xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดหุ้นเช้าผันผวน ดัชนีปิดลบ 5.17 จุด แรงกดดันตปท.ปัจจัยหลัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง แนวเดียวกับตลาดต่างประเทศ ปัจจัยลบเดิมๆ ยังมีน้ำหนักกดดันต่อเนื่อง โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ถือเป็นตัวแปรสสำคัญต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ส่วนตลาดหุ้นไทย กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และแบงก์ แนวโน้มไม่ค่อยดี แนวโน้มช่วงบ่ายอาจลงต่อได้อีก

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(14 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 791.30 จุด ลดลง 5.17 จุด เปลี่ยนแปลง -0.65% มูลค่าการซื้อขาย 4,954 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยอยู่ในแดนลบตลอดช่วงเช้า ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 794.29 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 788.04 จุด

นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการเศรษฐกิจและกลยุทธ์ สถาบันวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากตลาดฯยังคงรับผลลบจากปัจจัยเดิมๆ ในเรื่องของการชะลอตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้ตลาดทั่วโลกยังอยู่ภายใต้แรงกดดันของตัวดาวโจนส์

ทั้งนี้ ในตลาดบ้านเราคงจะมีอยู่ 2 เรื่องคือ ราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มของการปรับตัวลง ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีน้ำหนักคิดเป็น 35%ของตลาดโดยรวมได้รับผลกระทบในเชิงลบ ที่ค่อนข้างมากเหมือนกัน ประกอบกับกลุ่มเคมีฯ ตลาดฯก็มีการมองแนวโน้มไม่ค่อยดี

ขณะเดียวกับหุ้นในกลุ่มธนาคารเองก็ไม่ได้รับความสนใจ เนื่องจากว่าทุกคนต่างรอดูผลการประกาศงบฯงวดไตรมาส 4/50 ซึ่งจะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ไปจนถึงต้นสัปดาห์หน้า อีกทั้งรอดูทิศทางการเมืองไทยให้ชัดเจนด้วย ดังนั้นตลาดฯขณะนี้เป็นลักษณะของ Wait & See

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ให้จับตาดูราคาน้ำมันในตลาด Brent ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาด Brent ลดลงเล็กน้อย และตลาดฯคาดว่าราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้จะต่ำกว่า 90 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ถ้าราคาน้ำมันในตลาด Brent ลดลง แล้วมีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมาไหม ซึ่งมองว่าถ้ากลุ่มพลังงานมีแรงขายออกมา กลุ่มธนาคารจะมีแรงขายออกมาด้วย และทั้งสองกลุ่มนี้ก็คิดเป็น 50% ของตลาดโดยรวมแล้ว ถ้ายังมีแรงขายหุ้นทั้งสองกลุ่มนี้ออกมา โอกาสที่ดัชนีฯจะปรับตัวขึ้นไปก็ลำบาก พร้อมให้แนวรับที่ 790, 775 จุด แนวต้านให้ไว้ที่ 800 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 887.83 ล้านบาท ปิดที่ 39.00 บาท ลดลง 1.50 บาท , PTT มูลค่าการซื้อขาย 622.69 ล้านบาท ปิดที่ 322.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

TOP มูลค่าการซื้อขาย 417.77 ล้านบาท ปิดที่ 78.00 บาท ลดลง 1.50 บาท , PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 396.14 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 1.00 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 224.52 ล้านบาท ปิดที่ 390.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น