xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยรูดจ่อหลุด 700 จุด “ซอคเจน” ถล่มฟันธงสวิงยาวถึงปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ซอคเจน” ถล่มตลาดหุ้นทั่วโลก ฝรั่งกระหน่ำขายไม่หยุด ดัชนีจ่อใกล้หลุด 700 จุด “วิเชฐ” แนะทยอยเก็บหุ้น เชื่อปัญหาจากต่างประเทศกระทบผลการดำเนินงาน บจ.ไม่มาก ด้าน “ปกรณ์” ฟันธงหุ้นไทยผันผวนยาวถึงกลางปีหน้า ห่วงการเคลื่อนย้ายเงินเข้า-ออกรุนแรง ย้ำมาตรการ ตลท.จับตาหุ้นเก็งกำไรทั้งขาขึ้น-ลง เชื่อ ศก.ไทยจะเริ่มฟื้นตัวครึ่งปีหลัง

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ วานนี้ (24 ม.ค.) ตลาดหุ้นยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องแม้ว่าในช่วงเช้าดัชนีจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 750 จุด โดยในช่วงบ่ายมีแรงขายออกมาอย่างหนักในหุ้นขนาดใหญ่จากข่าวตลาดหุ้นปารีส สั่งพักการซื้อขายหุ้นโซซิเอเต้ เจเนอราล (ซอคเจน) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดอันดับ2 ของฝรั่งเศส เนื่องจากตรวจพบว่ามีการฉ้อโกงซึ่งมูลค่าความเสียหายอาจสูงถึง 4.9 พันล้านยูโร (7.16 พันล้านดอลลาร์) ส่งผลทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาปิดที่ 728.58 จุด ลดลง 12.07 จุด หรือ 1.63% ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของวัน โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 750.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 16,508.98 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,217.77 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 764.91 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,452.86 ล้านบาท

นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ข่าวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ถึง 0.75% และยังมีแนวโน้มว่า ระยะอันใกล้นี้ถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ผลห่างระหว่างดอกเบี้ยในและนอกประเทศ ที่มากขึ้น ทำให้ต้องติดตามการพิจารณาของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะดูแลเรื่องดังกล่าวให้เหมาะสมได้อย่างไร เพราะอาจจะทำให้เกิดภาวะการไหลเข้าของเงินทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลสะท้อนไปยังค่าเงินบาท

ทั้งนี้ การประเมินอัตราดอกเบี้ยของไทยที่เหมาะสมถือว่าเป็นเรื่องที่ประเมินได้ยาก เพราะปัจจุบันยังไม่มีการวิเคราะห์ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปัญหาซับไพรม์อย่างชัดเจน ซึ่งเรื่องดังกล่าวควรจะต้องให้ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออก ธปท.รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือร่วมกันก่อนตัดสินใจเรื่องนโยบายดอกเบี้ยในประเทศ

ในส่วนของการมาตรการกันสำรอง 30% ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการประกาศยกเลิกนั้น ในขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าหากจะยกเลิกมาตรการดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจอย่างไร ซึ่ง ตลท.อาจจะต้องหารือกับ ธปท.เพื่อให้ข้อมูลก่อนจะสรุปอีกครั้ง

“ปัจจุบันแม้จะมีมาตรการกันสำรองแต่ค่าเงินบาทก็ยังแข็งอยู่ ซึ่งถ้าจะยกเลิกตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน เราต้องศึกษาเรื่องดังกล่าวให้รอบคอบ” นายวิเชฐกล่าว

สำหรับสภาวะการที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ถือว่าเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่น่าลงทุนเพราะราคาหุ้นหลายบริษัทอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน แต่การลงทุนจะต้องเป็นลักษณะการซื้อและถือระยะกลางถึงยาวขั้นต่ำ 6 เดือน ถึง 1 ปี เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจต่างประเทศไม่ได้ส่งผลโดยตรงกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย

