุนเอสเอ็มอี บลจ.วรรณ เตรียมลงทุน “นิลโกศล” เป็นบริษัทที่ 5 ที่กองทุนดังกล่าวลงทุนในบริษัทลูกค้าของแอสเซท โปร คาดเซ็นสัญญาร่วมทุน ก.พ.-มี.ค.นี้ เตรียมเข้าเทรดในตลาดเอ็มเอไอ ช่วง พ.ค.-มิ.ย.“สมภพ” เผย บลจ.วรรณ เตรียมต่ออายุกองทุนเอสเอ็มอีที่จะครบอายุโครงการอีกใน 2 ปีข้างหน้า

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนรวมเพื่อร่วมลงทุนในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (กองทุนเอสเอ็มอี) ซึ่งบริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด อยู่ระหว่างการศึกษาที่จะเข้าไปลงทุนใน บริษัท นิลโกศล จำกัด ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทที่เตรียมจะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)

ทั้งนี้ คาดว่า บลจ.วรรณ จะมีการเซ็นสัญญาร่วมลงทุนใน บริษัท นิลโกศล ในเดือนกุมภาพันธ์ หรือ มีนาคมนี้ โดยการเข้าถือหุ้นของกองทุนเอสเอ็มอีจะถือหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 25 ล้านบาท หรือประมาณ 10-20% ซึ่งบริษัทจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในเดือนมีนาคมนี้ และคาดว่าจะเข้าเข้าซื้อขายในตลาด เอ็ม เอไอ ได้ประมาณ เดือนพฤษภาคม หรือ มิถุนายนนี้

“ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รวม 9 บริษัท แบ่งเป็นSET 1-2 บริษัท และที่เหลือเข้า mai ขณะที่ปี 2552 นำบริษัทเข้าจดทะเบียน 5-7 บริษัท และปี 2553 จำนวน 8 บริษัท” นายสมภพ กล่าว

สำหรับ บริษัท นิลโกศล นั้น ประกอบธุรกิจผลิตและประกอบงานโครงสร้างเหล็กทุกชนิด ถังแรงดันถังไซโล ชิ้นส่วนเครื่องจักตามแบบพร้อมงานติดตั้ง และถือเป็นบริษัทที่ 5 ที่กองทุนเอสเอ็มอีเข้าลงทุน โดยที่ผ่านมานั้นกองทุนดังกล่าวได้เข้าลงทุนในบริษัทที่เป็นลูกค้าของแอสเซท โปร คือ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT, บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET, บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM และบริษัท เฟรมโพสโปรดักส์ชั่น จำกัด

อย่างไรก็ตาม กองทุนเอสเอ็มอีจะครบอายุโครงการในอีก 2 ปี ซึ่งขณะนี้ บลจ.วรรณ อยู่ระหว่างพิจารณาที่จะขอที่จะมีการต่ออายุโครงการ ซึ่งหากได้รับอนุมัติจากทางการ เชื่อว่า เม็ดเงินที่ยังไม่ได้นำไปลงทุน จากวงเงินที่มีจำนวน 1,000 ล้านบาท ก็จะนำไปลงทุนในบริษัทอื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อบริษัทขนาดเล็กและขนาดย่อม

นายสมภพ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทรับเป็นที่ปรึกษาทางด้านการปรับโครงสร้างทางการเงินและการปรับโครงสร้างหนี้มากขึ้น จากการที่บริษัทต่างๆ ให้ความสำคัญที่จะมีการะดมทุนจากตลาดทุนมากขึ้นจากเดิมที่ขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน โดยหลังจากที่มีการปรับโครงสร้างทางกาเงินแล้วก็บริษัทดังกล่าวมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ซึ่งปัจจุบันรับเป็นที่ปรึกษาอยู่จำนวน 5 บริษัท

ทั้งนี้ สัดส่วนโครงสร้างธุรกิจของบริษัทในปีนี้แบ่งเป็นงานด้านการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และตลาดเอ็มเอไอ 40% งานด้านปรับโครงสร้างหนี้และปรับโครงสร้างทางการเงิน 30% การเป็นที่ปรึกษาทางด้านหาพันธมิตรรวมทุน 20% การควบรวมกิจการ 5% และการเป็นที่ปรึกษาในการกู้เงินเพื่อขยายกิจการ 5%
กำลังโหลดความคิดเห็น