รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) เอ็นฮานซ อินคัม ฟันด์ (PrimaVest (Thailand) Enhanced Income Fund) หรือ PEI ซึ่งเป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุน (Feeder Fund) ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศ เพียงกองทุนเดียว (Foreign Investment Fund) มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท ไม่กำหนดอายุโครงการ และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยจะทำการเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) ระหว่างวันที่ 2 -18 มกราคม 2551
สำหรับกองทุนดังกล่าว มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ขณะที่ส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก หรือตราสารแห่งหนี้ทั่วไป หรือเงินฝากในสถาบันการเงินตามกฎหมายไทย ที่มีอายุของตราสารหรือสัญญา หรือระยะเวลาการฝากเงิน แล้วแต่กรณี ต่ำกว่า 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับดำเนินงานของกองทุน รอการลงทุนในต่างประเทศ หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน หรืออาจจะลงทุนในเงินฝากระยะสั้นในสถาบันการเงินหรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสดในต่างประเทศ หรืออื่นๆตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด
โดยกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
อย่างไรก็ตาม หากกองทุนไม่สามารถเข้าลงทุนในกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund อันเนื่องจากการประกาศหยุดรับคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกที่กองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การตื่นตระหนกขายคืนหน่วยลงทุนของผู้ลงทุน (panic sell) หรือการเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศที่กองทุนลงทุน ตลอดจนความไม่มีเสถียรภาพในระบบตลาดการเงิน เป็นต้น บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิที่จะนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศอื่นที่มีนโยบายใกล้เคียง โดยถือว่าได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว ในการพิจารณาลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศนั้น บริษัทจัดการจะพิจารณาโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นหลัก ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนและสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่กองทุนลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินนั้น
สำหรับกองทุนดังกล่าว มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ขณะที่ส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก หรือตราสารแห่งหนี้ทั่วไป หรือเงินฝากในสถาบันการเงินตามกฎหมายไทย ที่มีอายุของตราสารหรือสัญญา หรือระยะเวลาการฝากเงิน แล้วแต่กรณี ต่ำกว่า 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับดำเนินงานของกองทุน รอการลงทุนในต่างประเทศ หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน หรืออาจจะลงทุนในเงินฝากระยะสั้นในสถาบันการเงินหรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสดในต่างประเทศ หรืออื่นๆตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด
โดยกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
อย่างไรก็ตาม หากกองทุนไม่สามารถเข้าลงทุนในกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund อันเนื่องจากการประกาศหยุดรับคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกที่กองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การตื่นตระหนกขายคืนหน่วยลงทุนของผู้ลงทุน (panic sell) หรือการเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศที่กองทุนลงทุน ตลอดจนความไม่มีเสถียรภาพในระบบตลาดการเงิน เป็นต้น บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิที่จะนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศอื่นที่มีนโยบายใกล้เคียง โดยถือว่าได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว ในการพิจารณาลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศนั้น บริษัทจัดการจะพิจารณาโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นหลัก ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนและสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่กองทุนลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินนั้น