ครม.อนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ 3 หมื่นตัน แก้ปัญหาขาดแคลน ส่วนผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศ 3.45 แสนตัน จะนำไปผลิตไบโอดีเซลบี 100
วันนี้ (22 ม.ค.) นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบใสเพื่อเพิ่มปริมาณสตอกสำรองในประเทศ 30,000 ตัน ภายใต้กรอบความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
“ที่ประชุม ครม.อนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์ม 3 หมื่นตัน เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศมีราคาสูง ซึ่งอาจกระทบต่อภาคการบริโภคและการผลิตสินค้า” นายโชติชัย กล่าว
ทั้งนี้ ให้ อคส.เปิดแอลซีกับธนาคารกรุงไทยเพื่อนำเข้าน้ำมันปาล์มในวงเงิน 1,200 ล้านบาท
กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้นจาก กก.ละ 18.63 บาท ในเดือน ม.ค.2550 เป็น กก.ละ 31.47 บาทในเดือน ธ.ค.2550 และกลางเดือน ม.ค.2551 ปรับเพิ่มมาอยู่ที่ 36.75-37.00 บาท สูงกว่าประเทศมาเลเซีย กก.ละ 2.85 บาท โดยมีสาเหตุจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ขณะที่ความต้องการของตลาดมีมาก โดยเฉพาะการนำไปใช้เป็นพลังงานทดแทน เป็นต้น
สำหรับน้ำมันปาล์มดิบจำนวนดังกล่าวต้องนำเข้าและจัดสรรให้กับสมาชิกสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มตามสัดส่วนการรับซื้อให้เสร็จภายในวันที่ 29 ก.พ.2551 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบราคาปาล์มของเกษตรกร เนื่องจากตั้งแต่เดือน มี.ค.2551 จะมีผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาดเพิ่มจำนวนมาก
“ในปี 2550 ที่ผ่านมา ไทยผลิตน้ำมันปาล์มดิบได้ 1.05 ล้านตัน ใช้ผลิตน้ำมันบริสุทธิ์ 905,000 ตัน นำไปผลิตไบโอดีเซล บี 100 จำนวน 2,000 ตัน ส่งออก 224,000 ตัน จึงเหลือสต็อกทั้งระบบ 83,000 ตัน ถือว่ายังน้อยจึงจำเป็นต้องนำเข้าเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลน” นายโชติชัย กล่าว
ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประเมินว่า ในปี 2551 จะมีผลปาล์ม 7.873 ล้านตัน สามารถสกัดเป็นน้ำมันปาล์มดิบได้ 1.344 ล้านตัน คาดว่าความต้องการใช้บริโภค และอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก 990,000 ตันต่อปี คงเหลือน้ำมันปาล์มดิบอีก 345,000 ตัน ส่วนหนึ่งนำไปผลิตไบโอดีเซลบี 100 ตามนโยบายของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีมติให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วต้องผสมไบโอดีเซล