**“ซอคเจน” ช็อกตลาดหุ้นทั่วโลก

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณีผลกระทบที่เกิดจากการสั่งพักการซื้อขายหุ้นโซซิเอเต้ เจเนอราล (ซอคเจน) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของฝรั่งเศส ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมาก เนื่องจากการลงทุนส่วนใหญ่ของซอคเจนในประเทศไทยมีไม่มาก เมื่อเทียบกับฮ่องกงที่มีการลงทุนมากกว่า ซึ่งน่าจะได้รับผลกระทบมากกว่า

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวสร้างความวิตกให้กับนักลงทุน แต่หากติดตามข้อมูลซึ่งในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าความเสียหายจากเรื่องดังกล่าวมีมากเพียงใด และจะส่งผลกระทบต่อไปยังธนาคารอื่นๆ หรือไม่ นักลงทุนจึงยังไม่ควรจะตกใจกับเรื่องดังกล่าวจนเกิดเหตุ

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะทำสถิติต่ำที่สุดรอบใหม่อีกครั้งโดยประเมินว่าดัชนีอาจจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยประเมินแนวรับที่ 720 จุด และแนวต้าน 740 จุด

**หวังรัฐบาลเร่งกระตุ้น ศก.

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลท.เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้ถึงกลางปี 2552 จะยังคงผันผวนและเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศมีการเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศ จากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำ (ซับไพรม์) ซึ่งนักลงทุนจะต้องระมัดระวังในการลงทุน โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง 13.69% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าตลาดในแถบภูมิภาคโดยมีเพียง 3 ตลาดหุ้นเท่านั้นที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าตลาดหุ้นไทยนั้น

ทั้งนี้ หากรัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายต่างๆ ได้ดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้เข้มแข็ง ก็จะเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินทุนต่างประเทศไหลกลับมาทุนประเทศไทย ดังนั้น จึงมองว่ายังจะไม่มีการออกมาตรการใดๆ เพื่อออกมารองรับจากการที่ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง

สำหรับปัญหาซับไพรม์ เชื่อว่า จะใช้เวลานานในการแก้ไข ซึ่งจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งเดียว 0.75% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี และยังเป็นการประชุมลดอัตราดอกเบี้ยทางโทรศัพท์ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

**ตลท.ยันดูแลหุ้นทั้งขึ้น-ลง

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท.กล่าวถึงการดูแลหุ้นขนาดเล็กที่มีการเข้ามาเก็งกำไรสูงว่า มาตรการการสั่งห้ามเน็ตเซทเทลเมนต์ และมาร์จินเทรดดิ้งของ ตลท.ไม่ได้พิจารณาแค่ช่วงราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจนผิดปกติเท่านั้น แต่ ตลท.จะพิจารณารวมถึงกรณีที่ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงผิดปกติด้วย

ทั้งนี้ หากการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาหุ้นมีคำอธิบาย สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นได้ก็ไม่ถือว่ามีความผิดปกติ แต่หากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นไม่สะท้อนถึงเหตุ และผลรวมถึงสภาวะการลงทุนของ ตลท.ก็อาจจะพิจารณาใช้มาตรการดังกล่าวเข้ามาเพื่อปกป้องนักลงทุน

**ลุ้น ศก.ไทยฟื้นครึ่งปีหลัง

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลท.กล่าวว่า จากการที่เศรษฐกิจไทยเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว โดยเฉพาะผลจากการบริโภคและการลงทุนในประเทศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้พื้นฐานเศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่งจนพร้อมรับมือกับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน หากได้ทีมเศรษฐกิจที่ดีเข้ามาบริหารประเทศด้วยแล้ว จะช่วยหนุนให้ทุกอย่างดีมากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณ 4.5-6%

อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจออกมาไม่ดี ก็ต้องใช้ปัจจัยในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อน โดยเฉพาะการลงทุนจากภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ต้องเดินหน้าต่อหลังจากหยุดพักมากว่า 2 ปี รวมทั้งจะต้องผลักดันกฏหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการลงทุนของภาคเอกชนให้ชัดเจนโดยเร็ว เพราะจะเป็นแรงสำคัญที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศได้เช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น