ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง สวนทางตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ต่างชาติเทขายเกือบ 3 พันล. และกองทุนมีการปรับพอร์ต โดยปีนี้ ถือเป็นปีแรกที่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุน LTF สามารถนำหน่วยลงทุนครบ 5 ปี นำมาไถ่ถอนได้ เป็นผลให้กองทุน LTF อาจปรับพอร์ตเพื่อเพิ่มการถือเงินสดให้มากขึ้น ส่วนการเมืองคงต้องจับตาติดตามต่อไป คาดแนวโน้มสัปดาห์หน้า ตลาดอาจจะอ่อนตัวสลับรีบาวน์ โดยมีแนวรับ 805, 800 แนวต้าน 840,850 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(4 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 821.71 จุด ลดลง 10.92 จุด เปลี่ยนแปลง -1.31% มูลค่าการซื้อขาย 22,434.69 ล้านบาท โดยบรรยากาศการซื้อขายวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนตลอดทั้งวัน ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 839.58 จุด และจุดต่ำสุดที่ 821.71 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 116 หลักทรัพย์ ลดลง 209 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 111 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุนในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,895.65 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 404.76 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 3,300.41 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปิดเทรดบ่ายนี้ร่วงลง สวนทางจากช่วงเช้าที่ปิดเทรดปรับตัวขึ้นราว 4 จุด และตลาดฯยังเคลื่อนไหวสวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ต่างปรับตัวขึ้น ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่น
ทั้งนี้ คาดว่าคงเป็นผลจากการปรับพอร์ตของกองทุนต่างชาติ โดยตลาดหุ้นไทยอาจจะยังไม่อยู่ในสายตาของเขา เพราะยังมีความเสี่ยงอยู่ ทำให้หลายโบรกเกอร์ต่างชาติยังมองไม่เห็นว่าไทยจะดีขึ้น ซึ่งคาดว่าคงจะต้องรอให้ไทยมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จและมีการออกนโยบายต่างๆ ออกมาก่อน อาจจะทำให้นักลงทุนต่างชาติหันกลับมาลงทุนตลาดหุ้นไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ ปีนี้(2551) เป็นปีแรกที่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุน LTF สามารถนำหน่วยลงทุนมาไถ่ถอนได้(สำหรับคนที่ถือหน่วยลงทุนมาแล้ว 5 ปี)ดังนั้นทางกองทุน LTF ปรับพอร์ตลงทุนเพื่อเพิ่มเงินสดให้มากขึ้น เพื่อรองรับการไถ่ถอนจากผู้ถือหน่วยลงทุน
สำหรับประเด็นการเมืองก็เป็นตัวแปรหนึ่งที่ยังจะต้องจับตาต่อไป ในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล และนโยบายของภาครัฐว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่า ตลาดฯจะอ่อนตัวลงสลับกับการรีบาวน์ขึ้น เนื่องจากมีนักลงทุนบางกลุ่มที่รอซื้อหุ้นเมื่อดัชนีฯไหลลงมาระดับ 800 ต้น ๆ โดยให้แนวรับไว้ที่ 805, 800 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 840, 850 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,845.74 ล้านบาท ปิดที่ 346.00 บาท ลดลง 14.00 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,644.02 ล้านบาท ปิดที่ 155.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,934.42 ล้านบาท ปิดที่ 46.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 815.77 ล้านบาท ปิดที่ 370.00 บาท ลดลง 6.00 บาท , ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 773.26 ล้านบาท ปิดที่ 97.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(4 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 821.71 จุด ลดลง 10.92 จุด เปลี่ยนแปลง -1.31% มูลค่าการซื้อขาย 22,434.69 ล้านบาท โดยบรรยากาศการซื้อขายวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนตลอดทั้งวัน ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 839.58 จุด และจุดต่ำสุดที่ 821.71 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 116 หลักทรัพย์ ลดลง 209 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 111 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุนในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,895.65 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 404.76 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 3,300.41 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปิดเทรดบ่ายนี้ร่วงลง สวนทางจากช่วงเช้าที่ปิดเทรดปรับตัวขึ้นราว 4 จุด และตลาดฯยังเคลื่อนไหวสวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ต่างปรับตัวขึ้น ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่น
ทั้งนี้ คาดว่าคงเป็นผลจากการปรับพอร์ตของกองทุนต่างชาติ โดยตลาดหุ้นไทยอาจจะยังไม่อยู่ในสายตาของเขา เพราะยังมีความเสี่ยงอยู่ ทำให้หลายโบรกเกอร์ต่างชาติยังมองไม่เห็นว่าไทยจะดีขึ้น ซึ่งคาดว่าคงจะต้องรอให้ไทยมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จและมีการออกนโยบายต่างๆ ออกมาก่อน อาจจะทำให้นักลงทุนต่างชาติหันกลับมาลงทุนตลาดหุ้นไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ ปีนี้(2551) เป็นปีแรกที่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุน LTF สามารถนำหน่วยลงทุนมาไถ่ถอนได้(สำหรับคนที่ถือหน่วยลงทุนมาแล้ว 5 ปี)ดังนั้นทางกองทุน LTF ปรับพอร์ตลงทุนเพื่อเพิ่มเงินสดให้มากขึ้น เพื่อรองรับการไถ่ถอนจากผู้ถือหน่วยลงทุน
สำหรับประเด็นการเมืองก็เป็นตัวแปรหนึ่งที่ยังจะต้องจับตาต่อไป ในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล และนโยบายของภาครัฐว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่า ตลาดฯจะอ่อนตัวลงสลับกับการรีบาวน์ขึ้น เนื่องจากมีนักลงทุนบางกลุ่มที่รอซื้อหุ้นเมื่อดัชนีฯไหลลงมาระดับ 800 ต้น ๆ โดยให้แนวรับไว้ที่ 805, 800 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 840, 850 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,845.74 ล้านบาท ปิดที่ 346.00 บาท ลดลง 14.00 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,644.02 ล้านบาท ปิดที่ 155.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,934.42 ล้านบาท ปิดที่ 46.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 815.77 ล้านบาท ปิดที่ 370.00 บาท ลดลง 6.00 บาท , ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 773.26 ล้านบาท ปิดที่ 97.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
