“หมอเลี้ยบ” ออกอาการฉุนเฉียวทันที หลังข่าว “พันศักดิ์” อดีตกุนซือคนสนิท “แม้ว” เข้าร่วมประชุมยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ชี้ผู้ร่วมประชุมฯ ถือเป็นความลับ คนที่นำออกมาเปิดเผยถือว่าเสียมารยาท พร้อมยืนยันการตั้งบอร์ด รสก.ไม่เอาคน ทรท.เก่า เข้ามานั่งแบ่งเค้กแน่นอน ส่วนการแบ่งงาน 2 รมช.เรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (14 ก.พ.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาตอบโต้กระแสข่าวที่ระบุว่า นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจได้เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการพิจารณายกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ที่กระทรวงการคลังหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า นายพันศักดิ์เข้าร่วมประชุมเฉพาะการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่เป็นการประชุมร่วมกันของ 4 หน่วยงานเท่านั้น คือ กระทรวงการคลัง, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.), สำนักงบประมาณ และแบงก์ชาติ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับมาตรการ 30% จะต้องเป็นผู้ที่มีข้อมูลเพื่อช่วยให้ตนตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ
นพ.สุรพงษ์ กล่าวด้วยความหงุดหงิดว่า การเข้าประชุมดังกล่าวถือเป็นความลับ และไม่คิดว่าข้อมูลที่ประชุมร่วมกันจะถูกเปิดเผยออกมา นายพันศักดิ์อยู่ในคณะที่ปรึกษาของ รมว.คลัง แม้จะไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่ถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และเคยเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ถึงนายพันศักดิ์จะเข้าประชุมหรือไม่ ตนก็ต้องขอคำปรึกษาอยู่แล้ว
“ผู้ที่เข้าร่วมประชุมฯ ต้องเป็นผู้ที่มีข้อมูลและช่วยให้ผมสามารถตัดสินใจได้รอบคอบมากขึ้น เพราะฉะนั้น การที่จะให้ใครเข้าประชุมก็เป็นความลับ ผมไม่คิดว่าข้อมูลต่างๆ ที่ได้พูดคุยในที่ประชุมจะมีการเปิดเผยออกมา”
**แบ่งเค้กให้ 2 รมช.แล้ว
สำหรับการมอบงานให้รัฐมนตรีในกระทรวง นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตนเองได้มอบหมายแบ่งงานไปหมดแล้ว โดยเน้นปรับประสิทธิภาพเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ภายใน 6 เดือน โดยตนได้ดูแลสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาชนบท สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และธนาคารออมสิน
ส่วน นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ดูแลกรมสรรพากร กรมศุลกากร โรงงานยาสูบ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
ด้าน ร.ต.(หญิง)ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รับผิดชอบดูแลกรมสรรพสามิต กรมบัญชีกลาง กรมธนารักษ์ ธนาคารกลางอิสลาม ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
**ยันตั้งบอร์ด รสก.ไม่ใช้ระบบพวกพ้อง
สำหรับประเด็นการเปิดทางให้ 111 กรรมการบริหารอดีตพรรคไทยรักไทย (ทรท.) เข้ามาทำมาหากินโดยดำรวตำแหน่งบริหารในรัฐวิสาหกิจนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวยืนยันว่า ตนเองจะไม่มีการใช้ระบบพวกพ้องในการแต่งตั้งผู้บริหารธนาคารของรัฐ และองค์กรรัฐวิสาหกิจ โดยจะรอให้มีมาตรการที่ชัดเจนเสียก่อน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงที่ยังไม่มีข้อสรุปแต่จะเร่งในการตัดสินใจ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังยืนยันไม่มีแนวคิดที่จะผลักดันรัฐวิสาหกิจเข้าตลาดหุ้นในขณะนี้
