กคช.รอรัฐบาลใหม่แก้ปัญหาแฟลตดินแดง ผู้ว่าการฯ หวั่นแผนฟื้นฟูล่ม ยอมรับยุคทักษิณ เคยสังหยุดมาแล้ว เตรียมระดมสมองจัดสัมมนาใหญ่ 11 ก.พ.นี้
นายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ หรือ กคช. กล่าวว่า ได้เตรียมแนวทางแก้ปัญหาแฟลตดินแดงไว้ 4 ทางเลือก คือ 1. แลกสิทธิ์กับบ้านเอื้ออาทร 2. แจ้งความจำนงขอคืนสิทธิ์การเช่ารับค่าชดเชย จำนวน 250,000 บาท พร้อมค่าขนย้าย 10,000 บาท 3. ผู้ที่ต้องการย้ายไปโครงการใหม่สามารถอยู่อาศัยชั่วคราวไปก่อน ได้รับค่าขนย้าย 10,000 บาท ค่าเช่าอีกเดือนละ 3,000 บาท จนกว่าโครงการใหม่จะแล้วเสร็จ และทางเลือกสุดท้าย กรณีที่ผู้เช่าไม่สามารถจ่ายค่าเช่า จำนวน 3,200 - 3,800 บาทต่อเดือน ในการย้ายไปอยู่โครงการใหม่ได้ ให้ใช้สิทธิ์แลกห้องกับผู้อยู่อาศัยในแฟลตดินแดง 2 ที่ไม่ต้องทุบรื้อ แต่ต้องการย้ายไปอยู่โครงการใหม่แทน
ทั้งนี้ จะใช้แนวทางใดแก้ปัญหาแฟลตดินแดง ต้องรอนโยบายของนายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนโยบายของรัฐบาลใหม่อีกครั้ง
นายพิทยา เจริญวรรณ รองผู้ว่าการ กคช. ระบุว่า ขณะนี้การเจรจาได้คืบหน้าไปแล้วค่อนข้างมาก ชาวดินแดงเริ่มมีความเข้าใจ กคช.มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ายังมีความกังวล เนื่องจากไม่รู้ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องการฟื้นฟูเมือง หรือการฟื้นฟูดินแดงอย่างไร เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้มีภาระที่จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) และการแก้ไขปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทร
ทั้งนี้ ปัจจุบันจากการสำรวจความต้องการของชาวแฟลตดินแดงพบว่าต้องการแลกสิทธิบ้านเอื้ออาทร 104 ราย ขอคืนสิทธิและรับเงิน 191 ราย ต้องการอาศัยโครงการใหม่ 663 ราย ต้องการอยู่ที่เดิมโดยให้ซ่อม 405 ราย และอยู่ระหว่างการตัดสินใจ 344 ราย จากจำนวนที่ทำการสำรวจ 1,707 ราย จากผู้ที่อยู่อาศัยทั้งสิ้น 1,984 ยูนิต ผู้สื่อข่าวรายว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณปี 2545-2546 เป็นช่วงแรกของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ได้มีการสั่งหยุดเดินหน้าโครงการแฟลตดินแดงทั้งที่ กคช.ศึกษารายละเอียดโครงการและทำความเข้าใจกับชาวบ้านเสร็จแล้ว ส่งผลให้การพัฒนาโครงการชะงักไปประมาณ 5 ปี และในปัจจุบันโครงการดังกล่าวมีปัญหาเรื่องความไม่ปลอดภัยในการอาศัย จำเป็นต้องมีการพัฒนาใหม่ ส่งผลให้ กคช.ต้องลงไปเจรจากับชาวดินแดงใหม่
มีรายงานข่าวว่า ในวันที่ 11 ก.พ. กคช. จะจัดการสัมมนาระดับชาติเพื่อเสนอแนวทางแก้ปัญหาชุมชนเมืองดินแดงจากนักวิชาการ ภาคประชาชน
