ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง แนวเดียวกับตลาดต่างประเทศ และมีวอลุ่มเทรดน้อย ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังกดดันตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นทั่วโลก โดยคาดว่า สัปดาห์นี้จะมีการประกาศผลประกอบการของธนาคารในสหรัฐฯ ซึ่งแนวโน้มมีความเสี่ยงในเรื่องการตั้งสำรองฯที่สูงกว่าคาด สำหรับแนวโน้มพรุ่งนี้ ตลาดหุ้นไทยมีลุ้นดีดกลับ เพราะวันนี้ลงมาเยอะ ให้แนวต้าน 805 แนวรับ 780 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(14 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 791.15 จุด ลดลง 5.32 จุด เปลี่ยนแปลง -0.67% มูลค่าการซื้อขาย 11,218.84 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 794.29 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 786.70 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 98 หลักทรัพย์ ลดลง 212 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 115 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน วันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,119.82 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 4.47 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,124.30 ล้านบาท
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดสหรัฐฯและตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง และวอลุ่มการซื้อขายวันนี้ก็เรียกได้ว่าน้อย ซึ่งคงต้องยอมรับว่าอิทธิพลมาจากตลาดสหรัฐฯ ที่กดดันราคาหุ้นอยู่
ช่วงนี้นักลงทุนจะหนีความเสี่ยง คือตลาดหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง โดยหันไปลงทุนในทองคำ และพันธบัตร ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมากที่สุด และในสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้วันนี้วอลุ่มเทรดในตลาดน้อย อาจเป็นเรื่องของการเมืองในประเทศด้วย เพราะช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ค่อนข้างชุลมุนวุ่นวาย ส่วนประเด็นวันพรุ่งนี้ ศาลฎีกาจะพิจารณาคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ส.ส.ปชป. ยื่นฟ้องพรรคพลังประชาชนมีลักษณะเป็นนอมินีนั้น เรื่องนี้ตลาดคงจะให้ความสำคัญจับตาเป็นพิเศษด้วย เพราะจะบ่งชี้อะไรอีกหลายอย่าง
ทั้งนี้ ในแง่ของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค เชื่อว่าจะยังผันผวนอย่างนี้ต่อไป เพราะสัปดาห์นี้จะเป็นเรื่องของการประกาศผลประกอบการของธนาคารในสหรัฐอเมริกา ก็แนวโน้มยังไงก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของการตั้งสำรองฯที่สูงกว่าคาดเอาไว้
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(15 ม.ค.) นายสุกิจ กล่าวว่า วันนี้หุ้นปรับตัวลงมาเยอะ จึงเชื่อว่าพรุ่งนี้ หากไม่มีอะไรหระทบ หุ้นก็มีโอกาสดีดกลับได้ แต่อาจไม่ผ่าน 805 จุด เพราะปัจจัยจากต่างประเทศก็ยังกดดัน ส่วนแนวรับในระยะสั้นให้ไว้ที่ 780 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,733.24 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 1.75 บาท , PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,230.89 ล้านบาท ปิดที่ 320.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 746.14 ล้านบาท ปิดที่ 78.00 บาท ลดลง 1.50 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 694.04 ล้านบาท ปิดที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 445.35 ล้านบาท ปิดที่ 392.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(14 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 791.15 จุด ลดลง 5.32 จุด เปลี่ยนแปลง -0.67% มูลค่าการซื้อขาย 11,218.84 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 794.29 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 786.70 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 98 หลักทรัพย์ ลดลง 212 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 115 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน วันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,119.82 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 4.47 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,124.30 ล้านบาท
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดสหรัฐฯและตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง และวอลุ่มการซื้อขายวันนี้ก็เรียกได้ว่าน้อย ซึ่งคงต้องยอมรับว่าอิทธิพลมาจากตลาดสหรัฐฯ ที่กดดันราคาหุ้นอยู่
ช่วงนี้นักลงทุนจะหนีความเสี่ยง คือตลาดหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง โดยหันไปลงทุนในทองคำ และพันธบัตร ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมากที่สุด และในสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้วันนี้วอลุ่มเทรดในตลาดน้อย อาจเป็นเรื่องของการเมืองในประเทศด้วย เพราะช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ค่อนข้างชุลมุนวุ่นวาย ส่วนประเด็นวันพรุ่งนี้ ศาลฎีกาจะพิจารณาคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ส.ส.ปชป. ยื่นฟ้องพรรคพลังประชาชนมีลักษณะเป็นนอมินีนั้น เรื่องนี้ตลาดคงจะให้ความสำคัญจับตาเป็นพิเศษด้วย เพราะจะบ่งชี้อะไรอีกหลายอย่าง
ทั้งนี้ ในแง่ของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค เชื่อว่าจะยังผันผวนอย่างนี้ต่อไป เพราะสัปดาห์นี้จะเป็นเรื่องของการประกาศผลประกอบการของธนาคารในสหรัฐอเมริกา ก็แนวโน้มยังไงก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของการตั้งสำรองฯที่สูงกว่าคาดเอาไว้
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(15 ม.ค.) นายสุกิจ กล่าวว่า วันนี้หุ้นปรับตัวลงมาเยอะ จึงเชื่อว่าพรุ่งนี้ หากไม่มีอะไรหระทบ หุ้นก็มีโอกาสดีดกลับได้ แต่อาจไม่ผ่าน 805 จุด เพราะปัจจัยจากต่างประเทศก็ยังกดดัน ส่วนแนวรับในระยะสั้นให้ไว้ที่ 780 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,733.24 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 1.75 บาท , PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,230.89 ล้านบาท ปิดที่ 320.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 746.14 ล้านบาท ปิดที่ 78.00 บาท ลดลง 1.50 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 694.04 ล้านบาท ปิดที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 445.35 ล้านบาท ปิดที่ 392.00 บาท ลดลง 2.00 บาท