บิ๊ก DIMET มั่นใจหลังการเมืองชัดเจนมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหาร ช่วยหนุนอุตสาหกรรมในประเทศฟื้นตัว เป็นผลดีต่อธุรกิจแถมได้พันธมิตร PPG จากสหรัฐฯ มาช่วยสร้างรายได้จากตลาดส่งออก เชื่อทำให้ผลประกอบการรอบปี 51 เติบโตประมาณ 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้
นายสุรพล รุจิกาญจนา ประธานกรรมการ บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปีบัญชี 2551 (ม.ค.-มิ.ย.51 )ว่ามีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก (ก.ค.-ธ.ค.50) และเติบโตขึ้นจากรอบบัญชีปี 2550 ได้ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากที่ได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะมีนโยบายเร่งด่วนออกมาผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่ชะลอไปในช่วงปีที่ผ่านมา รวมทั้งความมั่นใจในการลงทุนของภาคเอกชนที่กลับคืนมา ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ภาคเอกชนกลับมาเดินหน้าโครงการทางธุรกิจที่เคยชะลอออกไปในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีงานเข้าสู่ตลาดมากขึ้นและเป็นผลดีต่อธุรกิจของ DIMET โดยตรง
"ในปีที่ผ่านมางาน ภาครัฐและเอกชนออกสู่ตลาดน้อยมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอลงทุนเพื่อรอความชัดเจนทางด้านการเมือง แต่หลังจากที่ทุกอย่างชัดเจน รัฐบาลใหม่จัดตั้งขึ้นมาเรียบร้อยก็เชื่อว่าภารกิจแรกๆ ที่รัฐบาลจะทำก็คือเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับคืนมา และเร่งสานต่องานโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้นคาดว่าจะทำให้งานที่ชะลอตัวในปี 2550 กลับคืนเข้าสู่ตลาดอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งธุรกิจสีอุตสาหกรรมด้วย"
นายสุรพลกล่าวอีกว่า ในครึ่งปีหลังนี้นอกจากบริษัทจะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้ว เชื่อว่าจากนโยบายการมุ่งขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายหลังจากที่ได้เซ็นสัญญาสัญญาอย่างเป็นทางการกับ PPG AMERCOAT (PPG) ผู้ประกอบการสีป้องกันสนิมรายใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้เป็นตัวแทนจำหน่ายและเป็นผู้ผลิตสีป้องกันสนิมแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตได้อย่างโดดเด่นขึ้น โดยขณะที่ทาง PPG ได้มียอดคำสั่งซื้อสีป้องกันสนิมเพื่อส่งออกให้กับ PPG สาขาฟิลิปปินส์แล้วคิดเป็นมูลค่า 2 ล้านบาท โดยจะมีการทยอยรับรู้รายได้เข้ามาภายในไตรมาสแรกปีนี้
"หลังจากที่บริษัทได้ PPG เป็นพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน เชื่อว่าจะส่งผลทำให้ยอดส่งออกในอนาคตเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 5% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2% รวมทั้งยังส่งผลดีในแง่ของการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของยอดขายด้วย แต่ PPG จะหนุนให้รายได้ของบริษัทเติบโตมากแค่ไหนยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะเบื้องต้นคาดหวังในด้านการเอื้ออำนวยธุรกิจร่วมกัน และมีส่วนทำให้รายได้ขยับขึ้นมา" นายสุรพลกล่าว
นายสุรพลกล่าวถึงผลประกอบการในปีนี้ (1 ก.ค.2550-30 มิ.ย.2551) จะเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 10% จากการเพิ่มขึ้นของงานในตลาด ที่จะทำให้ DIMET มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสีป้องกันสนิมที่จำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน และการร่วมเป็นพันธมิตรกับ PPG ที่จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการผลักดันยอดขายให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นายสุรพล รุจิกาญจนา ประธานกรรมการ บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปีบัญชี 2551 (ม.ค.-มิ.ย.51 )ว่ามีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก (ก.ค.-ธ.ค.50) และเติบโตขึ้นจากรอบบัญชีปี 2550 ได้ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากที่ได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะมีนโยบายเร่งด่วนออกมาผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่ชะลอไปในช่วงปีที่ผ่านมา รวมทั้งความมั่นใจในการลงทุนของภาคเอกชนที่กลับคืนมา ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ภาคเอกชนกลับมาเดินหน้าโครงการทางธุรกิจที่เคยชะลอออกไปในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีงานเข้าสู่ตลาดมากขึ้นและเป็นผลดีต่อธุรกิจของ DIMET โดยตรง
"ในปีที่ผ่านมางาน ภาครัฐและเอกชนออกสู่ตลาดน้อยมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอลงทุนเพื่อรอความชัดเจนทางด้านการเมือง แต่หลังจากที่ทุกอย่างชัดเจน รัฐบาลใหม่จัดตั้งขึ้นมาเรียบร้อยก็เชื่อว่าภารกิจแรกๆ ที่รัฐบาลจะทำก็คือเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับคืนมา และเร่งสานต่องานโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้นคาดว่าจะทำให้งานที่ชะลอตัวในปี 2550 กลับคืนเข้าสู่ตลาดอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งธุรกิจสีอุตสาหกรรมด้วย"
นายสุรพลกล่าวอีกว่า ในครึ่งปีหลังนี้นอกจากบริษัทจะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้ว เชื่อว่าจากนโยบายการมุ่งขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายหลังจากที่ได้เซ็นสัญญาสัญญาอย่างเป็นทางการกับ PPG AMERCOAT (PPG) ผู้ประกอบการสีป้องกันสนิมรายใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้เป็นตัวแทนจำหน่ายและเป็นผู้ผลิตสีป้องกันสนิมแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตได้อย่างโดดเด่นขึ้น โดยขณะที่ทาง PPG ได้มียอดคำสั่งซื้อสีป้องกันสนิมเพื่อส่งออกให้กับ PPG สาขาฟิลิปปินส์แล้วคิดเป็นมูลค่า 2 ล้านบาท โดยจะมีการทยอยรับรู้รายได้เข้ามาภายในไตรมาสแรกปีนี้
"หลังจากที่บริษัทได้ PPG เป็นพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน เชื่อว่าจะส่งผลทำให้ยอดส่งออกในอนาคตเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 5% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2% รวมทั้งยังส่งผลดีในแง่ของการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของยอดขายด้วย แต่ PPG จะหนุนให้รายได้ของบริษัทเติบโตมากแค่ไหนยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะเบื้องต้นคาดหวังในด้านการเอื้ออำนวยธุรกิจร่วมกัน และมีส่วนทำให้รายได้ขยับขึ้นมา" นายสุรพลกล่าว
นายสุรพลกล่าวถึงผลประกอบการในปีนี้ (1 ก.ค.2550-30 มิ.ย.2551) จะเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 10% จากการเพิ่มขึ้นของงานในตลาด ที่จะทำให้ DIMET มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสีป้องกันสนิมที่จำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน และการร่วมเป็นพันธมิตรกับ PPG ที่จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการผลักดันยอดขายให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
