ภาวะหุ้นไทย วันนี้ ดัชนีเปิดตลาดภาคเช้าร่วงแรงทันทีเกือบ 20 จุด นักลงทุนทั่วโลกทิ้งตลาดหุ้น หลังสัญญาณวิกฤตซับไพรม์ส่อเค้าลุกลามจนรัฐบาลเอาไม่อยู่ กองทุนขนาดใหญ่ทั้งในสหรัฐฯและยุโรป เปิดฉากกระหน่ำเทขาย หลังประชาชนแห่ไถ่ถอนหน่วยลงทุน ตลาดหุ้นย่านเอเชียร่วง 5-8% ล่าสุด ตลาดอินเดียสั่งระงับการซื้อขายแล้ง หลังดัชนี BSE ร่วงหนักเกือบ 9.5%
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (22 ม.ค.) หลังเปิดตลาดดัชนีก็ดิ่งลงแดนลบทันทีเกือบ 20 จุด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก นักลงทุนต่างเทขายกันอย่างหนัก โดยตอนนี้ ทุกคนกำลังวิตกกังวลกับผลกระทบจากปัญหาซับไพรม์ของสหรัฐฯ ที่ลุกลามจนฉุดไม่อยู่ โดยเมื่องเวลา 10.00 น.ดัชนีปรับตัวลงมาอยู่ที่ 747.18 จุด ลดลง 19.35 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 2.52%
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยร่วงแรงกว่า 4% เป็นการปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่วันนี้ (22 ม.ค.) ที่ปรับตัวลงต่อเนื่องจากเมื่อวาน จากความวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และปัญหาเรื่อง “ซับไพรม์” ที่ได้ลุกลามออกไปยังประเทศยุโรป และแถบเอเชีย โดยวานนี้ทางแบงก์ใหญ่ของจีน ออกมายอมรับว่าได้รับผลกระทบจากซับไพรม์ ขณะที่กองทุนต่างๆ ยังคงปรับพอร์ตลดการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกและถือเงินสดเพิ่ม ทำให้มีแรงขายกระหน่ำในตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างที่ปรากฏ
“เมื่อวานยุโรปลงสาหัส ในขณะที่เอเชียของเรายังคงเปิดดิ่งต่อเนื่องจากวานนี้ จะเห็นได้จากตลาดหุ้นนิกเคอิติดลบอยู่ 4.8% และตลาดที่เหลือก็ติดลบมากเช่นกัน อย่างฮั่งเส็งเป็นตัวหลักที่ติดลบวันนี้อีก 8% ทั้งๆ ที่เมื่อวานนี้ถือว่าหลุดไปหนักแล้วกว่า 5% เรียกได้ว่าเป็นการปรับพอร์ตในระดับโลกที่กลัวเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ หุ้นไทยก็รับผลกระทบไปด้วย”
ทิศทางช่วงบ่ายต้องยอมรับว่า ยังมีแรงขายกดดันอยู่พอสมควร อย่างเก่งก็อาจจะลบน้อยลง แต่เท่าที่ดูยังมีแรงขายค่อนข้างสาหัส หลังจากวันนี้หลุดแนวรับไปแล้วหลายแนว
นายวรุฒน์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดร่วงแรงตามภูมิภาคเอเชียที่ตอนนี้กำลังมีการเทขายในลักษณะ panic sell เพราะความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะถดถอยจากผลกระทบปัญหาซับไพรม์ ขณะที่คาดหันว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯอาจโดนถล่มขายหนัก เพราะวิตกตลาดหุ้นทั่วโลกทรุก
คาดว่า ผู้ที่ถือหน่วยลงทุนในสหรัฐและยุโรป เกิดความตื่นตระหนก และแห่ทำการไถ่ถอนกองทุนที่ตัวเองถือไว้ ทำให้บรรดากองทุนไม่มีทางเลือกอื่นต้องขายทรัพย์สินหรือขายหุ้นที่ลงทุนไว้ โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่เอเชียทุกตลาด ทำให้ตลาดเอเชียวันนี้ปรับลงต่อเนื่องจากเมื่อวาน (21 ม.ค.) และแต่ละตลาดปรับลงมาก
ตอนนี้ผลกระทบมันลามเป็นลูกโซ่ ทุกคนเกรงกันว่ามันจะล้มจริงๆ และทำให้ผลกระทบเป็นโดมิโนไปทุกตลาดฯ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นบ้านเราคงไม่สามารถฝืนกระแสนี้ได้ โดยทิศทางดัชนีช่วง 2-3 วันนี้ ยังมีสิทธิที่จะปรับตัวลงต่อเนื่อง
**ตลาดหุ้นอินเดีย สั่งระงับการซื้อขายแล้ว
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อินเดีย ประกาศให้ระงับการซื้อขายหุ้นในตลาด หลังจากที่ดัชนี BSE (Bombay Stock Exchange) ซึ่งประกอบไปด้วยหุ้น 30 ตัว ดิ่งลงรุนแรงถึง 9.5% ในช่วงเปิดทำการซื้อขาย
โดยในช่วงเช้านี้ ดัชนี BSE ดิ่งลง 1,716 จุด หรือ 9.5% แตะระดับ 15,888 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดหุ้นอินเดียร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลที่ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐอาจฉุดเศรษฐกิจทั่วโลกให้ชะลอตัวลงด้วย ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้ฉุดตลาดหุ้นในเอเชียดิ่งลงถ้วนหน้าในวันนี้
โดยดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงดิ่งลงกว่า 8% ดัชนีนิกเคอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงกว่า 5% ดัชนีตลาดหุ้นจีนร่วง 4.7% ตลาดหุ้นอินโดนีเซียร่วง 9.1% ดัชนีตลาดหุ้นออสเตรเลียและตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดิ่งลงเกือบ 6% โดยมีรายข่าวเพิ่มเติมว่า เกาหลีใต้ได้สั่งระงับการซื้อขาย 5 นาที เมื่อช่วงเช้าวันนี้
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.11 น.ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 743.40 จุด ลดลง 23.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6,986.06 ล้านบาท
ล่าสุด 12.17 น.ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 732.48 จุด ลดลง 34.05 จุด เปลี่ยนแปลง -4.44% มูลค่าการซื้อขาย 13,065.77 ล้านบาท