ตลาดหุ้นไทยยังผันผวน โดยช่วงเช้ามีรีบาวน์ช่วงสั้น พอเข้าสู่ช่วงบ่าย เปิดตลาดดัชนีฯ ปรับตัวลงแดนลบทันที หลังข่าว "เมอร์ริล ลินช์" อาจขาดทุนมากกว่าที่คาด ดัชนีหลุด 800 จุด แนวโน้มสัปดาห์หน้า และจับตาผลประกอบการแบงก์ต่างประทศเป็นหลัก เพราะจะบ่งชี้ว่าปัญหาซับไพรม์จบจริงหรือไม่
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(11 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 796.47 จุด ลดลง 3.71 จุด เปลี่ยนแปลง -0.46% มูลค่าการซื้อขาย 15,760 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีช่วงเช้าเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ตลอด แต่พอเปิดตลาดมาช่วงบ่ายดัชนีหลุด 800 จุดลงมา และเคลื่อนไหวสลับบวกและลบตลอดช่วงบ่าย โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 807.86 จุด ส่วนจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ดัชนีปิดตลาด 796.47 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 115 หลักทรัพย์ ลดลง 191 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 129 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน วันนี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ 1,184.24 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 164.85 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,019.17 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นโดยรวมวันนี้ผันผวน เช้ามาดัชนีรีบาวน์ขึ้น หลังนายเบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ออกมาพูดเรื่องดอกเบี้ย แต่พอมาบ่ายหลุด 800 จุดลงมา แนวถัดไป 790 จุด สัปดาห์หน้ายังต้องรอเรื่องการเมือง
แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ ทยอยประกาศออกมา ทั้งแบงก์ไทยและแบงก์นอก ที่จับตาคือแบงก์นอก เพราะมีเรื่องของซับไพรม์
"ช่วงบ่ายนี้มีข่าวว่า เมอร์ริล ลินช์ ขาดทุน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ยังต้องรอดู เจพี มอร์แกน , เชส และซิตี้กรุ๊ป สถาบันการเงินเหล่านี้ หากประกาศผลประกอบการออกมาขาดทุน ก็แสดงว่าปัญหาซับไพรม์ ยังไม่จบ"
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,115.99 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท ลดลง 6.00 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,431.95 ล้านบาท ปิดที่ 394.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท
PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 845.41 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 836.77 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 1.00 บาท , TOP มูลค่าการซื้อขาย 709.22 ล้านบาท ปิดที่ 79.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(11 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 796.47 จุด ลดลง 3.71 จุด เปลี่ยนแปลง -0.46% มูลค่าการซื้อขาย 15,760 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีช่วงเช้าเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ตลอด แต่พอเปิดตลาดมาช่วงบ่ายดัชนีหลุด 800 จุดลงมา และเคลื่อนไหวสลับบวกและลบตลอดช่วงบ่าย โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 807.86 จุด ส่วนจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ดัชนีปิดตลาด 796.47 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 115 หลักทรัพย์ ลดลง 191 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 129 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุน วันนี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ 1,184.24 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 164.85 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,019.17 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นโดยรวมวันนี้ผันผวน เช้ามาดัชนีรีบาวน์ขึ้น หลังนายเบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ออกมาพูดเรื่องดอกเบี้ย แต่พอมาบ่ายหลุด 800 จุดลงมา แนวถัดไป 790 จุด สัปดาห์หน้ายังต้องรอเรื่องการเมือง
แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ ทยอยประกาศออกมา ทั้งแบงก์ไทยและแบงก์นอก ที่จับตาคือแบงก์นอก เพราะมีเรื่องของซับไพรม์
"ช่วงบ่ายนี้มีข่าวว่า เมอร์ริล ลินช์ ขาดทุน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ยังต้องรอดู เจพี มอร์แกน , เชส และซิตี้กรุ๊ป สถาบันการเงินเหล่านี้ หากประกาศผลประกอบการออกมาขาดทุน ก็แสดงว่าปัญหาซับไพรม์ ยังไม่จบ"
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,115.99 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท ลดลง 6.00 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,431.95 ล้านบาท ปิดที่ 394.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท
PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 845.41 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 836.77 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 1.00 บาท , TOP มูลค่าการซื้อขาย 709.22 ล้านบาท ปิดที่ 79.50 บาท ลดลง 0.50 บาท